ปัตตานี - เลขาฯ ภาณุ ปลอบใจฮุจญาจ ส่งเสริมคนดีมีคุณธรรมจังหวัดชายแดนใต้ ให้อดทนอยู่ เพราะงบประมาณมีน้อย และเวลากระชั้นชิด หวังทุกคนได้รับฮัจญ์มับรูจกันถ้วนหน้า
วันนี้ (21 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานจากกลสุลไทย ประจำเมืองเจดดาห์ ประเทศซาอุดีอาระเบียว่าหลังจากที่ทาง ศอ.บต.ได้จัดส่งตัวแทนประชาชนในพื้นที่ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อมาประกอบพิธีฮัจญ์ ที่ประเทศสะซาอุดีอาระเบีย ภายใต้โครงการส่งเสริมคนดีมีคุณธรรม ของ ศอ.บต.และ กอ.รมน.จำนวน 200 คน เพื่อเป็นการสร้างขวัญ และกำลังใจให้แก่พี่น้องมุสลิมในพื้นที่ในการที่จะดำรงเป็นคนดีเชิดชูคุณธรรมอยู่ร่วมกันบนความหลักหลายของความเชื่อ และศาสนา นำสู่สันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้อย่างยั่งยืน เริ่มเดินทางมาถึงเมืองมาดีนะห์ ประเทศซาอุดีอาระเบีย เมื่อวันที่ 3-4 กันยายนที่ผ่านมา โดยการบินไทย เที่ยวบินพิเศษเหมาลำ สร้างความประทับใจให้แก่คณะ และครอบครัวเป็นอย่างมาก
ล่าสุด เมื่อเวลา 10.00 น. ในเวลาท้องถิ่น นายภาณุ อุทัยรัตน์ เลขาธิการ ศอ.บต. ได้เดินทางมาเยี่ยม และพบปะคณะฮุจญาจไทย ภายใต้โครงการดังกล่าวที่ห้องประชุมกลสุลไทย ประจำเมืองเจดดาร์ ประเทศซาอุดีอาระเบีย โดยมี นายฐานิศร์ ณ สงขลา กงสุลใหญ่ประจำเมืองเจดดาร์ รวมทั้งเจ้าหน้าที่ฮัจญ์ไทย (แบะซะห์) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ให้การต้อนรับ โดยเลขาธิการ ศอ.บต.ได้ถือโอกาสชี้แจง และสร้างความเข้าใจให้แก่คณะฮุจญาจฯ
ให้ทุกคนมีความอดทนต่อการใช้ชีวิตที่นี่ อาจจะไม่สะดวกสบายในส่วนของที่พัก อาหารการกินมีบ้างขาดบ้าง ก็ต้องอดทนเพราะเรามีข้อจำกัดในเรื่องงบประมาณ และห้วงเวลาในการดำเนินการ ซึ่งทุกคนทุกภาคส่วนได้พยายามผลักดันเพื่อที่อยากจะให้พวกคณะฮุจญาจฯ สามารถมาประกอบพิธีฮัจญ์ในครั้งนี้ ดังนั้น จึงไม่ควรนำเรื่องราวความลำบากในระหว่างพักอยู่ที่นี่ให้ทางบ้านฟัง เพราะจะทำให้ฮัจญ์มับรูจเราเสียหายได้ ซึ่งปัญหาที่เกิดขึ้นกำลังปรับแก้ไข จึงอยากให้สื่อควรนำเสนอในส่วนที่ดีว่าเราได้ทำอะไรบ้างมากกว่า
นอกจากนั้น เลขาธิการ ศอ.บต.ได้ฝากให้ทุกคนได้ช่วยกันดูแลฮุจญาจไทย ช่วยกันดูในเรื่องสภาพความป์นอยูว่ามีอะไรที่สามารถนำเสนอเพื่อการปรับแก้ เพื่อการพัฒนาฮัจญ์ไทยสู่ไปแนวทางที่ดีขึ้น เพราะคณะที่มาในครั้งนี้มีความหลากหลายกลุ่มอาชีพ มีทั้งสื่อมวลชนร่วมกับคณะในครั้งนี้ด้วย
