สุราษฎร์ธานี - หน่วยงานภาครัฐ และเอกชนในเกาะเต่า ระดมความเห็นจัดทำโครงการเสนอ รมว.การท่องเที่ยว ของบประมาณมาพัฒนาท่องเที่ยว และดูแลความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวบนเกาะเต่า เสนอติดตั้ง CCTV และไฟฟ้าส่องสว่าง 20 จุดเสี่ยง พร้อมเสนอจัดเก็บค่าขึ้นเกาะจากนักท่องเที่ยวมาดูแลความปลอดภัย ด้านการคลี่คลายคดียังไม่มีความคืบหน้า
จากกรณีที่ นางกอบกาญจน์ วัฒนารางกูร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้ลงพื้นที่ ต.เกาะเต่า จ.สุราษฏร์ธานี เพื่อติดตามรับฟังปัญหาที่เกิดขึ้น หลังเกิดคดีฆ่าโหด 2 นักท่องเที่ยวชาวอังกฤษ เมื่อวันที่ 15 ก.ย.ที่ผ่านมา ส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์การท่องเที่ยว เมื่อวันที่ 28 ก.ย.ที่ผ่านมา และสั่งการทางให้พื้นที่จัดทำแผนโครงการเร่งด่วนระดับความสำคัญที่จะเสนอให้กระทรวงฯ อนุมัติงบประมาณลงมาช่วยเหลือ
ล่าสุด เมื่อเวลา 10.30 วันนี้ (1 ต.ค.) ที่เทศบาลตำบลเกาะเต่า นายทวีศักดิ์ อินทร์พรหม นายอำเภอเกาะพะงัน เป็นประธานประชุมจัดทำแผนเร่งด่วน ร่วมกับ นายสุทธิ ศิลมัย ผอ.ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดสุราษฎร์ธานี นายไชยยันต์ ธุระสกุล นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลเกาะเต่า นายกอบชัย เสาวลักษณ์ กำนันตำบลเกาะเต่า นายวรพันธ์ ตู้วิเชียร ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 1 นายโกศล พงศ์ผดุงเกียรติ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 3 ผู้นำชุมชน ผู้ประกอบการธุรกิจการท่องเที่ยว และนายอนุวัฒย์ เข็มแดง ผจก.การไฟฟ้าตำบลเกาะเต่า นส.ณัชดากรณ์ อิทร์เทพ เลขาศูนย์เรียนรู้รักษ์แบนเกาะเต่า นายวุฒิ สิทธิสุราษฎร์ อดีตรองผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี
เพื่อหามาตรการส่งเสริมดูแลป้องเหตุหลังเกิดเหตุฆาตกรรม 2 นักท่องเที่ยวชาวอังกฤษ โดยที่ประชุมเสนอให้มีการติดตั้งระบบโทรทัศน์วงจรปิด (CCTV) และแสงส่องสว่างในจุดเสี่ยง จำนวน 20 แห่ง พร้อมทั้งติดตั้งกล้อง CCTV ออนไลน์ รายงานสภาพอากาศ และตรวจดูท่าเทียบเรือเกาะเต่าผ่านทางเว็บไซต์ นักท่องเที่ยวสามารถตรวจได้ก่อนเดินทาง และระบบสาธารณูปโภค ถนน ไฟฟ้า ประปา พร้อมทั้งโครงการก่อสร้างสายเคเบิลใต้น้ำ 33 เควี รพ.พยาบาล โครงการอนุรักษ์ป่าต้นน้ำ 1,700 ไร่ และจัดตั้งศูนย์บริการนักท่องเที่ยว
นอกจากนั้น ในที่ประชุมมีการเสนอให้มีการจัดเก็บค่าขึ้นเหยียบเกาะจากนักท่องเที่ยว เพื่อนำรายได้มาบริหารจัดการดำเนินการดูแลความปลอดภัยนักท่องเที่ยว และเป็นการสร้างความมั่นใจด้านความปลอดภัยนักท่องเที่ยว และทุกๆ ด้านที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยว โดยไม่ต้องรองบประมาณทางภาครัฐ ที่ประชุมเห็นชอบมอบให้เทศบาลตำบลเกาะเต่า จัดทำประชาพิจารณ์ขอความคิดเห็นจากประชาชนบนเกาะก่อนที่จะกำหนดอัตราอยู่ที่เท่าไร
