นราธิวาส - เจ้าหน้าที่รักษาพันธุสัตว์ป่า สนธิกำลัง ตร.นราฯ บุกค้นบ้านต้องสงสัยยึด “นกเงือกพันธุ์หัวแรด” และ “นางอาย” สัตว์ป่าสงวนฯ โดยนำตัวสัตว์ทั้ง 2 ชนิดเข้าทำการอนุบาลพร้อมปล่อยกลับคืนสู่ป่าต่อไป พร้อมจับกุมเจ้าของเพื่อขยายผลดำเนินคดีต่อไป
วันนี้ (1 ต.ค.) พ.ต.ต.สุนันท์ สมบูรณ์ สารวัตรสืบสวนสอบสวนสถานีตำรวจภูธรเมืองนราธิวาส พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติ เทือกเขาบูโดสุไหงปาดี เจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี (พรุโต๊ะแดง) และนายปรีดา เทียนส่งรัศมี หัวหน้าโครงการคุ้มครองนกเงือก (ส่วนภาคใต้) ร่วมกันเข้าตรวจสอบบ้านเลขที่ 33/1 บ.กูแบ ต.บางปอ อ.เมือง จ.นราธิวาส ซึ่งได้รับแจ้งเบาะแสว่า บ้านหลังดังกล่าวมีการเลี้ยงสัตว์ป่าคุ้มครองไว้ภายในบ้าน
หลังจากเข้าตรวจสอบ เจ้าหน้าที่สามารถยึดนกเงือกพันธุ์หัวแรดได้ 2 ตัว โดยเลี้ยงไว้ในกรงด้านหลังบ้านเลขที่ดังกล่าว พร้อมกันนี้ จึงเชิญตัว นายสูกรีละห์ อารง เจ้าของบ้านมาทำการสอบสวน โดยเตรียมดำเนินคดีตามกฎหมาย นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ได้ยึดนางอาย ซึ่งเป็นสัตว์ป่าคุ้มครองได้อีก 1 ตัวด้วย โดยหลังจากเข้ายึดสัตว์ป่าคุ้มครองทั้ง 2 ชนิด เจ้าหน้าที่ได้ทำการขนย้ายเพื่อนำไปกักไว้ที่สถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าโคกไม้เรือ เพื่อทำการอนุบาลสัตว์ทั้ง 2 ก่อนที่จะปล่อยเข้าสู่ป่าในเขตของอุทยานแห่งชาติเทือกเขาบูโดต่อไป
นายวิโรจน์ ศิริอุมากุล หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี (พรุโต๊ะแดง) กล่าวว่า นกเงือกพันธุ์หัวแรดที่ยึดได้ครั้งนี้ถือเป็นพันธุ์ที่ใกล้สูญพันธุ์แล้ว เนื่องจากในป่าเขตเทือกเขาบูโดเองเริ่มหายากมากขึ้น ซึ่งหลังจากนี้สัตว์ที่ยึดได้จะต้องถูกเข้าศูนย์อนุบาลเพื่อตรวจโรค และปรับตัวก่อนที่จะส่งคืนให้แก่ธรรมชาติ
ด้าน พ.ต.ต.สุนันท์ สมบูรณ์ สารวัตรสืบสวนสถานีตำรวจภูธรเมืองนราธิวาส กล่าวว่า กรณีลักษณะนี้ในเขตอำเภอเมืองไม่เคยพบผู้กระทำผิดมากนัก เนื่องจากเป็นพื้นที่ห่างจากเทือกเขา ซึ่งกรณีนี้จะมีการคุมตัวเจ้าของไปทำการสืบสวนถึงที่มาเพื่อเตรียมขยายผล ส่วนโทษกรณีมีสัตว์ป่าคุมครองไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ผิดตามมาตรา 19 พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า มีโทษจำคุก 4 ปี ปรับไม่เกิน 4 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ แต่หากไม่เคยกระทำความผิดมาก่อนส่วนมากจะถูกปรับ และรอลงอาญา