xs
xsm
sm
md
lg

หยุดหากินกับทะเลสาบสงขลาที่ป่วยไข้หนักกันเสียที?! / เมือง ไม้ขม

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ขอบคุณภาพจาก httptalung.gimyong.comindex.phptopic=310750.0
 
คอลัมน์ : จุดคบไฟใต้
โดย...เมือง  ไม้ขม
 
เรื่องราวข่าวสาร “การจัดระเบียบทะเลสาบสงขลา” ถูกจุดประกายขึ้นจากการที่คนกลุ่มหนึ่งที่มาจากการรวมตัวของกำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน ซึ่งถือเป็นผู้นำท้องถิ่นที่เข้าพบ “นายธำรง เจริญกุล” ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา เพื่อให้ใช้อำนาจหน้าที่ในการจัดระเบียบทะเลสาบสงขลาที่เห็นว่า ณ ปัจจุบันทะเลสาบสงขลา รกรุงรังด้วยโพงพาง และไซนั่ง รวมทั้งอื่นๆ ที่เป็นเครื่องมือในการทำประมงของชาวประมง
 
ผู้เขียนนั้นรู้สึกทะแม่งๆ ตั้งแต่เห็นกลุ่มผู้ที่เข้ายื่นหนังสือต่อผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา เพราะมองไม่เห็นจุดเชื่อมโยงระหว่างกลุ่มผู้นำท้องถิ่น กับเรื่องของทะเลสาบสงขลา แต่ก็คิดในด้านดีอย่างคนมองโลกสวยว่า น่าจะเกิดจากการมี “สำนึกรักบ้านเกิด” ที่ต้องการเห็นความสวยงามของทะเลสาบสงขลาอีกสักครั้ง
 
และอาจจะมีการ “จัดให้” โดยให้ นายธำรง เจริญกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ซึ่งเป็นคนที่เกิดใน อ.สิงพระ จ.สงขลา อันเป็นส่วนหนึ่งลุ่มน้ำทะเลสาบสงขลา ได้แสดงฝีมือในการจัดระเบียบทะเลสาบ เพื่อแสดงให้เห็นถึงฝีไม้ลายมือของผู้ว่าฯ ที่เป็นเลือดสงขลา ในการแก้ปัญหาทะเลสาบแห่งนี้ โดยผู้ว่าราชการจังหวัดหลายคนทั้งที่เป็นลูกที่นี่ และที่เป็นคนนอกไม่เคยทำได้สำเร็จ
 
เนื่องเพราะ “จัดระเบียบ” เมื่อไหร่ ถ้าไม่โดน “ชาวเล” แถบบ้านเล-หัวเขา ยกขบวนนำเรือมาปิดร่องน้ำ ก็ต้องมีการยกเรือขึ้นบกปิดถนน หรือสะพานติณสูงลานนท์ จนสุดท้ายเจ้าหน้าที่ยอมยกธงขาวปล่อยให้มีการ “ชำเรา” ทะเลสาบกันต่อไปตามแต่ยถากรรม
 
แต่ครั้งนี้เมื่อมีเสียงขึงขังจาก นายธำรง เจริญกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ที่ทำให้เห็นว่าเอาจริง แถมยังเป็น “ศิษย์เก่าวัดนวลนรดิษ” สถาบันเดียวกันกับ “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี หัวหน้า คสช.และ ผบ.ทบ.อีกด้วย และที่แน่ๆ คือ ยังมีกฎอัยการศึก มีกำลังทหารจากมณฑลทหารบกที่ 42 ให้ใช้อย่างเหลือเฟือ หากต้องใช้กำลังในการรื้อถอนสิ่งกีดขวางในทะเลสาบ
 