ด้านตัวแทนสื่อมวลชนที่ได้ร่วมกับคณะฮุจญาจส่งเสริมคนดีมีคุณธรรมฯ ได้ขึ้นชี้แจงต่อกรณีการนำเสนอข่าวเกี่ยวกับชีวิตความเป็นอยู่ของฮุจญาจ ศอ.บต.ฯ และสภาพความเป็นอยู่ของฮุจญาจไทยทั้งระบบนั้น อาจสร้างความไม่พอใจ แต่เป็นเพียงการสะท้อนความเป็นอยู่จริงของฮุจญาจไทยที่พักอาศัยในระหว่างพักที่ประเทศซาอุดีอาระเบียว่า เขาอยู่อย่างไร เพื่อที่จะให้ผู้ที่เกี่ยวข้องเข้ามาปรับปรุงแก้ไข และยกระดับฮัจญ์เทียบเท่ากับสากลที่เขาพัฒนาไปไกลแล้ว แต่ฮุจญาจกลับถูกให้เชื่อว่าคนไทยต้องมาพักที่นี่ เป็นโชนที่ทางการประเทศซาอุดีอาระเบีย ได้กำหนดพื้นที่ให้แก่ฮุจญาจไทยพัก ซึ่งห่างไกลจากมัสยิดฮารอมประมาณ 2-3 กิโลเมตร และมีสภาพเสื่อมโทรม
โดยความจริงแล้ว ได้รับการยืนยันจากนายกสมาคมผู้ประกอบการฮัจญ์ไทยว่า ไม่ได้เป็นอย่างที่กล่าวอ้าง เป็นเพียงข้ออ้างของผู้ประกอบการบางรายในการสร้างความชอบธรรมให้แก่ตัวเอง และหวังที่จะนำฮุจญาจไทยพักในพื้นที่ดังกล่าว และหวังที่จะได้รับผลต่างของกำไรต่อไปโดยไม่คำนึงถึงคุณภาพชีวิตของฮุจญาจไทยเลย จึงอยากเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาดูแลอย่างจริง และพัฒนาฮัจญ์ไทยสู่นานาชาติ โดยคำนึงถึงคุณภาพชีวิตของคนไทย ไม่ใช่ปล่อยให้เป็นอยู่ตามยถากรรมเหมือนทุกวันนี้
นายภาณุ อุทัยรัตน์ เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ กล่าวว่า รู้สึกยินดีที่ได้มีโอกาสมาพบปะเยี่ยมเยียนผู้แสวงบุญ โดยได้ชี้แจงถึงกรณีการออกวีซ่าล่าช้าว่าไม่ได้เกิดปัญหาเพียงแค่ประเทศไทยเพียงอย่างเดียว นอกจากนี้ ศอ.บต.ได้จัดให้มีรายการวิทยุและโทรทัศน์สายสัมพันธ์ฮัจญ์ ศอ.บต.เพื่อให้ญาติพี่น้องของผู้แสวงบุญได้รับทราบความเคลื่อนไหว และความเป็นอยู่ของผู้แสวงบุญเป็นประจำทุกวัน ซี่งในเรื่องของกิจการฮัจญ์ ทางหน่วยงานราชการทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องได้ให้ความสำคัญ และให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่ จึงขอฝากให้ผู้แสวงบุญปฏิบัติศาสนกิจอย่างสมบูรณ์ที่สุด พร้อมทั้งกลับไปจัดตั้งชมรมคนสมบูรณ์ คือ การรวมกลุ่มกันของผู้ที่กลับจากประกอบพิธีฮัจญ์ ในการแบบอย่างที่ดี โดยนำคุณค่าที่ได้รับจากฮัจญ์ มาช่วยกันดำเนินงานพัฒนาพื้นที่ และพัฒนาบ้านเมืองต่อไป
ในโอกาสนี้ เลขาธิการศูนยอำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ ยังได้ร่วมรับประทานอาหารเที่ยงร่วมกับกงสุลใหญ่ ประจำเมืองเจดดาห์ เจ้าหน้าที่ และคณะฮุจญาจ ศอ.บต.อีกด้วย