นครศรีธรรมราช - วิศวกรกลุ่ม “พาวเวอร์ ไชน่า” เข้าศึกษาความเป็นได้ในการลงทุน “ฟาร์มกังหันลม” ผลิตไฟฟ้าชนิดติดตั้งในทะเล มูลค่ากว่า 1 แสนล้าน บริเวณหน้าอ่าวแหลมตะลุมพุก ไปจนถึงหน้าอ่าวสทิงพระ ระยะทางกว่า 120 กิโลเมตร ชี้หากทำสำเร็จจะเป็นฟาร์มกังหันลมใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียอาคเนย์ เตรียมเปิดประชาพิจารณ์รับฟังความเห็นประชาชนเร็วๆ นี้
วันนี้ (14 ต.ค.) ที่ จ.นครศรีธรรมราช กลุ่มผู้เชี่ยวชาญ วิศวกร และผู้บริหารกลุ่ม “พาวเวอร์ ไชน่า” ซึ่งเป็นกลุ่มธุรกิจพลังงานทดแทนขนาดใหญ่จากประเทศจีน ได้เข้ารับฟังผลการศึกษาวิจัยความเป็นไปได้ในการลงทุนโครงการพลังงานทดแทน มูลค่ากว่า 1 แสนล้าน ที่โรงแรมทวินโลตัส อำเภอเมือง จังหวัดนครศรีธรรมราช โดยมีนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ เป็นผู้ศึกษาวิจัย และรายงานผลการศึกษา โดยให้มีผู้รับฟังเฉพาะผู้เกี่ยวข้องเท่านั้น โดยไม่เปิดโอกาสให้ผู้สื่อข่าวที่ติดตามเรื่องนี้เข้าร่วมรับฟัง และบันทึกภาพ
อย่างไรก็ตาม ภายหลัง นายจรูญ ศิริปัญจพร นักวิชาการที่ปรึกษากลุ่ม บริษัท พาวเวอร์ ไชน่า ได้ เปิดเผยว่า ทางผู้บริหารอยู่ในระหว่างการศึกษาความเป็นได้เพื่อนำไปสู่การตัดสินใจลงทุนสร้างฟาร์มกังหันลมชนิดติดตั้งในทะเล ซึ่งเป็นพลังงานทางเลือกที่ไปกันได้กับสิ่งแวดล้อม พื้นที่ที่อยู่ในระหว่างการศึกษา คือ แนวฝั่งอ่าวไทยตั้งแต่หน้าแหลมตะลุมพุก อำเภอปากพนัง จังหวัดนครศรีธรรมราช ไปจนถึงหน้าอ่าวสทิงพระ อำเภอสทิงพระ จังหวัดสงขลา มีระยะทางประมาณ 120 กิโลเมตร โดยมีพื้นที่ในทะเลห่างจากฝั่งมากกว่า 1 กิโลเมตร ไปจนถึงระยะ 10 กิโลเมตรระยะห่างต่อต้นราว 60 เมตร กำลังการผลิตรวมที่มีความเสถียรมากกว่า 1,200 เมกะวัตต์ ซึ่งหากผลการศึกษาว่ามีความเหมาะสมเพียงพอ และหากมีการลงทุนก่อสร้างนั้นจะทำให้สถานการณ์ไฟฟ้าในประเทศไทยนิ่งไปได้ถึง 15 ปี
เป้าหมายในการก่อสร้างนั้นอาจใช้กังหันผลิตไฟฟ้าต้นละ 2.5 เมกะวัตต์ จำนวน 1-2 พันต้น มูลค่าของโครงการมากกว่า 1 แสนล้านบาท ซึ่งขณะนี้มีความเป็นไปได้สูง และหากมีการดำเนินการแล้วเสร็จย่านนี้จะเป็นฟาร์มกังหันลมที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียอาคเนย์ ส่วนการศึกษาในระยะต่อไปนั้นจะมีการศึกษา และติดตั้งเสากังหัน จำนวน 10 ตัว ทดสอบเสถียรภาพ นอกจากนั้น จะมีกระบวนการรับฟังความคิดเห็นตามกฎหมาย และเปิดโอกาสให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วม เช่น การร่วมกันสร้างแหล่งอนุบาลพันธ์สัตว์น้ำในเขตปลอดภัยรอบเสากังหันในทะเล เป็นต้น