xs
xsm
sm
md
lg

บึ้มสนั่น!รับวันชาติจีน ตร.ไทยเข้มป้องกันเหตุร้าย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน/เอเยนซี - เกิดเหตุระเบิดซ้ำรับวันชาติจีน ในมณฑลก่วงซี หลังจากวันก่อนเกิดระเบิดไปแล้วรวม 17 ครั้ง คร่าชีวิตเหยื่อเคราะห์ร้ายอย่างน้อย 7 ราย บาดเจ็บมากว่า 50 คน ด้าน ผบ.ตร. คนใหม่ สั่งเข้มทั่วประเทศ กำชับดูแลแหล่งรวมตัวนักท่องเที่ยวจีน เตรียมหารือยกระดับการดูแลความปลอดภัย ประสานนครบาลขอกำลังสนับสนุน สถานทูตจีนอาจตกเป็นเป้าก่อเหตุ เผยประสานส่งกำลังดูแล ขณะที่ ตร.เชียงใหม่จัดวางเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังตรวจตรารอบบริเวณโดยรอบที่ตั้งสถานกงสุลจีน ดูแลรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง ส่วนแหล่งท่องเที่ยวดังเชียงรายทั้งวัดร่องขุ่น-บ้านดำ คุมเข้มความปลอดภัยห้วงหยุดยาววันชาติจีน ท่ามกลางกลุ่มนักท่องเที่ยวจีนที่เดินทางมาเที่ยวอย่างต่อเนื่อง

กลุ่มสื่อจีนรายงานว่า เช้าวันพฤหัสบดี (1 ต.ค.) ซึ่งตรงกับวันชาติจีน ได้เกิดเหตุระเบิดขึ้นบนชั้นห้าของอาคารที่พักอาศัยเมื่อราว 08.00 น. ตามเวลาท้องถิ่นอำเภอหลิวเฉิง เขตปกครองตนเองชนชาติจ้วง มณฑลก่วงซี โดยแรงระเบิดสร้างความเสียหายแก่โครงสร้างอาคารบางส่วนและบีบอัดเศษหินเศษปูนร่วงเต็มพื้นถนนด้านล่าง ส่งผลให้มีประชาชนหนึ่งคนได้รับบาดเจ็บ

โดยชาวบ้านผู้พักอาศัยอยู่ในตึกเล่าว่า พวกเขารู้สึกถึงแรงสั่นไหวของตัวอาคารหลังจากได้ยินเสียงระเบิดดังสนั่นขึ้นมา

ทั้งนี้ ช่วงบ่ายของวันพุธ (30 ก.ย.) เกิดเหตุระเบิด 17 ครั้ง ทั่วอำเภอหลิวเฉิง เมืองหลิวโจว รวมถึงพื้นที่ใกล้เคียง โดยระเบิดลูกแรกปะทุขึ้นเวลาราว 15.50 น. ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ 5 ราย ที่โรงพยาบาล 2 ราย และผู้บาดเจ็บมากกว่า 50 คน
เจ้าหน้าที่ตำรวจท้องถิ่นกล่าวในวานนี้ว่า ผลการสอบสวนชี้ตัวผู้ต้องสงสัยเป็นชายแซ่เว่ย อายุ 33 ปี ชาวจีนในตำบลต้าผู่ โดยอ้างว่านายเว่ยเป็นผู้จ้างวานบุคคลอื่นๆ ให้จัดส่งพัสดูไปรษณีย์ด่วนพิเศษซึ่งซุกซ่อนวัตถุระเบิดอยู่ข้างในไปทั่วอำเภอหลิวเฉิง

ขณะเดียวกันตำรวจสันนิษฐานเหตุฯ ว่าเป็นการโจมตีของผู้ก่อการร้าย ที่มีเล็งเป้าหมายไปยังสำนักงานรัฐบาลอำเภอหลิวเฉิง ซูเปอร์มาร์เก็ต ห้างสรรพสินค้า โรงพยาบาล เรือนจำ สถานีรถโดยสารประจำทาง หอพักของพนักงานโรงเลี้ยงสัตว์ และศูนย์ป้องกันโรคติดต่อท้องถิ่น

นายไช่ เถียนไล่ หัวหน้าฝ่ายการเมืองประจำหน่วยพิทักษ์สันติราษฎร์อำเภอหลิวเฉิง แถลงวานนี้ว่าจากการแจ้งข้อมูลอันเป็นประโยชน์ของสาธารณะชนนำไปสู่การกักกันและตรวจสอบพัสดุไปรษณีย์ต้องสงสัย 60 ชิ้น โดยเจ้าหน้าที่หน่วยเก็บกู้ระเบิด และการระงับบริการส่งพัสดุฯ ของกรมไปรษณีย์นครหลิวโจวจนถึงวันเสาร์นี้

