ศูนย์ข่าวภูเก็ต - ผู้ว่าฯ ภูเก็ต พร้อมรองอธิบดีกรมเจ้าท่า เยี่ยมอาการผู้บาดเจ็บจากอุบัติเหตุเรือสปีดโบตชนเรืออวนลาก เน้นย้ำทุกฝ่ายดูแลเต็มที่ ขณะที่มาตรการดูแลความปลอดภัยทางทะเลเพิ่มมาตรการเข้มรับไฮซีซันที่จะถึง ป้องกันเกิดเหตุซ้ำ
วันนี้ (21 ต.ค.) ที่โรงพยาบาลกรุงเทพภูเก็ต นายนิสิต จันทร์สมวงศ์ พร้อมด้วย นางจิราภรณ์ จันทรศิริ รองอธิบดีกรมเจ้าท่า ผู้แทนจากบริษัทประกันภัย และคณะจากหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง ร่วมเข้าเยี่ยมอาการ พร้อมมอบกระเช้าของขวัญเป็นกำลังใจแก่นักท่องเที่ยวที่ประสบเหตุได้รับบาดเจ็บ จากกรณีเรือสปีดโบต ซีสตาร์ 29 ชนกับเรือประมงอวนลาก สินพิชัย 11 เมื่อวันที่ 19 ต.ค.ที่ผ่านมา ณ บริเวณกองหินมูสัง ห่างจากเกาะพีพี จ.กระบี่ 6 ไมล์ทะเล โดยมี นางหวัง หุยเจียน รองกงสุลและหัวหน้าสำนักงานกงสุลสาธารณรัฐประชาชนจีน และผู้แทนจากสถานทูตเกาหลีประจำประเทศไทย ตลอดจนฝ่ายบริหารโรงพยาบาลกรุงเทพ ภูเก็ต ร่วมให้การต้อนรับ
นายนิสิต จันทร์สมวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า เมื่อเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้นภาคราชการที่เกี่ยวข้องทุกฝ่าย ทั้งในส่วนของจังหวัด กรมเจ้าท่า กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ตำรวจทุกหน่วย เข้ามาดูแลช่วยเหลือนักท่องเที่ยว โดยที่โรงพยาบาลกรุงเทพ ภูเก็ต ซึ่งมีผู้ได้รับบาดเจ็บอาการค่อนข้างหนักมาพักรักษาตัวอยู่จำนวนหลายคน ก็ได้ประสานงานไปทางกงสุลจีนเข้ามาอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บอย่างใกล้ชิด เพื่อจะให้ความมั่นใจแก่นักท่องเที่ยวว่าเขาจะได้รับการดูแลในเรื่องของค่ารักษาพยาบาล วันนี้ทางสำนักงานท่องเที่ยวและกีฬาภูเก็ต ก็ได้จัดเจ้าหน้าที่มาประสานกับนักท่องเที่ยวชาวจีน เกาหลี เพื่อให้ความมั่นใจในเรื่องไฟลต์บิน ทางเราก็มีการดูแลอย่างดีที่สุด
นอกจากนี้ นายนิสิต ยังกล่าวถึงมาตรการดูแลความปลอดภัยระยะยาว เพื่อป้องกันอุบัติเหตุทางน้ำด้วยว่า ตรงส่วนนี้เรามีอยู่แล้ว เรื่องการรักษาความปลอดภัย มาตรฐานต่างๆ ในการดูแลนักท่องเที่ยว และจากการหารือกับรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เมื่อวานนี้ ก็ได้เน้นย้ำมาตรการสำคัญๆ ทั้งการสวมเสื้อชูชีพของนักท่องเที่ยว คนขับเรือ เจ้าหน้าที่ประจำเรือ จะต้องเข้มงวดกวดขันให้นักท่องเที่ยวสวมใส่เสื้อชูชีพตลอดเวลา จะมาตามใจนักท่องเที่ยวไม่ได้ เพราะคืบก็ทะเล ศอกก็ทะเล ไม่มีอะไรแน่นอน
