ชุมพร - รักต่างวัย ศิลปินวาดภาพชื่อดัง “อาจารย์ไม้ ร่มธรรมชาติอโศก” วัย 72 ปี กับสาวปริญญาตรีวัย 27 ปี เผยตอนไปขอสาวแต่งงานมีเงินแค่ 300 บาท อยู่กันมา 6 เดือนแล้ว พบอยู่กันอย่างมีความสุข แม้ว่าอายุจะต่างกัน
เมื่อเวลา 10.00 น.วันนี้ (10 ก.ย.) ที่บ้านเลขที่ 22 หมู่.8 ต.พระรักษ์ อ.พะโต๊ะ จ.ชุมพร ผู้สื่อข่าวเข้าพบครอบครัวของ นายวิโรจน์ นุ้ยบุตร วัย 72 ปี หรือฉายา “อาจารย์ไม้ร่ม ธรรมชาติอโศก” ศิลปินวาดภาพแนวเซฮร์เรียลิสท์ จบจากเพาะช่าง อดีตอาจารย์สอนอยู่โรงเรียนนานาชาติ I.S.B. กรุงเทพฯ ซึ่งเป็นจิตรกรอยู่ในกลุ่มเดียวกับ ถวัลย์ ดัชนี และประเทือง เอมเจริญ ที่มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักไปทั่วฟ้าเมืองไทย แต่ที่เป็นเรื่องแปลก และเป็นที่น่ายินดี จนทำให้ผู้สื่อข่าวต้องตามไปสัมภาษณ์ ก็คือเรื่องที่ “อาจารย์ไม้ร่ม ธรรมชาติอโศก” เพิ่งจะสละโลดในวัย 72 ปี กับภรรยาสาวสวย น.ส.ชญาดา เนียมเปีย อายุ 27 ปี ที่มีอายุห่างกันถึง 45 ปี
โดยทั้งคู่เพิ่งอยู่กินกันฉันสามีภรรยาได้เพียง 6 เดือนเศษ โดยอาศัยอยู่ในบ้านที่สร้างขึ้นอย่างเรียบง่าย มีความกว้าง 10 เมตร ยาว 12 เมตร ฝาผนังบ้านทำจากไม้ และไม้ไผ่นำมาตีห่างๆ ลักษณะเหมือนรั้ว ส่วนหลังคาบ้านมุงด้วยกระเบื้อง และปลูกไม้เลื้อยอยู่บนหลังคาเพื่อความร่มรื่น พื้นเป็นพื้นดินที่ไม่ได้เทปูนซีเมนต์ บริเวณปากทางเข้าบ้านทำเป็นซุ้มปลูกต้นบวบ และฟักรวมถึงไม้เลื้อยต่างๆ ที่สามารถรับประทานได้ อย่างลงตัว ผสมผสานราวไม้ดอกไม้ประดับอย่างสวยงาม อยู่ท่ามกลางสวนปาล์มที่สร้างเป็น “สวนธรรมชาติอโศก”
นายวิโรจน์ นุ้ยบุตร วัย 72 ปี หรือฉายา “อาจารย์ไม้ร่ม ธรรมชาติอโศก” จิตรกรผู้โด่งดัง กล่าวว่า ความรักของทั้งสองคนไม่ได้เกิดจากความใคร่เพียงอย่างเดียว เพราะความรักที่เกิดจากความใคร่นั้นจะไม่จีรังยั่งยืน เมื่อความสาวหมดไปความรักก็หมดตามไปด้วย แต่ความรักของตน และภรรยาเกิดจากจิตใจที่ทั้งคู่มีแนวคิดที่เหมือนกัน ถึงแม้ว่าอายุจะห่างกันถึง 45 ปี ก็ตาม เมื่อตอนที่ตัวเองไปสู่ขอ น.ส.ชญาดา กับพ่อ แม่ เพื่อมาเป็นภรรยา ตนมีเงินไปเพียง 300 บาท เท่านั้น ช่วงแรกๆ พ่อแม่ฝ่ายภรรยาเห็นตนก็ตกใจ และมีความกังวลใจอยู่ไม่น้อย แต่เมื่อได้พูดคุยกัน ทางพ่อตาและแม่ยายก็ยินยอมให้เราอยู่ด้วยกัน
