ชุมพร - โจรบาปบุกพิพิธภัณฑ์ท้องถิ่นกลางดึก โจรกรรมพระพุทธรูปล้ำค่า 8 องค์ ในวัดเทพเจริญ จ.ชุมพร หลบหนีลอยนวล ตำรวจสันนิษฐานน่าจะเป็นคนใกล้ชิดเจ้าอาวาส หรือไม่ก็แก๊งซื้อขายพระ และของโบราณ
เมื่อเวลา 10.30 น.วันนี้ (18 ก.ค.) พ.ต.อ.ภาศกร ณ พิกุล ผกก.สภ.ท่าแซะ จ.ชุมพร พ.ต.ท.อารมณ์ น้ำใจสุข สว.สส. พร้อมตำรวจชุดสายสืบ เดินทางไปที่วัดเทพเจริญ หรือวัดถ้ำรับร่อ ต.ท่าข้าม อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร หลังจากมีคนร้ายเข้าไปขโมยพระพุทธรูปเก่าแก่ล้ำค่าเมื่อกลางดึกที่ผ่านมา เพื่อหาหลักฐานเพิ่มเติมในการติดตามจับกุมคนร้าย ภายในอาคารศาลาเทพสิทธานุสรณ์ ชั้น 2 ซึ่งได้จัดไว้เป็นพิพิธภัณฑ์ท้องถิ่น โดยมี พระอธิการธรรมยุติ ชยธรรมโม เจ้าอาวาสวัดเทพเจริญ พระภิกษุ คณะกรรมการร่วมตรวจสอบ
จากการตรวจสอบที่ประตูทางเข้าออกในพิพิธภัณฑ์ไม่มีร่องรอยการงัดแงะ หรือถูกทำลายแต่อย่างใด แต่ตัวแม่กุญแจที่ใช้ล็อกประตูหายไป ส่วนภายในพบรอยเท้าของคนร้ายเหยียบย่ำบนพื้นไม่ต่ำกว่า 2 คน ตรวจสอบมีพระพุทธรูปที่ถูกคนร้ายโจรกรรมไปทั้งหมด 8 องค์ เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย รูปแบบศิลปะรัตนโกสินทร์ เนื้อโลหะสีดำ หน้าตักกว้าง 12 นิ้ว สูง 15 นิ้ว อายุกว่า 100 ปี 1 องค์ พระแก้วมรกตจำลองปางสมาธิ และปางมารวิชัย หน้าตักกว้าง 5 นิ้ว สูง 7 นิ้ว จำนวน 3 องค์ และพระพุทธรูปไม้ประทับยืน ปางห้ามญาติปิดทองสูง 13 นิ้ว จำนวน 4 องค์ ทั้งหมดเป็นพระเก่าแก่มีคุณค่าไม่สามารถประเมินราคาได้ ซึ่งวางอยู่บนชั้นจัดแสดงในพิพิธภัณฑ์ท้องถิ่นที่เก็บรวบรวมโบราณวัตถุ ศิลปวัตถุ และมรดกทางวัฒนธรรม เพื่อไว้ให้นักท่องเที่ยว นักเรียน นักศึกษา และประชาชนได้เที่ยวชมศึกษาประวัติความเป็นมา เนื่องจากวัดเทพเจริญ หรือวัดถ้ำรับร่อ เป็นวัดที่ได้รับการประกาศเป็นโบราณสถานเมื่อปี 2479 และยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญแห่งหนึ่งของ จ.ชุมพรด้วย
พระอธิการธรรมยุติ ชยธรรมโม เจ้าอาวาสวัดเทพเจริญ กล่าวว่า อาตมาเป็นผู้เก็บรักษากุญแจไว้แต่เพียงผู้เดียว ส่วนผู้ที่เปิดปิดประตูทางเข้าออกพิพิธภัณฑ์ จะมีพระไวยากรณ์ของวัดเป็นผู้ดูแลแล้วเอากุญแจมาเก็บไว้ที่อาตมาทุกครั้ง บางวันอาตมาไม่อยู่เดินทางไปกิจนิมนต์ หรือทำธุระไกลๆ ก็จะเอากุญแจซ่อนไว้บริเวณกุฏิซึ่งจะรู้กันเพียงอาตมา กับพระไวยากรณ์ของวัดเท่านั้น
จากการสอบสวนเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิษฐานว่า คนร้ายน่าจะเป็นคนใน หรือลูกศิษย์ใกล้ชิดเจ้าอาวาสที่สามารถเข้านอกออกในอยู่เป็นประจำ และรู้ความเคลื่อนไหวภายในวัดเป็นอย่างดี ได้แอบเอาลูกกุญแจที่เจ้าอาวาสเก็บไว้บริเวณกุฏิช่วงไม่อยู่วัดนำไปปั๊มดอกใหม่ แล้วเอากลับมาเก็บไว้ที่เดิม จากนั้นเมื่อสบโอกาสช่วงกลางดึกได้พาพรรคพวกย่องขึ้นไปเอากุญแจดอกที่แอบปั๊มมาไขกุญแจประตูเข้าพิพิธภัณฑ์ และเข้าไปขโมยพระพุทธรูป แล้วเอาแม่กุญแจที่ไขออกติดมือออกไปด้วย หรืออีกประเด็นอาจจะเป็นพวกค้าพระพุทธรูปที่เคยเข้ามาดูลาดเลาภายในวัด และเห็นว่าประตูพิพิธภัณฑ์ดังกล่าวมีกุญแจล็อกไว้เพียงลูกเดียว และภายในวัดไม่มีการติดตั้งกล้องวงจรปิด จึงใช้วิธีสะเดาะกุญแจเข้าไปขโมยพระพุทธรูปดังกล่าว ซึ่งตำรวจได้เก็บรวบรวบพยานหลักฐานลายนิ้วมือแฝง และหลักฐานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องไว้ติดตามจับกุมคนร้ายใจบาปมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
