ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - อิทธิพลพายุโซนร้อน “คปปุ” พัดพาหมอกควันอินโดฯ ปกคลุมหาดใหญ่อีกครั้ง แต่มีฝนช่วยชะล้างทำให้สถานการณ์ไม่รุนแรงเหมือนที่ผ่านมา เผยปีนี้กระทบภาคใต้เกิน 10 ระลอกแล้ว
วันนี้ (20 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พื้นที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ได้รับผลกระทบจากปัญหาหมอกควันจากไฟไหม้ป่าบนเกาะสุมาตรา ประเทศอินโดนีเซียอีกครั้ง โดยภาพจากมุมสูงบนยอดเขาคอหงส์ พบว่า หมอกควันปกคลุมทั่วทั้งตัวเมืองหาดใหญ่ค่อนข้างหนาแน่น และมองเห็นตัวเมืองได้เพียงเลือนรางเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม นายฮาเล็ม เจะมาริกัน ผู้อำนวยการสำนักงานสิ่งแวดล้อมภาคที่ 16 เผยว่า ปริมาณหมอกควันระลอกนี้ไม่รุนแรงเหมือนครั้งที่ผ่านมา คุณภาพอากาศทั้งหาดใหญ่ และทุกจังหวัดของภาคใต้ตอนล่างยังปลอดภัย และจากการประเมินค่าฝุ่นละอองในอากาศทั้งรายชั่วโมงและเฉลี่ย 24 ชั่วโมงของหมอกควันระลอกนี้ไม่เกินค่ามาตรฐานที่ 120 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร และจะปกคลุมในระยะสั้นๆ เพียง 1-2 วันนี้เท่านั้น และหมอกควันที่พัดเข้ามามีเพียงก้อนเดียว สำหรับสถานการณ์หมอกควันจากไฟไหม้ป่าบนเกาะสุมาตรา ประเทศอินโดนีเซีย ที่พัดเข้ามาในภาคใต้ในปีนี้เกินกว่า 10 ระลอกแล้ว
ด้าน น.ส.พะเยาว์ เมืองงาม ผู้อำนวยการศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคใต้ฝั่งตะวันออก เปิดเผยว่า สาเหตุที่ทำให้หมอกควันพัดเข้ามาในภาคใต้อีกครั้งเนื่องจากมีพายุโซนร้อน “คปปุ” (KOPPU) ในทะเลจีนใต้ ดูดลมตะวันตกเฉียงใต้ที่ปกคลุมทะเลอันดามันขึ้นไปเลี้ยงพายุ ประกอบกับบริเวณความกดอากาศสูงที่ปกคลุมประเทศไทยตอนบนอ่อนกำลังลง ส่งผลทำให้ลมตะวันตกเฉียงใต้พัดเอาหมอกควันไฟป่าจากเกาะสุมาตรา ประเทศอินโดนีเซีย พัดเข้ามาปกคลุมในพื้นที่ จ.สงขลา และจะคลี่คลายจนกว่าพายุโซนร้อน “คปปุ” จะขึ้นฝั่งในประมาณวันที่ 22-23 ต.ค.นี้
แต่ในระยะนี้ในพื้นที่ภาคใต้จะมีฝนฟ้าคะนองกระจายประมาณ 60% ของพื้นที่ ซึ่งจะช่วยชะล้างหมอกควันทำให้สถานการณ์ไม่รุนแรงเหมือนครั้งที่ผ่านมา แต่ในช่วงเช้าสภาพอากาศหลายพื้นที่อาจปิดจากหมอกควัน และหมอกธรรมชาติเพราะระยะนี้ฝนตกอากาศชื้น