อาจารย์ไม้ร่ม ธรรมชาติอโศก เปิดเผยต่อว่า ทุกวันนี้การใช้ชีวิตประจำวันของตนก็เหมือนเดิมดังที่เคยปฏิบัติมา ไม่ว่าจะอาบน้ำสระผมด้วยดินเหนียว ซักผ้ากับผงขี้เถ้า กินอาหารมังสวิรัติ แปรงฟันด้วยใบข่อย รวมถึงการวาดภาพด้วยควันเทียน และวัสดุต่างๆ ตามธรรมชาติที่หาได้ จะต่างจากเดิมก็แค่มีคนที่มาใช้ชีวิตร่วมกันในแนวทางเดียวเพิ่มมาอีกหนึ่งคนนั่นก็คือ ภรรยาของตนนั่นเอง ส่วนงานเพื่อสังคม ตอนนี้ได้รับเชิญจาก จ.ส.ต.วิชิต กัลยาณวัตร พัฒนาการอำเภอพะโต๊ะ เชิญไปเป็นวิทยากรเพื่อเผยแพร่แนวความคิดการอยู่ร่วมกับธรรมชาติสไตล์อาจารย์ไม้ร่ม และแสดงศิลปะการวาดภาพเพื่อเป็นวิทยาทานแก่ผู้สนใจ
อาจารย์ไม้ร่ม ธรรมชาติอโศก เปิดเผยถึงเส้นทางในอดีตของตนเองว่า ตัวเองเรียนจบจากเพาะช่าง เมื่อปี 2506 จากนั้นได้เข้าวัดศึกษาธรรมะ และวาดภาพอยู่นานหลายปี ต่อมา ได้ไปเป็นอาจารย์สอนศิลปะอยู่ที่โรงเรียนนานาชาติ I.S.B. กรุงเทพฯ สอนอยู่ได้ราว 6 ปี ขณะนั้นเงินเดือนเกือบ 6 หมื่นบาท ก็ลาออกเมื่อปี 2528 จากนั้นก็ได้ตระเวนสร้างสรรค์ผลงานภาพเขียน ด้วยการใช้เปลวไฟแทนปลายพู่กัน และควันไฟจากเทียนไขลนบนเฟรมให้เกิดเส้นสาย รูปร่าง และสีสัน ซึ่งเป็นภาพแนวนามธรรม จินตนาการที่ประชดประชัน เสียดสีสังคมสะท้อนเรื่องราวทางพระพุทธศาสนา ปรัชญาในการดำเนินชีวิต และในช่วงปี 2545 ตนจึงเข้าไปเก็บตัวอยู่ในป่าต้นน้ำพะโต๊ะ จ.ชุมพร เพื่ออุทิศชีวิตให้แก่งานศิลปะอย่างเป็นอิสระ โดยอาศัยวัตถุดิบจากในธรรมชาติมาเขียนรูป กระทั่ง 6 เดือนที่ผ่านมา ได้อยู่กินฉันสามีภรรยากับ น.ส.ชญาดา เนียมเปีย อายุ 27 ปี
ด้าน น.ส.ชญาดา ภรรยาสาวรุ่นเหลน เปิดเผยถึงเส้นทางชีวิตจนตกลงปลงใจอยู่กินฉันสามีภรรยากับ “อาจารย์ไม้ร่ม ธรรมชาติอโศก” สามีรุ่นคุณปู่ทวด ว่า ตนเองนั้นจบการศึกษาระดับปริญญาตรี จากมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ได้ทำงานเป็นอาสาสมัครเกี่ยวกับเด็กและเยาวชนให้สถานพินิจ กระทั่งเมื่อช่วงปลายปี 52 ได้ชมรายการ “คนค้นฅน” สถานีโทรทัศน์ช่องหนึ่ง เกิดความประทับใจแนวคิดของคนต้นเรื่องก็คือ “อาจารย์ไม้ร่มธรรมชาติอโศก” และพยามที่จะติดต่ออาจารย์มาตลอดแต่ก็ไม่สามารถติดต่อได้ จนเมื่อปลายปี 56 ได้มีโอกาสไปร่วมกิจกรรมทางการเมืองกับกลุ่ม กปปส. และได้เจอกับอาจารย์ด้วยความบังเอิญ ประกอบกับความชื่นชอบในตัวอาจารย์ไม้ร่มเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว จึงเข้าไปพูดคุยแลกเปลี่ยนทัศนคติ และแนวความคิดกัน
น.ส.ชญาดา กล่าวต่อว่า เวลาผ่านไปได้ราวหนึ่งเดือน ทำให้เราสองคนเกิดเป็นความรักกันขึ้น ต่อมาในเดือน ก.พ.57 จึงตัดสินใจที่จะใช้ชีวิตร่วมกัน โดยได้พาอาจารย์ไม้ร่ม ธรรมชาติอโศก ไปพบพ่อแม่ และสู่ขอตามประเพณีแบบโบราณไม่ได้มีของหมั้นเหมือนคู่อื่นๆ มีเพียงนำดอกไม้ใส่พานมาสู่ขอกับพ่อแม่เท่านั้น และพากันมาครองชีวิตคู่อยู่ที่ ต.ปากทรง อ.พะโต๊ะ จ.ชุมพร แห่งนี้