นายสุทธิ ศิลมัย ผอ.ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดสุราษฎร์ธานี กล่าวว่า การประชุมวันนี้เป็นการประชุมทำกิจกรรมหลายๆ บริบทในการส่งเสริมภาพลักษณ์การท่องเที่ยวของเกาะเต่า ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของโครงสร้างพื้นฐาน บุคลากร การจัดการท่องเที่ยว การรักษาความปลอดภัยให้แก่นักท่องเที่ยว พัฒนาระบบการประชาสัมพันธ์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นคู่มือ จะทำให้นักเที่ยวมีความเชื่อมั่นว่าสามารถมาเที่ยวได้ตลอดเวลา และท่องเที่ยวได้อย่างปลอดภัย และนำกิจกรรมต่างๆ นำเสนอต่อรัฐมนตรีกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เพื่อประสานงานกับกระทรวงที่เกี่ยวข้อง เช่นในการปรับปรุงท่าเทียบเรือ จะมีการออกแบบศึกษาความเป็นไปได้ของท่าเทียบให้ได้มาตรฐาน เพื่อรองรับการท่องเที่ยวในอนาคต ระบบน้ำดิบน้ำประปา ที่จะนำมาจากแผ่นดินใหญ่ รวมทั้งระบบไฟฟ้าที่จะเดินสายเคเบิลใต้น้ำ รวมทั้งจัดให้มีแสงส่องสว่างในทางจุดเสี่ยง รวมการพัฒนาบุคลิกภาพ และอัตรากำลังต่างๆ เช่น เจ้าท่า ตำรวจท่องเที่ยว ตำรวจภูธร สำนักงานการท่องเที่ยวหรือแม้แต่หน่วยงานอื่นๆ ที่ดูแลนักท่องเที่ยวให้เกิดความประทับใจ
วันนี้เป็นเวทีแรกที่ได้พบปะพูดคุยกันหลังจาก รัฐมนตรีกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้ลงมายังพื้นที่ และสั่งการให้ดำเนินการจัดทำรายละเอียดเสนอขึ้นไป และทางสำนักงานท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดได้กำหนดการวันที่ 9-10 ตุลาคมนี้ จะทำการฝึกอบรมสร้างไลฟ์การ์ด หรืออาสาสมัครเพื่อช่วยเหลือนักท่องเที่ยวเข้ามาดำเนินการ และจะขยายเครือข่ายออกไปไม่ว่าจะเป็นเรื่องดำน้ำ การท่องเที่ยวภูเขา โดยทางสำนักงานจะสนับสนุนระบบการจัดการรวมทั้งเครื่องไม้เครื่องมือต่างๆ ในการช่วยเหลือดูแลนักท่องเที่ยว
ด้าน พล.ต.ต.สุวัตร แจ้งยอดสุข รักษาราชการแทนผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยหลังการประชุมความคืบหน้าคดีฆาตกรรม 2 นักท่องเที่ยวชาวอังกฤษ ที่หาดทรายรี ต.เกาะเต่า จ.สุราษฏร์ธานี ว่า คดีมีความคืบหน้าไปมาก เป็นที่น่าพอใจ ซึ่งเมื่อคืนที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ได้คุมตัวผู้ต้องสงสัย 1 ใน 7 รายมาสอบปากคำ แต่ยังไม่พบหลักฐานที่มีส่วนเชื่อมโยงกับคดี เตรียมค้นหาอีก 6 ราย มาสอบต่อ
ด้านผลตรวจดีเอ็นเอรอบล่าสุดขณะนี้รู้ผลแล้วกว่า 100 ราย แต่ยังไม่พบความเชื่อมโยงกับดีเอ็นเอจากผู้เสียชีวิต เร่งตรวจอีกกว่า 200 ดีเอ็นเอที่เก็บได้ รวมทั้งมีการเรียกพูดคุยสอบถามกลุ่มผู้ต้องสงสัยก่อนหน้านี้ซ้ำเพื่อหาความแม่นยำในข้อมูลที่ได้รับ เพราะจะต้องมีการคัดกรองข้อมูลที่ได้มาจากหลายๆ แหล่ง ให้หลายๆ รอบ
โดยวัตถุพยาน 3 ตัวอย่างที่พบในที่เกิดเหตุขณะนี้ก็ยังหาบุคคล หรือผู้ต้องสงสัยที่มีส่วนเกี่ยวข้องไม่พบ แต่บุคคลที่มีการตรวจดีเอ็นเอ หรือเรียกสอบปากคำไม่พบ ไม่ได้หมายความว่าไม่เกี่ยวกับคดีดังกล่าว ต้องนำหลักฐานหลายๆ อย่างมาประกอบกันอีกครั้งด้วย และหลังจากมีการติดป้ายประกาศเงินรางวัล และแจกภาพจากกล้องวงจรปิดขอความร่วมมือผู้ที่พบเบาะแสคนร้าย ก็ได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดี