ASTVผู้จัดการรายวัน – ยักษ์ใหญ่ในตลาดสีของเมืองไทย "ทีโอเอ" ประกาศบุกตลาดเออีซีเต็มสูบ หวังขึ้นแท่นสีอันดับ 1 ของอาเชียน เผยทำตลาดแล้ว 6 ประเทศตั้งโรงงานใน 5 ประเทศ เตรียมบุกต่อฟิลิปปินส์ สิงคโปร์และบรูไน ตั้งเป้าเพิ่มสัดส่วนส่งออกจาก 15% เป็น 20% ในอีก 5 ปี พร้อมตั้งเป้ายอดขายปีนี้โต 13% จาก 18,000 ล้านบาทในปี 56
นายจตุภัทร์ ตั้งคารวคุณ รองประธานกรรมการบริหารกลุ่ม บริษัท ทีโอเอ เพ้นท์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ในโอกาสครบรอบ 50 ปี ซึ่งถือว่าประสบความสำเร็จอย่างมากสามารถครองส่วนแบ่งอันดับ 1 ตลาดสีทาอาคารหรือประมาณ 48% ของมูลค่าตลาดรวมประมาณ 22,000-23,000 ล้านบาท ปีที่ผ่านมาทีโอเอมียอดขาย 18,000 ล้านบาท ในจำนวนนี้เป็นยอดขายสี 16,000 ล้านบาท แบ่งเป็นสัดส่วนการลงออก 15% ซึ่งที่ผ่านมาทีโอเอมีอัตราการเติบโตปีละกว่า 13% ทุกปี ส่วนปีนี้คาดว่าจะสามารถเติบโตได้ตามเป้า
“แม้ว่าในช่วงครึ่งปีแรกจะมีปัญหาการเมืองและเศรษฐกิจแต่ยอดขายยังคงเป็นไปตามเป้าหมายที่กำหนดเอาไว้ ส่วนในช่วงที่เหลือของปีก็เชื่อว่าจะเติบโตได้ดีเพราะสถานการณ์ต่างๆคลีคลาย ซึ่งต้องลุ้นหลังหน้าฝนว่ายอดขายจะเติบโตขึ้นมากหรือไม่ เพราะถือว่าเป็นฤดูขายของตลาดสี โดยทีโอเอ จะนำโมเดลธุรกิจที่ประสบความสำเร็จอย่างมากในไทย ภายใต้ 4 กลยุทธ์หลัก ประกอบด้วย การรับรู้และยอมรับในแบรนด์, คุณภาพสินค้าและบริการ, พลังความร่วมมือของพันธมิตรทางธุรกิจ และศักยภาพ บุคลากร เป็นเสาหลักในการสร้างความแข็งแกร่งให้ ทีโอเอ ในกลุ่มประเทศอาเซียนที่เราเข้าไปดำเนินธุรกิจ เพื่อสร้างตลาด สู่การเป็นผู้นำ Regional Brand เบอร์ 1 ด้านธุรกิจสีตัวจริงของภูมิภาคนี้”
นายจตุภัทร์ กล่าวต่อว่า ตลาดในต่างประเทศถือว่ามีโอกาศด้านการลงทุนอย่างมาก โดยมีหลายประเทศที่มีการเติบโตที่ดีเช่น เวียดนามปัจจบันบริษัทมียอดขายสูงถึง 1,000 ล้านบาทต่อปี ทำให้บริษัทพุ่งเป้าหมายไปที่ตลาดเออีซี แต่การทำการตลาดในต่างประเทศไม่ใช่เรื่องง่าย ต้องอาศัยระยะเวลา 5-10 ปี
โดยในปีที่ 50 ทีโอเอยังได้สานต่อพัฒนากลุ่มสินค้าสีทาอาคาร (Decorative) ทุกชนิด ให้ปลอดสารปรอท ตะกั่ว โลหะหนักได้สำเร็จ และจะเดินหน้าขยายคุณค่าแห่งนวัตกรรมสินค้าไปสู่กลุ่มสินค้าอื่นๆ อาทิ กลุ่มสีอุตสาหกรรม กลุ่มงานไม้ โดยตั้งเป้าปรับจากสูตรน้ำมันเป็นสูตรน้ำ (Water Base) ให้ได้ภายในปี พ.ศ. 2559 โดยปัจจุบันสินค้าสีเคลือบเงา สำหรับทาปูน ไม้ เหล็ก ที่ได้รับการพัฒนาให้เป็นสูตรน้ำ (Water Base Enamel) สำเร็จแล้วนั้น คือ สีซุปเปอร์ชิลด์ อะควา กลอส ที่มีคุณสมบัติพิเศษไร้กลิ่นฉุนและปลอดสารระเหยที่เป็นพิษ (VOCs) ต่ำกว่าสีเคลือบเงาทั่วไปถึง 10 เท่า
