ศูนย์ข่าวภูเก็ต - รอง ผบ.ตร. “พล.ต.อ.เรืองศักดิ์ จริตเอก” ลงพื้นที่ภูเก็ตติดตามความคืบหน้าการค้นหา 2 นักท่องเที่ยวเกาหลีที่สูญหายจากอุบัติเหตุเรือสปีดโบตชนเรืออวนลาก และเยี่ยมให้กำลังใจนักท่องเที่ยวที่บาดเจ็บ พร้อมเผย ผบ.ตร.เป็นห่วงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมาก ได้วางมาตรการในการดูแลความปลอดภัยทางเรือ และตั้งศูนย์เฉพาะกิจค้นหาผู้สูญหายแล้วจนกว่าจะพบ
เมื่อเวลา 16.00 น. วันนี้ (20 ต.ค.) พล.ต.อ.เรืองศักดิ์ จริตเอก รอง ผบ.ตร.เดินทางมาเยี่ยมให้กำลังใจนักท่องเที่ยวที่ได้รับบาดเจ็บจากอุบัติเหตุเรือสปีดโบต ซีสตาร์ 29 ชนเรือประมงอวนลาก ที่บริเวณกองหินมูสัง จ.กระบี่ เมื่อวานนี้ หลังจากประชุมติดตามความคืบหน้าการช่วยเหลือนักท่องเที่ยวที่ได้รับบาดเจ็บ และการค้นหานักท่องเที่ยวเกาหลีที่ยังสูญหายอยู่อีก 2 คน รวมถึงมาตรการให้การป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้นอีก ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมด โดยมี พล.ต.ต.พชร บุญญสิทธิ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต ร่วมด้วย โดยได้เข้าเยี่ยมนักท่องเที่ยวชาวจีน และเกาหลีที่นอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลกรุงเทพภูเก็ต พร้อมทั้งได้สอบถามอาการ และแสดงความห่วงใยนักท่องเที่ยว หลังจากนั้น ได้เดินทางโดยเรือสปีดโบตของตำรวจน้ำไปตรวจติดตามภารกิจการค้นหานักท่องเที่ยวชาวเกาหลีที่สูญหาย 2 ราย ในทะเลอันดามัน บริเวณจุดเกิดเหต
พล.ต.อ.เรืองศักดิ์ จริตเอก รอง ผบ.ตร.กล่าวว่า พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผบ.ตร.เป็นห่วงเหตุการณ์เรือสปีดโบตชนเรือประมงอวนลากในทะเลอันดามัน จนทำให้นักท่องเที่ยวได้รับบาดเจ็บและสูญหาย 2 คนมาก จึงได้มอบหมายให้ตนลงมาดูแลนักท่องเที่ยวที่ได้รับบาดเจ็บที่ขณะนี้บางส่วนก็ได้ออกจากโรงพยาบาลไปบ้างแล้ว และมาติดตามความคืบหน้าการค้าหานักท่องเที่ยวชาวเกาหลีที่ยังสูญหายอยู่ในขณะนี้ โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ออกค้นหาในระยะ 10 ไมล์ทะเลจากที่เกิดเหตุอย่างต่อเนื่องตั้งแต่หลังเกิดเหตุ จนถึงขณะนี้ใกล้จะครบ 24 ชั่วโมงแล้ว เจ้าหน้าที่ยังคงเดินหน้าในการค้นหาตลอดไป โดยมีการค้นหาทั้งทางเรือ และทางอากาศ โดยทางเรือมีเรือของตำรวจน้ำออกค้นหา 2 ลำ และการค้นในมุมสูงโดยเฮลิคอปเตอร์ของทัพเรือภาค 3 รวมทั้งอาสาสมัครที่เป็นเรือประมง แต่จนถึงขณะนี้ก็ยังไม่พบผู้ที่สูญหาย แม้ว่าเจ้าหน้าที่ทุกหน่วยจะทำการค้นหาอย่างเต็มที่ และเต็มกำลังแล้วก็ตาม
อย่างไรก็ตาม เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ในลักษณะซ้ำอีก จึงได้กำหนดมาตรการในการป้องกันเหตุที่จะเกิดขึ้นทางน้ำต่อนักท่องเที่ยว และประชาชน โดยต่อไปนี้ก่อนที่จะให้เรือออกจากฝั่งจะต้องเข้มงวดกวดขันจากทุกฝ่าย ไม่ว่าจะเป็นตำรวจที่จะต้องประจำท่าเรือ ตำรวจท่องเที่ยว ฝ่ายปกครอง และอาสาสมัคร เจ้าท่า ซึ่งเรือที่จะออกจากฝั่งได้จะต้องจะต้องมีเสื้อชูชีพที่พร้อม นายท้ายเรือจะต้องพร้อมในการทำงาน จะต้องมีใบนายท้ายเรือที่จะแสดงถึงความพร้อม ความชำนาญในเรื่องของล่องน้ำ ใบประกาศเรือที่บ่งบอกความพร้อมของเรือก่อนที่จะออกจากฝั่ง เครื่องมือสื่อสารที่ใช้ในช่วงฉุกเฉิน และท้ายสุด ในเรื่องตัวเรือที่ทางเจ้าท่าจะต้องตรวจสภาพเรือ หากทราบเบาะแสก็สามารถที่จะแจ้งได้ที่ 1196
พล.ต.อ.เรืองศักดิ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ขณะนี้ได้มีการจัดตั้งศูนย์เฉพาะกิจเพื่อติดตามการค้นหานักท่องเที่ยวที่สูญหาย โดยได้มอบหมายให้ตำรวจภูธรภาค 8 เป็นหัวหน้าทำงาน ร่วมกับตำรวจน้ำ ฝ่ายปกครอง มูลนิธิกู้ภัย ฝ่ายพยาบาล ในการค้นหานักท่องเที่ยวที่สูญหายตลอดไป ซึ่งขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ได้ทำการค้นหาเต็มกำลังที่มีทั้งทางเรือ และภาพในมุมสูง