ขอบคุณภาพจาก httptalung.gimyong.comindex.phptopic=310750.0
 
มีการนำ “กองทัพนักข่าว” จำนวนหนึ่งลงเรือไปปักหมายตามโพงพางต่างๆ ที่ขวางร่องน้ำเพื่อ “โชว์เพา” กันก่อนที่จะประกาศวัน “ดีเดย์” คืนวันที่ 16 กันยายน 2557 เป็นวันรื้อถอนโพงพาง และไชนั่งออกจากพื้นที่ที่เป็นร่องน้ำที่ต้องการขุดลอก จนหลายคนคิดว่าเที่ยวนี้การจัดระเบียบทะเลสาบต้องสำเร็จ หรือถ้าไม่สำเร็จคอซาดิสต์อาจจะได้เห็นการปะทะกันระหว่างชาวเล กับเจ้าหน้าที่รัฐ เพราะเชื่อ “เครดิต” ของนายธำรง เจริญกุล ที่ไม่ยอมถอย หรือยอมแพ้อะไรง่ายๆ
 
แถมก่อนหน้านี้ มีบรรดาคนใกล้ชิดแจกใบปลิวไปทั่วเมืองสงขลา เพื่อให้มวลชนสนับสนุนให้ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา จัดระเบียบทะเลสาบสงขลาให้สำเร็จ โดยอ้างเอาเรื่องเสื่อมโทรมของทะเลสาบเป็นที่ตั้ง และยกเอาประโยชน์ว่าหากมีการแก้ปัญหาทะเลสาบได้จะเป็นคุณอย่างยิ่งยวดในหลายด้าน
 
แต่สุดท้ายแล้ว วันที่ 16 กันยายนก็ผ่านไปอย่างเงียบๆ และเงียบเหมือนคนถูกหวยกินเพราะตรงกับวันหวยออก วันนี้โพงพาง ไซนั่ง และเครื่องมืออื่นๆ ยังอยู่อย่างครบครันในทะเลสาบสงขลา และเป็นวันที่ นายธำรง เจริญกุล ก็ยังอยู่ และได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลาอย่างเป็นทางการ
 
ส่วนเรื่องการจัดระเบียบทะเลสาบสงขลาได้กลายเป็นเรื่องที่ “เริ่มต้นเป็นลำไม้ไผ่ พอเหลาๆ ไปกลายเป็นไม้จิ้มขี้ฟัน” เสียเฉยๆ อย่างไรก็อย่างนั้น!!
 
หลายคนบอกว่า งานนี้ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา “เสียรังวัด” อย่างแรง เพราะลงทุนลงแรงไปมากโข หวังจะโชว์เพาให้สมกับที่คุยเอาไว้มาก แต่สุดท้ายเหมือนกับภาษาใต้ที่เรียกว่า “ฟัดด้งเปล่า” ไม่มีทั้งข้าวสาร และรำข้าวเหลือติดกระด้งแต่อย่างใด
 
หลายคนบอกว่า ความล้มเหลวของการจัดระเบียบทะเลสาบสงขลาที่ทำไม่สำเร็จ เพราะเป็นเรื่อง “การเมือง” มีนักการเมืองทำตัวแบบที่ “หมูเขาจะหาม ดันเอาคานมาสอด” แทนที่จะมีรายการ “หวานหมู” ทั้งบริษัทที่จะได้เป็นคู่สัญญาในการขุดลอกล่องน้ำ และกลุ่มคนที่จะได้ “เบี้ยทอน” ต้องหงายหลัง และร้องเพลงรอ ทั้งที่มองเห็นหมูหวานกะละมังใหญ่ตั้งรอให้เปิบอยู่ข้างหน้าแล้ว แต่กลับยัง “หงายเงิบ” อย่าง”งุ่นง่าน”
 