ด้านนายพงษ์เชิด จามีกรกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทีโอเอ เพ้นท์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยภาพรวมธุรกิจสี ในประเทศไทยว่า ปัจจุบันธุรกิจสีในไทยมีมูลค่ารวมกว่า 46,000 ล้านบาท แบ่งเป็นกลุ่ม สีทาอาคาร มีสัดส่วนกว่า 50% และเป็นตลาดสีอื่นๆ 50% อาทิ กลุ่มงานไม้ กลุ่มเคมีภัณฑ์ก่อสร้าง กลุ่มอุตสาหกรรมหนักและอื่นๆ และในส่วนธุรกิจต่างประเทศนั้น ทีโอเอยังเป็นแบรนด์สีที่มียอดขายสูงสุดเป็นอันดับ 1 ในระดับอาเซียน จนได้รับ การยอมรับให้เป็นแบรนด์ระดับภูมิภาคอันดับ 1 ในอาเซียน ที่เราทำตลาด ครอบคลุมทั้งหมด 7 ประเทศ (รวมประเทศไทย) ได้แก่ ไทย,เวียดนาม, กัมพูชา, ลาว, พม่าและ มาเลเซีย มีโรงงานใน 5 ประเทศได้แก่ ไทย, สปป.ลาว, พม่า,มาเลเชียและเวียดนาม และวางแผนที่จะเข้าไปบุกตลาดอย่างจริงจังในอีก 3 ประเทศ ที่เหลือ ประกอบด้วย บรูไน ฟิลิปปินส์ และสิงค์โปร์ โดยได้วางกลยุทธ์การบริหารจัดการกลุ่มธุรกิจต่างประเทศ พร้อมทั้ง การพัฒนาบุคลากรพนักงานในประเทศต่างๆ ให้มีวัฒนธรรมองค์กร TOA DNA หรือเบ้าหลอมที่เป็นไปในทิศทางเดียวกันด้วย
สำหรับกิจกรรมพิเศษในโอกาศฉลองครบรอบ 50 ปี ทีโอเอยังได้เตรียมจัดกิจกรรมอย่างยิ่งใหญ่ อาทิ การสร้างสรรค์ บทเพลง เพื่อสะท้อนทุกย่างก้าวแห่งความสำเร็จ และสะท้อนความปรารถนาในการแต่งแต้มสีสันแห่งความสุข ตลอดจนขอบคุณ การสนับสนุนที่ดีเยี่ยมจากกลุ่มลูกค้าของ ทีโอเอ ตลอด 50 ปี ผ่านบทเพลง “เธอคือสีสันความสุข” ที่ได้“ก้อง-สหรัถ สังคปรีชา” มาถ่ายทอดเรื่องราวดังกล่าว รวมถึงจัดกิจกรรม “50 ปี ทีโอเอส่งความสุขทั่วไทย” ประกอบด้วย จ.ขอนแก่น จ.สุราษฏร์ธานี จ.เชียงใหม่ และกรุงเทพฯ ผ่านกิจกรรมต่างๆมากมาย
นายจตุภัทร์ ตั้งคารวคุณ รองประธานกรรมการบริหารกลุ่ม บริษัท ทีโอเอ เพ้นท์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ในโอกาสครบรอบ 50 ปี ซึ่งถือว่าประสบความสำเร็จอย่างมากสามารถครองส่วนแบ่งอันดับ 1 ตลาดสีทาอาคารหรือประมาณ 48% ของมูลค่าตลาดรวมประมาณ 22,000-23,000 ล้านบาท ปีที่ผ่านมาทีโอเอมียอดขาย 18,000 ล้านบาท ในจำนวนนี้เป็นยอดขายสี 16,000 ล้านบาท แบ่งเป็นสัดส่วนการลงออก 15% ซึ่งที่ผ่านมาทีโอเอมีอัตราการเติบโตปีละกว่า 13% ทุกปี ส่วนปีนี้คาดว่าจะสามารถเติบโตได้ตามเป้า
“แม้ว่าในช่วงครึ่งปีแรกจะมีปัญหาการเมืองและเศรษฐกิจแต่ยอดขายยังคงเป็นไปตามเป้าหมายที่กำหนดเอาไว้ ส่วนในช่วงที่เหลือของปีก็เชื่อว่าจะเติบโตได้ดีเพราะสถานการณ์ต่างๆคลีคลาย ซึ่งต้องลุ้นหลังหน้าฝนว่ายอดขายจะเติบโตขึ้นมากหรือไม่ เพราะถือว่าเป็นฤดูขายของตลาดสี โดยทีโอเอ จะนำโมเดลธุรกิจที่ประสบความสำเร็จอย่างมากในไทย ภายใต้ 4 กลยุทธ์หลัก ประกอบด้วย การรับรู้และยอมรับในแบรนด์, คุณภาพสินค้าและบริการ, พลังความร่วมมือของพันธมิตรทางธุรกิจ และศักยภาพ บุคลากร เป็นเสาหลักในการสร้างความแข็งแกร่งให้ ทีโอเอ ในกลุ่มประเทศอาเซียนที่เราเข้าไปดำเนินธุรกิจ เพื่อสร้างตลาด สู่การเป็นผู้นำ Regional Brand เบอร์ 1 ด้านธุรกิจสีตัวจริงของภูมิภาคนี้”
