สน.บางรัก รวบ 2 โชเฟอร์ตุ๊กตุ๊ก รวมหัววิ่งราวนักท่องเที่ยว รายแรกจับได้คาหนังคาเขา ขณะก่อเหตุกระชากกระเป๋าสาวชาวจีน แต่ไม่รอดถูกพลเมืองดี-ตำรวจ ช่วยกันจับไว้ได้ เพื่อนร่วมแก๊งขับรถหนี แต่ถูกตามจับได้ภายหลัง สารภาพทำมาแล้ว 2 ครั้ง อ้างเงินไม่พอใช้ ทั้งค่าเช่าห้อง-ค่านมลูก แต่ตำรวจไม่เชื่อ คาดทำเป็นขบวนการ
เมื่อเวลา 09.00 น. วันนี้ (9 ก.ย.) ที่ สน.บางรัก พ.ต.อ.ฤชากร จรเจวุฒิ รอง ผบก.น.6 พ.ต.อ.รัชพล บุญนาค ผกก.สน.บางรัก พ.ต.ท.สัมพันธ์ เหลืองสัจจกุล รอง ผกก.สส. พ.ต.ท.อาทิตย์ ซิ้มเจริญ สว.สส. พ.ต.ท.วิทวัส บูรณะ สว.สส. และฝ่ายสืบสวน ร่วมแถลงการจับกุม นายเอกพล สังข์ทุ่ง อายุ 33 ปี ชาว จ.ร้อยเอ็ด และ นายจงลักษ์ สารพัฒน์ อายุ 36 ปี ชาว จ.ร้อยเอ็ด ผู้ต้องหาก่อเหตุวิ่งราวทรัพย์นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ พร้อมของกลางรถจักรยานยนต์ฮอนด้า เวฟ สีแดงขาว ทะเบียน 1 กค 5044 ร้อยเอ็ด รถยนต์สามล้อสาธารณะ ทะเบียน สข 658 กรุงเทพมหานคร กระเป๋าสะพายแบรนด์เนมสีน้ำตาล 1 ใบ เงินสด 1,050 บาท หนังสือเดินทาง 1 เล่ม แว่นตา 1 อัน โทรศัพท์มือถือไอโฟน 1 เครื่อง โทรศัพท์มือห้อซัมซุง 2 เครื่อง ถุงเสื้อผ้า 1 ถุง ชุดชั้นใน 1 ชุด และรองเท้า 2 คู่
พ.ต.อ.ฤชากร กล่าวว่า เมื่อเวลาประมาณ 22.30 น. วันที่ 7 กันยายน ที่ผ่านมา ฝ่ายสืบสวน สน.บางรัก ได้ออกตรวจสอบป้องกันปราบปรามการวิ่งราวทรัพย์ ซึ่งเกิดขึ้นบ่อยครั้งในช่วงนี้ เมื่อมาถึงบริเวณสี่แยกพระยา ตัดกับถนนมหานคร แขวงมหาพฤฒาราม เขตบางรัก กทม. พบเหตุวิ่งราวทรัพย์ ผู้เสียหายเป็นนักท่องเที่ยวหญิงชาวจีน 2 คน คือ น.ส.หลี่ หนี อายุ 31 ปี อาชีพครู และ น.ส.เรน มิน อายุ 30 ปี ตำรวจฝ่ายสืบสวนที่ประเทศจีน ขณะถูกก่อเหตุนั่งโดยสารมากับรถสามล้อสาธารณะจากซอยข้าวสาร มี นายจงลักษ์ เป็นคนขับ เพื่อกลับที่พักโรงแรมพลูแมน ถนนรางน้ำ เมื่อถึงจุดเกิดเหตุ คนร้าย คือ นายเอกพล ขับรถจักรยานยนต์ประกบด้านซ้าย แล้วกระชากกระเป๋าสะพายของ น.ส.หลี่ หนี
