xs
xsm
sm
md
lg

อึ้ง! พบชายจิตเภทถูกล่ามโซ่ใต้ถุนบ้านกลางป่าสวนยางภูเก็ตนานนับ 10 ปี (ชมคลิป)

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


 
ศูนย์ข่าวภูเก็ต - หนุ่มภูเก็ต ประสานเจ้าหน้าที่รับตัวพี่ชายป่วยจิตเวชมีอาการคลุ้มคลั่ง พบถูกล่ามโซ่อยู่ใต้ถุนบ้าน กลางป่าสวนยางกว่า 10 ปี ไม่ได้รับการรักษา นำตัวส่งศูนย์พึ่งได้ทำการช่วยเหลือต่อไป

 
เมื่อเวลา 15.00 น. วันนี้ (13 ก.ย.) ร.ต.ต.ปรีชา รักษ์จันทร์ รอง สวป.สภ.ถลาง พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่มูลนิธิกุศลธรรมภูเก็ต เข้าตรวจสอบภายในบ้านไม่มีเลขที่กลางสวนยางบ้านปากพลี หมู่ที่ 8 ต.เทพกระษัตรี อ.ถลาง หลังได้รับแจ้งจาก นายอนุรักษ์ ตะวัน อายุ 28 ปี ว่า พี่ชายเกิดอาการคลุ้มคลั่งอยู่ภายในบ้าน ต้องการให้เจ้าหน้าที่ไปรับตัวเพื่อส่งไปทำการรักษา

 
โดย นายอนุรักษ์ ได้รอเจ้าหน้าที่อยู่ในหมู่บ้านปากพลี ก่อนจะนำทางเจ้าหน้าที่เข้าไปตามถนนเส้นเล็กๆ ที่ตัดผ่านกลางสวนยางอย่างทุลักทุเล เนื่องจากถนนเป็นหลุมเป็นบ่อ และมีความคับแคบ เข้าไปประมาณ 3 กิโลเมตร จึงถึงบ้าน ซึ่งเป็นบ้านไม้ยกสูงกั้นด้วยสังกะสีสภาพทรุดโทรม ใต้ถุนบ้านพบ นายประวิตร ตะวัน ผู้เป็นพี่ชาย ซึ่งถูกล่ามโซ่ไว้กับเสาบ้านในสภาพมอมแมม สวมใส่เสื้อผ้าขาดวิ่น นั่งอยู่บนแคร่ไม้ซึ่งสร้างไว้ให้เป็นที่นอน มีร่องรอยการนำอาหาร ขวดน้ำดื่มวางไว้บนแคร่จำนวนมาก เจ้าหน้าที่มูลนิธิกุศลธรรมภูเก็ต ได้เข้าพูดคุยสอบถามพูดจาเบื้องต้นพบว่ายังมีสติ พูดโต้ตอบได้เกือบเป็นปกติ จึงขอเปลี่ยนเสื้อผ้าให้

 
สอบถามจากน้องชาย คือ นายอนุรักษ์ ผู้แจ้ง กล่าวว่า ตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมาพี่ชาย (นายประวิตร) ได้เกิดอาการคลุ้มคลั่ง ทำลายข้าวของ และมีท่าทีจะทำร้ายไม่สามารถเข้าใกล้ได้ ตนจึงเฝ้าดูห่างๆ และคอยพูดคุยสังเกตอาการ ก่อนตัดสินใจแจ้งเจ้าหน้าที่เข้ามารับตัว

นายอนุรักษ์ กล่าวต่อว่า ครอบครัวของตนมีพี่น้องทั้งหมด 5 คน 3 คน มีอาการลักษณะดังกล่าว เเต่ปัจจุบัน มี 2 คน รักษาหาย ส่วน นายประวิตร พี่ชาย ปัจจุบันมีอายุกว่า 37 ปี เคยเรียนที่วิทยาลัยเทคนิค ก่อนจบการศึกษาในปีสุดท้ายได้มีอาการสติไม่ดีจนถึงปัจจุบันผ่านมาเป็นเวลากว่า 20 ปี เคยพาไปรักษาแต่ไม่หาย ตนและครอบครัว คือ พ่อแม่จึงพาพี่ชายมาทำสวนยางอาศัยที่นี่มาเป็นเวลา10 กว่าปี ที่ผ่านมา เคยปล่อยให้พี่ชายไปไหนมาไหนได้ แต่พี่ชายมักจะไปแกะอุปกรณ์รถจักรยานยนต์ และรถยนต์ของชาวบ้าน บางครั้งก็ขูดสีรถที่จอดอยู่ในหมู่บ้าน ทำให้ทรัพย์สินเสียหาย พ่อจึงเกรงว่าจะทำให้ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อน จึงตัดสินใจล่ามโซ่ไว้ เพื่อไม่ให้พี่ชายออกไปไหน ตนเองจึงมีหน้าที่ส่งข้าวส่งน้ำ และดูแลเรื่องการขับถ่ายต่างๆ ให้แก่พี่ชาย แต่ก็ไม่ได้ดูแลตลอด เนื่องจากต้องออกไปกรีดยาง ส่วนพ่อกับแม่ขณะนี้ทำงานอยู่ที่จังหวัดพังงา เดินทางมาเยี่ยมเดือนละครั้ง ภาระทั้งหมดจึงอยู่ที่ตน และเมื่อพี่ชายมามีอาการคลุ้มคลั่งทำให้ตนไม่สามารถเข้าไปดูแลได้ จึงต้องให้เจ้าหน้าที่เข้ามารับตัว

 
เมื่อสอบถามจากชาวบ้านละแวกใกล้เคียง ได้รับคำตอบว่า ชาวบ้านทั้งหมดทราบดีว่า นายประวิตร ถูกล่ามโซ่ไว้เป็นเวลานานนับสิบปี และครั้งสุดท้ายที่พบเห็นนายประวิตร ออกไปในหมู่บ้านเมื่อประมาณ 3-4 ปีที่ผ่านมา มีหลายครั้งที่ออกไปแกะอุปกรณ์ต่างๆ ของรถยนต์ จักรยานยนต์ หรือจุดไฟเผาขยะในสวนยางชาวบ้าน ครั้งสุดท้ายได้ไปขูดสีรถของชาวบ้านเสียหาย พ่อแม่ต้องชดใช้ค่าเสียหายนับหมื่นบาท จากนั้นก็ไม่เห็นออกไปในชุมชนอีกเลย แต่ยืนยันว่า นายประวิตร ไม่เคยทำร้ายคนอื่น แต่ก็ยอมรับมีชาวบ้านบางส่วนที่หวาดกลัว ขณะที่ตัวน้องชายเดินออกมาซื้อของ และละหมาดที่มัสยิดเป็นประจำเกือบทุกวัน ชาวบ้านต่างก็เอ็นดู เพราะนิสัยดี และคอยดูแลพี่ชายไม่ไปไหน

 
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ประสานไปยังสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดภูเก็ต เพื่อช่วยเหลือ เนื่องจาก นายอนุรักษ์ น้องชายไม่มีเงินสำหรับเป็นค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่อาจจะเกิดขึ้น จึงได้รับการประสานเข้ารักษาโดยการช่วยเหลือของ “ศูนย์พึ่งได้” ภายในโรงพยาบาลศูนย์วชิระภูเก็ต ซึ่งอยู่ในการดูแลของกระทรวงสาธารณสุขเพื่อขอส่งตัวไปตรวจร่างกายและสุขภาพในเบื้องต้นก่อนส่งทำการรักษาในโรงพยาบาลจิตเภทฯ อื่นๆ ต่อไป


 
 

กำลังโหลดความคิดเห็น