ขอบคุณภาพจาก httptalung.gimyong.comindex.phptopic=310750.0
 
เรื่องนี้ยังไม่จบ ทะเลสาบยังต้องจัดระเบียบกันใหม่ เมื่อจัดทั้งทะเลไม่ได้ เพราะไม่รู้จะเอาเงิน “ใต้โต๊ะ” ไปแจกจ่ายให้ผู้บุกรุกทะเลสาบอย่างไร เพราะการเอาเงินภาษีไปจ่ายผู้บุกรุกเป็นเรื่องผิดกฎหมาย การจัดระเบียบทะเลสาบสงขลาจึงจัดให้แคบลง เอาเฉพาะการขุดร่องน้ำเพื่อการเดินเรือในเชิงพาณิชย์เพียงอย่างเดียวก่อน เพราะนายทุนที่เป็นผู้รับจ๊อบไม่อยากรอนาน และบรรดาคนที่ต้องการ “เงินทอน” ก็ไม่ต้องการให้ “วิกาลยาวนาน ฝันยุ่งเหยิง”
 
การจัดระเบียบทะเลสาบสงขลาจึงต้องเดินหน้าต่อไป โดยมีการสั่งการให้ “คนโต” ในวงการประมงเปิดการเจราจากับ “กลุ่มทุนผู้ขุดเจาะพลังงาน” ในอ่าวไทยสนับสนุนเงินทุนคนละหลายสิบกำปั่น เพื่อที่จะได้นำเงินเหล่านั้นมาจ่าย “ใต้น้ำ” ให้แก่เจ้าของโพงพาง และไซนั่งที่รุกล้ำร่องน้ำให้รื้อถอนออกไปแบบไม่ต้องกระโตกกระตากให้เป็นที่สนใจของสังคม เพราะหากเกิดมีเสียงดังขึ้นอาจจะทำให้จำนวนไซนั่ง และโพงพางเพิ่มมากขึ้นในแนวร่องน้ำก็เป็นได้
 
วันนี้จึงเกิดการ “พูดคุยสันติสุข” ที่ทะเลสาบสงขลา ก่อนที่จะเกิดในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้?!
 
ดังนั้น จึงมีเสียงนินทากันให้ขรมทั้งทะเลสาบว่า เรื่องการจัดระเบียบทะเลสาบครั้งนี้มี “วาระซ่อนเร้น” กันตั้งแต่การยื่นหนังสือ จนถึงการประโคมโหมข่าว มีคนทำเงินหล่นเรี่ยราดตั้งแต่ริมทะเล จนถึงชายแดนมาเลเซีย ในการประโคมโหมข่าวเพื่อให้การจัดระเบียบทะเลสาบเป็นไปตามเส้นทางที่มีคนกลุ่มหนึ่งต้องการ แต่สุดท้ายก็ยังไปไม่ถึงฝั่งฝัน
 
โดยข้อเท็จจริงการจัดระเบียบทะเลสาบเป็นเรื่องที่ดี เป็นเรื่องสุดยอดถ้าทำได้จริง และในการกระทำนั้นจะต้องไม่ “แฝงเร้น” ด้วยเรื่องของผลประโยชน์ เรื่องของ “เงินทอน” เพราะวันนี้ทุกฝ่ายยอมรับว่าทะเลสาบสงขลาป่วยไข้ และต้องการให้มีการเยียวยาโดยด่วน ก่อนที่ทะเลสาบสงขลาจะหมดลมหายใจ
 
แต่ถ้าการเยียวยาทะเลสาบสงขลากลายเป็นช่องทางของการจัดสรรผลประโยชน์ในหมู่คณะ เหมือนกับใช้การป่วยไข้ของทะเลสาบสงขลาไปหากิน ก็ยิ่งเป็นการซ้ำเติมความป่วยไข้ให้ทะเลสาบแห่งนี้สาหัสสากรรจ์ยิ่งขึ้น เพราะถ้าจัดระเบียบได้แค่นี้ และไม่มีอะไรดีขึ้น เพียงแต่เพิ่มความ “ร่ำรวย” ให้ใครบางคนแล้วไซร้
 
ก็ควร “หยุดหากิน” กับทะเลสาบสงขลาได้แล้ว เพราะที่ผ่านๆ มา มีผู้คนหลายคน หลายกลุ่มต่างร่ำรวยกับทะเลสาบสงขลามามากเกินพอแล้วจริงๆ
 
 

กำลังโหลดความคิดเห็น