กระบี่ - เจ้าหน้าที่ตำรวจตั้งข้อหาหนุ่มขับเรือหางยาวประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นเสียชีวิต หลังพานักท่องเที่ยวชาวอินเดีย 2 คน ไปจมน้ำดับกลางทะเลเมื่อวานนี้ ทราบแล้วว่านักท่องเที่ยวทั้ง 2 รายเป็นใคร ประสานสถานทูตอินเดียรับศพไปประกอบพิธีกรรมทางศาสนาต่อไป ด้านเจ้าหน้าที่หามาตรการให้นักท่องเที่ยวสวมเสื้อชูชีพขณะเดินทางทางเรือ
จากกรณีที่เกิดเหตุสลด 2 นักท่องเที่ยวชาวอินเดีย นั่งเรือหัวโทงโดยสารนำเที่ยว จากหาดไร่เลย์ อ.เมือง จ.กระบี่ เพื่อมาขึ้นฝั่งที่ท่าเรือคลองยิงเสือ ม.2 ต.อ่าวนาง อ.เมือง จ.กระบี่ เพื่อกลับที่พัก แต่ระหว่างทางได้เกิดคลื่นลมในทะเลมีกำลังแรง สูงประมาณ 3 เมตร ทำให้เรือโดยสารที่นักท่องเที่ยวทั้ง 2 คน โดยสารมาเกิดล่มกลางทะเล ก่อนถึงท่าเรือประมาณ 100 เมตร ทำให้นักท่องเที่ยวทั้ง 2 ราย จมน้ำเสียชีวิต ส่วนคนขับเรือได้ว่ายน้ำเข้าฝั่งปลอดภัย ในเบื้องต้น ทางเจ้าหน้าที่ได้ทำการควบคุมตัวมาสอบสวนที่ สภ.เมืองกระบี่ และเร่งตรวจสอบว่าผู้ตายเป็นใคร เนื่องจากขณะเกิดเหตุไม่พบหลักฐานใดๆ ที่ตัวผู้ตาย เหตุเกิดเมื่อวันที่ 5 ต.ค.ที่ผ่านมา ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าล่าสุด วันนี้ ( 6 ต.ค.) ร.ต.อ.ประพันธ์ หนูชัยแก้ว พนักงานสอบสวนเจ้าของคดี เปิดเผยว่า หลังจากเกิดเหตุก็ได้ควบคุมตัว นายเอกพงศ์ กิ่งเล็ก อายุ 25 ปี อยู่บ้านเลขที่ 97 หมู่ที่ 5 ต.ไสไทย อ.เมือง จ.กระบี่ ซึ่งเป็นคนขับเรือลำเกิดเหตุมาทำการสอบสวน พร้อมแจ้งข้อกล่าวหาขับเรือประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นเสียชีวิต
สำหรับศพของนักท่องเที่ยวทั้ง 2 คน หลังจากเกิดเหตุก็ได้สอบถามไปยังที่พักโรงแรมต่างๆ จนทราบชื่อต่อมา คือ นายยาซ อาการ์วัล (YASH AGARWAL) อายุ 27 ปี เป็นชาวอินเดีย และ น.ส.พันกูรี มิตตาล (PANKHURI MITTAL) อายุ 26 ปี เป็นชาวอินเดียเช่นเดียวกัน
สำหรับนักท่องเที่ยวทั้ง 2 คน คาดว่าน่าจะเป็นคู่รัก หรือสามีภรรยา โดยก่อนเกิดเหตุได้เข้าพักที่โรงแรมหรูชื่อดังแห่งหนึ่งในพื้นที่ชายหาดคลองม่วง ต.หนองทะเล อ.เมือง จ.กระบี่ ในราคาค่าห้องคืนละกว่า 60,000 บาท ซึ่งเชื่อว่าทั้ง 2 คนคงจะเป็นบุคคลที่ค่อนข้างจะมีฐานะร่ำรวย ซึ่งในเบื้องต้น ได้ประสานไปยังสถานทูตอินเดีย เพื่อติดต่อญาติมารับศพกลับไปทำพิธีทางศาสนาต่อไป โดยขณะนี้ศพผู้ตายทั้ง 2 คน ได้เก็บไว้ที่โรงพยาบาลกระบี่
นายบุญเชาว์ ตั้งสิริไพศาล ผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขากระบี่ กล่าวว่า สำหรับสาเหตุที่ทำให้นักท่องเที่ยวจมน้ำเสียชีวิต เนื่องจากพบว่าทั้ง 2 คน ไม่ได้สวมเสื้อชูชีพ ที่ทางเจ้าของเรือได้เตรียมไว้ให้ในเรือ ส่วนมาตรการที่จะใช้บังคับต่อนักท่องเที่ยวก็ไม่มีบทลงโทษ เพียงแต่ตักเตือนเท่านั้นหากมีการตรวจพบ ซึ่งหลังจากนี้ก็คงจะหามาตรการอย่างหนึ่งอย่างใดมาบังคับใช้เพื่อให้นักท่องเที่ยวทุกคนที่โดยสารเรือต้องใส่เสื้อชูชีพทุกครั้งก่อนออกจากท่าเทียบเรือ