น.ส.หลี่ หนี จึงตัดสินใจกระโดดลงจากรถ ไปเกาะราวเหล็กหลังเบาะรถจักรยานยนต์ของคนร้าย ทำให้ น.ส.หลี่ หนี ถูกลากไปกับถนนเป็นระยะทาง 15-20 เมตร ได้รับบาดเจ็บเป็นแผลถลอกทั่วขาทั้งสองข้าง รวมทั้งแก้มก้นทั้งสองข้าง แต่ทำให้รถจักรยานยนต์ของนายเอกพลเสียหลักล้มลง เป็นจังหวะเดียวกับที่ นายณกฤช สุวรรณเลิศ พลเมืองดีขับรถแท็กซี่ผ่านมา ได้ขับรถเข้าไปขวางรถจักรยานยนต์ของนายเอกพลไว้ และเป็นจังหวะเดียวกับที่ตำรวจสืบสวนสน.บางรัก มาเห็นเหตุการณ์พอดี จึงได้ช่วยกันกับพลเมืองดีเข้าจับกุมนายเอกพล และช่วยเหลือ น.ส.หลี่ หนี ที่ได้รับบาดเจ็บ ส่วนรถสามล้อสาธารณะที่มีนายจงลักษ์เป็นคนขับได้หลบหนีไป โดยปล่อยให้ น.ส.เรน มิน ลงจากรถระหว่างทาง ด้วยความตกใจและเป็นห่วงเพื่อน จึงยังไม่ได้เอาถุงเสื้อผ้ากับรองเท้าลงมาด้วย แต่รถสามล้อก็ขับหนีออกไปอย่างรวดเร็ว
นายเอกพล ผู้ก่อเหตุกระชากกระเป๋า ยอมรับว่า ร่วมกับ นายจงลักษ์ ก่อเหตุกระชากกระเป๋าผู้เสียหายจริง โดยผู้ต้องหาทั้งสองคนนี้มีอาชีพขับรถสามล้อสาธารณะ มีการวางแผนโดยให้นายจงลักษ์ทำหน้าที่ขับรถสามล้อ เมื่อรับผู้โดยสารต่างชาติเป็นผู้หญิง จะนัดหมายให้นายเอกพลขับจักรยานยนต์ตามประกบก่อเหตุ เมื่อสบโอกาสในช่วงที่ถนนโล่ง โดยนายจงลักษ์ จะชะลอรถสามล้อ เพื่อให้นายเอกพลก่อเหตุได้ง่ายขึ้น
พ.ต.อ.ฤชากร กล่าวว่า ต่อมาฝ่ายสืบสวน สน.บางรัก ได้ติดตามจับกุมนายจงลักษ์ได้บริเวณถนนเพชรบุรี ซอย 2 พร้อมกับของกลางที่เอาไปเก็บไว้ในห้องพัก ซึ่งทั้งสองคนรับสารภาพว่าก่อเหตุมาแล้ว 2 ครั้ง เนื่องจากขับสามล้อเงินไม่พอใช้ เพราะมีภาระค่าใช้จ่ายเยอะ ทั้งค่าเช่าห้อง ค่านมลูกสองคน จึงร่วมกันวางแผนก่อเหตุกับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ โดยเฉพาะผู้หญิง ทรัพย์สินที่ได้ถ้าเป็นเงินสดก็จะแบ่งครึ่ง ส่วนที่เป็นสิ่งของก็จะนำไปขายเอาเงินมาแบ่งกัน
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ยังไม่ปักใจเชื่อคำให้การ เพราะอาจจะก่อเหตุมามากกว่านี้หลายครั้ง หรืออาจจะทำกันเป็นขบวนการ จึงต้องสอบสวนอย่างละเอียดอีกครั้ง จากนี้จะเพิ่มมาตรการเข้มงวดกวดขัน สอดส่องดูแลให้มากขึ้น เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหาร่วมกันวิ่งราวทรัพย์ เป็นเหตุให้ผู้อื่นรับอันตรายแก่กายหรือจิตใจ โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิด หรือเพื่อพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นการจับกุม ลักทรัพย์ (โดยฉกฉวยซึ่งหน้า) ในเวลากลางคืน ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
