เพลิงเผาวอดเรือไดร์วิ่งขณะจอดอยู่ที่อ่าวฉลองภูเก็ต

ศูนย์ข่าวภูเก็ต - เพลิงพิโรธเผาเกือบวอดเรือไดร์วิ่ง “โชคสมบูรณ์ 15” ขณะจอดอยู่บริเวณอ่าวฉลอง จ.ภูเก็ต คาดเสียหายไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท ทางเจ้าหน้าที่คาดว่าสาเหตุน่าจะเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร

เมื่อเวลา 02.00 น. วันนี้ (12 ก.ย.) เจ้าหน้าที่ตำรวจภูเก็ต ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า เกิดเหตุเพลิงไหม้เรือโดยสารท่องเที่ยวดำน้ำ หรือเรือไดร์วิ่ง ซึ่งเป็นเรือให้บริการพานักท่องเที่ยวไปดำน้ำ ชื่อ โชคสมบูรณ์ 15 ของบริษัท อันดามัน โอเชี่ยน ซาฟารีส์ จำกัด ทำให้ลูกเรือที่นอนเฝ้าต้องกระโดดน้ำหนีตายเอาตัวรอดได้อย่างหวุดหวิด เหตุเกิดบริเวณอ่าวฉลอง ม.9 ต.ฉลอง จ.ภูเก็ต ขอให้ดินทางไปตรวจสอบด้วย

หลังจากรับแจ้ง พ.ต.ท.ฉัตรชัย ศักดิ์ดี สารวัตรตำรวจน้ำ 3 กองบังคับการ 8 กองบังคับการตำรวจน้ำ พร้อมด้วย พ.ต.ท.ปัญญา ชัยชนะ สารวัตร (ทำหน้าที่ปราบปรามทางน้ำ) สถานีตำรวจน้ำ 3 กองกำกับการ 8 กองบังคับการตำรวจน้ำ และเจ้าหน้าที่ตำรวจน้ำภูเก็ต ได้นำเรือตรวจการณ์คุณพุ่ม (814) ออกไปช่วยเหลือและฉีดน้ำสกัดเพลิง ซึ่งเจ้าหน้าที่ศูนย์ช่วยเหลือนักท่องเที่ยว อบจ.ภูเก็ต และเทศบาลตำบลฉลอง รวมทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจฉลอง ลงเรือสปีดโบตออกตรวจสอบก่อนหน้านี้แล้ว และคอยอำนวยความสะดวกอยู่รอบๆ

ที่เกิดเหตุเป็นท่าเทียบเรือขนาดใหญ่ มีทั้งเรือใบ เรือยอชต์ เรือสปีดโบต เรือหางยาว จอดอยู่หลายลำอยู่ หลังเกิดเหตุเจ้าของเรือ คนดูแลเรือต่างนำเรือหนีออกห่างเรือโชคสมบูรณ์อย่างโกลาหล จุดที่เรือถูกเพลิงไหม้อยู่ห่างจากท่าเทียบเรือประมาณ 150 เมตร เห็นเรือโดยสารท่องเที่ยวดำน้ำ (เรือไดร์วิ่ง) ชื่อ โชคสมบูรณ์ 15 ขนาดความกว้างประมาณ 5.9 เมตร ยาวประมาณ 24 เมตร กำลังถูกเพลิงไหม้อย่างหนัก ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจน้ำภูเก็ต ได้เร่งฉีดน้ำสกัดอย่างเร่งด่วน เพื่อป้องกันไม่ให้ประกายไฟไปติดเรือที่จอดอยู่ข้างเคียง ซึ่งการดับเพลิงเป็นไปด้วยความยากลำบาก เนื่องจากมีลมกระโชกแรง และภายในเรือมีถังออกซิเจนจำนวนมาก และมีเสียงระเบิดดังสนั่นหวั่นไหวออกมาเป็นระยะๆ เจ้าหน้าที่ตำรวจน้ำใช้เวลากว่า 2 ชั่วโมง จึงสามารถควบคุมเพลิงได้ จากการตรวจสอบพบว่า เพลิงได้ไหม้เรือลำดังกล่าววอดเกือบทั้งลำ เนื่องจากเรือทำด้วยไม้ และมีน้ำมันเชื้อเพลิงอยู่ภายในเรือเป็นเชื้อเพลิงอย่างดี
หลังจากเพลิงสงบทางเจ้าหน้าที่ตำรวจภูเก็ต ได้ให้เรือตรวจการณ์คุณพุ่ม (814) และเรือของศูนย์ฯ อบจ.ภูเก็ต ได้ทำการลากจูงเรือให้พ้นจากร่องน้ำ ห่างท่าเรืออ่าวฉลองประมาณ 700 เมตร และเรือได้จมลงในที่สุด

จากการสอบสวนคนเฝ้าเรือซึ่งเป็นชาวพม่า บอกว่า ตนเองได้นอนหลับเฝ้าเรืออยู่ และได้กลิ่นเหม็นที่บริเวณใต้ท้องเรือ จึงลุกขึ้นดูเห็นเพลิงกำลังลุกไหม้อย่างรุนแรง ตนเองจึงกระโดดน้ำหนีรอดตายเอาตัวรอดในที่สุด อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจคาดว่า สาเหตุเบื้องต้นน่าจะเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจรในห้องเครื่อง มูลค่าความเสียหายประมาณ 10 ล้านบาท ส่วนสาเหตุที่แท้จริงจะทำการสอบสวนต่อไป