พังงา - ฝ่ายปกครองอำเภอตะกั่วป่า ร่วมกับหลายหน่วยงานเข้าตรวจสอบที่สาธารณะริมชายหาดเขาหลัก อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา หลังจากนายทุนยังเข้าบุกรุกสร้างบ้านพักต่างอากาศ และร้านอาหารริมชายหาดไม่สนใจคำสั่ง คสช.
เมื่อเวลา 11.30 น.วันนี้ (1 พ.ย.) นายเจษฎา ธิติมุทา ปลัดอำเภอตะกั่วป่า จ.พังงา พร้อมด้วย นายสมศักดิ์ นิลตีบ นักวิชาการขนส่งเจ้าท่าพังงา นายสุรเชษฐ อารีการ พนักงานพิทักษ์ป่า ส 2 พ.ต.ท.อัครเดช ศุกระกาญจน์ สวป.สภ.เขาหลัก นายจำรัส หลีเจี้ย กำนันตำบลคึกคัก นายสีทอง สงวนนาม ผู้ใหญ่บ้าน ม.3 ต.คึกคัก พร้อมเจ้าหน้าที่ อส.ตะกั่วป่า และกรมเจ้าท่าภูมิภาคสาขาพังงา พนักงานพิทักษ์ป่าพังงา เข้าตรวจสอบพื้นที่หมู่ที่ 3 ต.คึกคัก อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา ซึ่งเป็นที่ นสล.4261 คลองปาง เนื้อที่ประมาณ 36 ไร่ เป็นที่สงวนตากอากาศ หลังได้เรื่องร้องเรียนว่ามีกลุ่มนายทุนเข้าก่อสร้างเป็นตึกก่ออิฐถือปูน 2 ชั้น จำนวน 1 หลัง และโรงเรือนที่ก่อสร้างด้วยหลังคามุงจาก ทำเป็นร้านอาหาร 1 หลัง ล่วงล้ำเข้าไปในชายหาด และทะเล
โดยพบว่าเนื้อที่ตามหนังสือครอบครองได้แสดงไว้โดยชัดเจนว่า เป็นลำคลองชื่อคลองปาง แต่กลับมีการถมดินทำให้ส่วนที่เป็นลำคลองหายไป และพื้นที่ติดกันนี้ได้มีการก่อสร้างแนวเขื่อน ถมดินปรับพื้นที่ที่จะเตรียมการก่อสร้างที่พักตากอากาศหรู ด้วยก้อนอิฐขนาดใหญ่เป็นระยะทางกว่า 100 เมตร ยื่นเข้าไปในลำคลองสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต จึงได้เข้ามาตรวจสอบส่วนบริเวณด้านหน้าหาดมีซุ้มไม้ไผ่ที่ตั้งไว้บริเวณหน้าหาดไว้บริการนักท่องเที่ยวอยู่ 5-6 หลัง โดยไม่ได้รับอนุญาตจากสำนักงานกรมเจ้าท่าฯ สาขาพังงา อันเป็นความผิดตามมาตรา 117 แห่งพระราชบัญญัติการเดินเรือในน่านน้ำไทย พุทธศักราช 2456 แก้ไขเพิ่มเติมโดยมาตรา 23 แห่งพระราชบัญญัติการเดินเรือในน่านน้ำไทยฉบับที่ (14) พ.ศ.2535 อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 118 ทวิ แห่งพระราชบัญญัติการเดินเรือในน่านน้ำไทย พระพุทธศักราช 2456 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดย มาตรา 26 แห่งพระราชบัญญัติการเดินเรือในน่านน้ำไทยฉบับที่ (14 ) พ.ศ.2535 ซึ่งทางเทศบาลตำบลคึกคัก ได้ดำเนินการดำเนินคดี และคดีได้ถึงที่สุด มีคำสั่งให้รื้อถอนอาคารสิ่งก่อสร้างเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่กลับพบว่ายังคงฝ่าฝืนดำเนินการอยู่ในขณะนี้
ส่วนบริเวณที่สองที่เจ้าหน้าที่ได้เข้าไปตรวจสอบ ซึ่งเป็นพื้นที่ นสล.ปากคลองขุด สงวนหมู่บ้าน หมู่ที่ 3 ต.คึกคัก อำเภอตะกั่วป่า เช่นกัน ซึ่งก่อนหน้านี้ ได้มีชาวบ้านได้ปลูกสร้างโรงเรือนทำร้านอาหาร ร้านนวด ตลอดหน้าหาด และทาง คสช. มีคำสั่งให้มีการจัดระเบียบให้รื้อถอนเพื่อเป็นการปรับปรุงภูมิทัศน์ ตอนนี้พื้นที่ดังกล่าวได้มีการรื้อถอนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่มีบางร้านที่ยังทำการแอบเปิดร้านอาหารโดยไม่ได้รับอนุญาตอยู่ ซึ่งก่อนที่เจ้าหน้าที่จะเข้าไปตรวจสอบนั้น คาดว่าข่าวน่าจะรั่วจึงทำให้ไม่พบตัวผู้กระทำผิด ด้านเจ้าของร้านที่ประสบภัยคลื่นลมพัดจนทำให้ร้านเสียหายในพื้นที่บ้านคึกคัก ยอมรับเงื่อนไขต่อการจัดระเบียบในครั้งนี้