ศูนย์ข่าวภูเก็ต - 2 คนร้ายขับจักรยานยนต์กระชากกระเป๋าชิงทรัพย์นักท่องเที่ยวชาวฟินแลนด์ ได้ทรัพย์สินไปหลายรายการ เหยื่อฮึดสู้ถูกคนร้ายใช้มีดกรีดเป็นแผลฉกรรจ์ในพื้นที่ ต.กะรน จ.ภูเก็ต
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้มีผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ Tom Pkt ได้โพสต์ภาพ และข้อความว่า “#รูปอาจจะน่ากลัวไปหน่อยนะ เมื่อคืนเกิดเหตุชิงทรัพย์นักท่องเที่ยว โดยใช้คัตเตอร์กรีดแขนกระชากกระเป๋า ในซอยโคกโตนด กะตะ มันทำให้เห็นว่าบ้านเราอยู่ยากขึ้นทุกวัน การชิงทรัพย์ทำร้ายร่างกายก็มีแนวโน้มรุนแรงขึ้นทุกวัน ก็ได้แต่ภาวนาให้ตำรวจจับคนร้ายได้ไวไว ก่อนเมืองท่องเที่ยวอย่างภูเก็ตจะเสียชื่อเสียงมากไปกว่านี้ #กลางค่ำกลางคืนก็ระวังตัวกันบ้างนะ ทรัพย์สินของมีค่าก็อย่าสวมใส่มากมันล่อตาโจร” โดยมีผู้กดถูกใจกว่า 92 คน และแชร์ไปกว่า 98 คน และมีคนแสดงความคิดเห็นต่างๆ นานา ซึ่งเป็นภาพแผลฉกรรจ์คล้ายถูกของมีคมกรีดลงไปที่แขน และได้มีการโพสต์เมื่อเวลา 13.42 น.ของวันที่ 10 ม.ค.59 ที่ผ่านมา
วันนี้ (11 ม.ค.) ผู้สื่อข่าวได้สอบถามเกี่ยวกับเรื่องนี้ไปยัง พ.ต.อ.สมปอง บุญรัตน์ ผกก.สภ.กะรน อ.เมือง จ.ภูเก็ต ระบุว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นจริง และเกิดเมื่อเวลา 22.45 น. ของวันที่ 9 ม.ค.59 เป็นเหตุชิงทรัพย์หน้าร้านกะตะเติร์ก KATA TURK ซ.โคกโตนด ต.กะรน อ.เมือง จ.ภูเก็ต ซึ่งคนร้าย 2 คน ใช้รถจักรยานยนต์ไม่ทราบแผ่นป้ายทะเบียน กระชากกระเป๋าของ นางแมรี่ อินเคอรี่ รัวโฮเน็น อายุ 31 ปี สัญชาติฟินแลนด์ ผู้เสียหายซึ่งเดินอยู่ข้างถนนกับ นายอ๊อทโต้ เพิร์เท็ลลี่ ฟินนิเคเฮียโมเน็น สามี มุ่งหน้ากลับที่พักโรงแรมกะตะเพลส โดยคนร้ายได้กระชากกระเป๋าของผู้เสียหาย แต่ผู้เสียหายขัดขืนจึงใช้มีดกรีดสายกระเป๋าถูกแขนข้างขวาของผู้เสียหายได้รับบาดเจ็บเป็นแผลฉีกขาดยาวประมาณ 1 ฟุต โดยได้เข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลกรุงเทพภูเก็ต สำหรับทรัพย์สินที่คนร้ายได้ไป ประกอบด้วย กระเป๋าผ้าสีฟ้าขาว 1 ใบ กระเป๋าสตางค์แบบหนังสีแดง จำนวน 1 ใบ เงินสด 9,000 บาท บัตรเครดิตมาสเตอร์การ์ดของธนาคาร Danske 1 ใบ ใบขับขี่ประเทศฟินแลนด์ 1 ใบ และหนังสือ 1 เล่ม รวมมูลค่า 11,800 บาท
พ.ต.อ.สมปอง กล่าวอีกว่า หลังจากทราบเรื่องได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนลงพื้นที่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดที่เกิดเหตุทันที และสอบถามพยานแวดล้อมจนทราบเส้นทางที่คนร้ายหลบหนี โดยคนร้ายได้ใช้รถจักรยานยนต์ไม่ทราบยี่ห้อ และใช้ป้ายทะเบียนปลอมในการก่อเหตุ แต่ทางเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนกะรนไม่ละความพยายามจนสามารถสืบทราบคนร้ายในการก่อเหตุครั้งนี้แล้ว และคาดว่าจะได้ตัวในเร็วที่สุด