ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - ตำรวจสงขลา ตามรวบแก๊งโจรกรรมพระพุทธรูป และวัตถุโบราณล้ำค่า พร้อมของกลางพระพุทธรูปเก่าแกกว่า 30 องค์ สารภาพขโมยมาแล้ว 9 วัด ก่อนจะนำไปเร่ขายใน กทม.
วันนี้ (25 ต.ค.) ที่กองบังคับการตำรวจภูธร จ.สงขลา พ.ต.อ.อำพล บัวรับพร รักษาราชการแทนผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.สงขลา แถลงข่าวการจับกุม 3 คนร้ายแก๊งโจรกรรมพระพุทธรูป และโบราณวัตถุเก่าแก่ ประกอบด้วย นายปราโมทย์ บุญพลับ อายุ 40 ปี ชาว จ.สุราษฎร์ธานี นายธเนศ หรือต้น อินทระ อายุ 31 ปี ชาว จ.สงขลา และนายชูชาติ หรือวี ชูแก้ว อายุ 45 ปีชาว จ.พัทลุง
พร้อมของกลางพระพุทธรูปเก่าแก่ และโบราณวัตถุมากกว่า 30 รายการ ที่เจ้าหน้าที่ติดตามคืนมาได้ และยึดรถยนต์กระบะยี่ห้ออีซูซุ สีเขียว ทะเบียน บค 2145 สตูล 1 คัน รถยนต์เก๋งยี่ห้อฮอนด้าซีวิค สีดำ ทะเบียน กง 7203 สุราษฎร์ธานี 1 คัน ซึ่งเป็นรถที่ใช้ตระเวนก่อเหตุ
หลังจากที่ทั้ง 3 คน ตระเวนขโมยมาจากวัด และโบราณสถาน 9 แห่งใน จ.สงขลา ระหว่างเดือนพฤษภาคม ถึงเดือนตุลาคมที่ผ่านมา และนำไปขายตามแผงพระ และร้านพระเครื่องในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ซึ่งยังมีอีกบางส่วนที่เจ้าหน้าที่กำลังอยู่ระหว่างการติดตามคืนมา
สำหรับคดีนี้สืบเนื่องจากเมื่อช่วงเดือนพฤษภาคม ถึงเดือนตุลาคม ได้มีคนร้ายไม่ทราบจำนวนร่วมกันขับรถยนต์ส่วนตัวออกตระเวนดูลาดเลาตามวัดต่างๆ ในพื้นที่จังหวัดสงขลา ก่อนขโมยพระพุทธรูป และโบราณวัตถุจากวัดต่างๆ ประกอบด้วย วัดโลการาม วัดภูติบรรพต วัดแหลม วัดเลียบ วัดมะม่วง อ.สิงหนคร จ.สงขลา พิพิธภัณฑ์วัดดอน อ.หาดใหญ่ วัดเนินพิจิตร อ.นาหม่อม วัดมัชฌิมาวาส วัดบางทึง อ.ควนเนียง ได้พระพุทธรูปรุ่นต่างๆ และโบราณวัตถุไปจำนวนหลายรายการ
หลังเกิดเหตุตำรวจพยายามแกะรอยติดตามจับกุมคนร้าย จนทราบเบาะแสคนร้ายที่ร่วมกันก่อเหตุ คือ นายปราโมทย์ บุญพลับ นายธเนศ อินทระ และนายชูชาติ ชูแก้ว จึงได้ออกหมายจับทั้ง 3 คน พร้อมประสานงานกับตำรวจชุดสืบสวนภาค 8 ตามจับกุมตัวผู้ต้องหาทั้งหมดได้ที่ อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี พร้อมตามยึดของกลางคืนมาได้เกือบทั้งหมด
จากการสอบสวนผู้ต้องหารับสารภาพว่า ร่วมกันก่อเหตุลักทรัพย์เป็นพระพุทธรูป และโบราณวัตถุตามวัดต่างๆ ในพื้นที่จังหวัดสงขลาจริง โดยหลังจากร่วมกันขโมยพระพุทธรูปมาได้แล้วจะนำไปเร่ขายตามแผงขายพระ และร้านพระเครื่องในพื้นที่กรุงเทพฯมหานคร และจากการตรวจสอบประวัติของ นายปราโมทย์ บุญพลับ และนายธเนศ หรือต้น อินทระ เคยต้องโทษคดีลักทรัพย์มาแล้วหลายครั้ง โดยเฉพาะ นายธเนศ หรือต้น ติดยาเสพติดงอมแงมได้เงินมานำไปซื้อยาเสพ เคยติดคุกมาครั้งนี้เป็นครั้งที่ 3 แต่ยอมรับว่าก่อเหตุขโมยพระพุทธรูปมาแค่ 5 วัด เหลืออีก 4 วัดไม่ยอมรับ
พ.ต.อ.อำพล กล่าวว่า ถึงแม้ นายธเนศ หรือต้น จะปฏิเสธส่วนที่เหลือ แต่ตำรวจยืนยันว่าตำรวจมีพยานหลักฐานชัดเจน ทั้งภาพจากกล้องวงจรปิดขณะก่อเหตุ และหลักฐานจากนิติวิทยาศาสตร์ สามารถใช้พยานหลักฐานที่มีอยู่ดำเนินคดีต่อผู้ต้องหาทั้งหมดได้อย่างแน่นอน