ขณะที่คนขับเรือก็จะต้องเป็นผู้ที่มีความชำนาญ มีใบอนุญาตเหมือนการขับขี่รถสาธารณะ รู้เส้นทางการเดินเรือต่างๆ นอกจากนี้ เรือทุกลำจะต้องมีเครื่องมือสื่อสารที่ดี มีสำรองเพื่อติดต่อสื่อสารกันได้เมื่อมีเหตุการณ์เกิดขึ้น ขณะที่สภาพของเรือต้องอยู่ในสภาพที่พร้อม มีอุปกรณ์ต่างๆ ประจำเรือครบตามที่กฎหมายกรมเจ้าท่ากำหนด
ประการสุดท้าย เนื่องจากตอนนี้เรามีศูนย์เฉพาะกิจเพื่อช่วยเหลือนักท่องเที่ยวจากกรณีดังกล่าวตนก็จะให้ตั้งศูนย์เฉพาะกิจนี้เพื่อที่จะดูแลช่วยเหลือนักท่องเที่ยวต่อไปจนกว่าจะสิ้นสุดฤดูกาลท่องเที่ยว อย่างไรก็ตาม ขอความร่วมมือผู้ประกอบการท่องเที่ยวบอกเตือนนักท่องเที่ยวอย่างใกล้ชิด เพื่อไม่ให้วางตัวเองอยู่ในความเสี่ยง จะต้องเน้นย้ำให้สวมเสื้อชูชีพ ห้ามนักท่องเที่ยวไปนั่งที่หัวเรือ เหล่านี้เป็นต้น
ขณะที่ นางจิราภรณ์ จันทรศิริ รองอธิบดีกรมเจ้าท่า กล่าวในส่วนของเรือสปีดโบต ซีสตาร์ 29 ที่ประสบเหตุว่า สำหรับเรือลำดังกล่าวเดิมจดทะเบียนครั้งแรกที่พัทยา มีเขตการเดินเรือวิ่งระหว่างจ.ตราด กับ จ.นราธิวาส ต่อมา เรือลำนี้ได้มาเปลี่ยนเขตการเดินเรือที่ภูเก็ต โดยวิ่งระหว่าง จ.ระนอง กับ จ.สตูล มีการต่ออายุใบอนุญาตใช้เรือถูกต้อง ผู้ควบคุมเรือมีประกาศนียบัตรถูกต้อง จำนวนคนประจำเรือ จำนวนผู้โดยสารก็เป็นไปตามที่กำหนดในใบอนุญาตใช้เรือ ในเรือมีชูชีพ มีอุปกรณ์ครบตามที่กำหนด
“ในวันนี้ได้ส่งเจ้าหน้าที่สอบปากคำผู้ควบคุมเรือของเรือซีสตาร์ 29 แล้วก็สอบพยานแวดล้อมต่างๆ รวมทั้งเรือประมงที่จอดอยู่ในวันเกิดเหตุ และจะมีการประชุมสรุปหาสาเหตุที่ถูกต้องอีกครั้งหนึ่ง ถ้าเกิดจากความประมาทของผู้ควบคุมเรือ เราก็จะลงโทษตามกฎหมายของกรมเจ้าท่า และเพื่อหาแนวทางป้องกันเพื่อไม่ให้เกิดอุบัติเหตุซ้ำอีก อย่างไรก็ตาม เรื่องมาตรการดูแลความปลอดภัย เจ้าหน้าที่ได้มีการรณรงค์อย่างสม่ำเสมอ พยายามช่วยกันทุกฝ่ายในเรื่องความปลอดภัย ทั้งในเรื่องพนักงานประจำท่าเทียบเรือ ก็มีการกวดขัน เน้นย้ำให้นักท่องเที่ยวสวมเสื้อชูชีพตลอดเวลา” นางจิราภรณ์ กล่าวในที่สุด