นายจตุภัทร์ กล่าวต่อว่า ตลาดในต่างประเทศถือว่ามีโอกาศด้านการลงทุนอย่างมาก โดยมีหลายประเทศที่มีการเติบโตที่ดีเช่น เวียดนามปัจจบันบริษัทมียอดขายสูงถึง 1,000 ล้านบาทต่อปี ทำให้บริษัทพุ่งเป้าหมายไปที่ตลาดเออีซี แต่การทำการตลาดในต่างประเทศไม่ใช่เรื่องง่าย ต้องอาศัยระยะเวลา 5-10 ปี
โดยในปีที่ 50 ทีโอเอยังได้สานต่อพัฒนากลุ่มสินค้าสีทาอาคาร (Decorative) ทุกชนิด ให้ปลอดสารปรอท ตะกั่ว โลหะหนักได้สำเร็จ และจะเดินหน้าขยายคุณค่าแห่งนวัตกรรมสินค้าไปสู่กลุ่มสินค้าอื่นๆ อาทิ กลุ่มสีอุตสาหกรรม กลุ่มงานไม้ โดยตั้งเป้าปรับจากสูตรน้ำมันเป็นสูตรน้ำ (Water Base) ให้ได้ภายในปี พ.ศ. 2559 โดยปัจจุบันสินค้าสีเคลือบเงา สำหรับทาปูน ไม้ เหล็ก ที่ได้รับการพัฒนาให้เป็นสูตรน้ำ (Water Base Enamel) สำเร็จแล้วนั้น คือ สีซุปเปอร์ชิลด์ อะควา กลอส ที่มีคุณสมบัติพิเศษไร้กลิ่นฉุนและปลอดสารระเหยที่เป็นพิษ (VOCs) ต่ำกว่าสีเคลือบเงาทั่วไปถึง 10 เท่า
ด้านนายพงษ์เชิด จามีกรกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทีโอเอ เพ้นท์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยภาพรวมธุรกิจสี ในประเทศไทยว่า ปัจจุบันธุรกิจสีในไทยมีมูลค่ารวมกว่า 46,000 ล้านบาท แบ่งเป็นกลุ่ม สีทาอาคาร มีสัดส่วนกว่า 50% และเป็นตลาดสีอื่นๆ 50% อาทิ กลุ่มงานไม้ กลุ่มเคมีภัณฑ์ก่อสร้าง กลุ่มอุตสาหกรรมหนักและอื่นๆ และในส่วนธุรกิจต่างประเทศนั้น ทีโอเอยังเป็นแบรนด์สีที่มียอดขายสูงสุดเป็นอันดับ 1 ในระดับอาเซียน จนได้รับ การยอมรับให้เป็นแบรนด์ระดับภูมิภาคอันดับ 1 ในอาเซียน ที่เราทำตลาด ครอบคลุมทั้งหมด 7 ประเทศ (รวมประเทศไทย) ได้แก่ ไทย,เวียดนาม, กัมพูชา, ลาว, พม่าและ มาเลเซีย มีโรงงานใน 5 ประเทศได้แก่ ไทย, สปป.ลาว, พม่า,มาเลเชียและเวียดนาม และวางแผนที่จะเข้าไปบุกตลาดอย่างจริงจังในอีก 3 ประเทศ ที่เหลือ ประกอบด้วย บรูไน ฟิลิปปินส์ และสิงค์โปร์ โดยได้วางกลยุทธ์การบริหารจัดการกลุ่มธุรกิจต่างประเทศ พร้อมทั้ง การพัฒนาบุคลากรพนักงานในประเทศต่างๆ ให้มีวัฒนธรรมองค์กร TOA DNA หรือเบ้าหลอมที่เป็นไปในทิศทางเดียวกันด้วย
สำหรับกิจกรรมพิเศษในโอกาศฉลองครบรอบ 50 ปี ทีโอเอยังได้เตรียมจัดกิจกรรมอย่างยิ่งใหญ่ อาทิ การสร้างสรรค์ บทเพลง เพื่อสะท้อนทุกย่างก้าวแห่งความสำเร็จ และสะท้อนความปรารถนาในการแต่งแต้มสีสันแห่งความสุข ตลอดจนขอบคุณ การสนับสนุนที่ดีเยี่ยมจากกลุ่มลูกค้าของ ทีโอเอ ตลอด 50 ปี ผ่านบทเพลง “เธอคือสีสันความสุข” ที่ได้“ก้อง-สหรัถ สังคปรีชา” มาถ่ายทอดเรื่องราวดังกล่าว รวมถึงจัดกิจกรรม “50 ปี ทีโอเอส่งความสุขทั่วไทย” ประกอบด้วย จ.ขอนแก่น จ.สุราษฏร์ธานี จ.เชียงใหม่ และกรุงเทพฯ ผ่านกิจกรรมต่างๆมากมาย