อย่างไรก็ดี ภายหลังสำนักข่าวหนันกั๋ว เจ่าเป้า รายงานเพิ่มเติมว่าตำรวจสามารถจับกุมตัวผู้ต้องสงสัย และดำเนินการสอบสวนนายเว่ยต่อไป

*** สั่งเข้มสถานทูตจีนแหล่งท่องเที่ยว

วานนี้ (1 ต.ค.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) กล่าวถึงการดูแลความปลอดภัยและความสงบเรียบร้อยเนื่องในวันชาติจีน หลังมีเหตุวินาศกรรมหลายจุดในประเทศจีนเมื่อคืนที่ผ่านมา ว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติสั่งการดูแลความปลอดภัยในทุกวันสำคัญ เช่น วันชาติของทุกประเทศอยู่แล้ว กรณีวันชาติจีนนั้นตนได้สั่งการทั่วประเทศกำชับไปตั้งแต่เมื่อคืนวันที่ 30 ก.ย.ที่ผ่านมา ให้ดูแลสถานที่และแหล่งรวมตัวของนักท่องเที่ยวจีน ที่ผ่านมาก็ทำเป็นปกติ อย่างไรก็ตาม วันนี้จะหารือกับรอง ผบ.ตร.และผู้ช่วย ผบ.ตร.ที่เกี่ยวข้องเพื่อวางมาตรการยกระดับความเข้มในการดูแลความปลอดภัย ทั้งนี้ ทางสถานเอกอัครราชสาธารณรัฐประชาชนทูตจีนประจำประเทศไทยได้ประสานไปยังกองบัญชาการตำรวจนครบาลเพื่อขอกำลังสนับสนุนแล้ว

ผู้สื่อข่าวถามว่า ก่อนนี้มีข่าวมาตลอดว่าสถานทูตฯ อาจตกเป็นเป้า ตั้งแต่มีการส่งชาวอุยกูร์ให้จีน ต่อเนื่องเหตุระเบิดใน กทม. พล.ต.อ.จักรทิพย์กล่าวว่า ตนคุยกับสถานทูตตลอด ทางสถานทูตให้ข้อมูลมาเราก็ปรับแผนส่งกำลังไปสนับสนุน เช่นเดียวกับทุกประเทศที่ร้องขอมายัง ตร. แต่ช่วงที่จำเป็นก็เพิ่มเติมกำลังไปตามระดับสถานการณ์ ทั้งนี้ ช่วงนี้เพิ่มความเข้มข้นในการตรวจสอบการข่าวเพื่อเฝ้าระวัง อย่างไรก็ตามยังไม่พบความเคลื่อนไหวของกลุ่มหัวรุนแรง หรือกลุ่มต่อต้านรัฐบาลจีนในประเทศไทยแต่อย่างใด

*** กองปราบฯสั่งเข้มสถานทูตจีน

ที่กองปราบปราม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เนื่องด้วยวันนี้เป็นวันชาติจีน พล.ต.ต.อัคราเดช พิมลศรี ผบก.ป.,พ.ต.อ.ประเสริฐ พัฒนาดี รอง ผบก.ป.และ รอง ผบก.ป.งานมั่นคงทุกท่าน มีความห่วงใยในเรื่องความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของคนไทยและนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ เช่น ชาวจีน เป็นต้น ดังนั้นเพื่อป้องกันเหตุที่อาจเกิดขึ้นในช่วงนี้ จึงขอให้ทุก กก.ในสังกัด บก.ป.เพิ่มความเข้ม ดังนี้

1. สถานที่ได้แก่สถานฑูตหรือหน่วยงานของอื่นๆ ประเทศจีน หรือวัดจีนต่างๆ ที่เป็นเชิงสัญลักษณ์หรือสถานที่เกี่ยวข้องกับการขนส่งมวลชน หรือที่พำนักระหว่างอยู่ในไทย 2. สถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ หรือเป็นแหล่งที่คนจีนมักเข้าไปท่องเที่ยว หรือใช้บริการ 3. ให้ทุก กก.กำชับตำรวจให้เพิ่มความเข้มในด้านการข่าว โดยเฉพาะ กก.ปพ.บก.ป.ให้สายตรวจรถยนต์เพิ่มความเข้มในจุดเสี่ยงในกรุงเทพฯ หากพบวัสดุต้องสงสัย เช่น กระเป๋า หรือพัสดุไปรษณีย์ถูกวางทิ้งไว้ในจุดเสี่ยง ให้แจ้งหน่วยที่เกี่ยวข้องพิสูจน์ทราบ 4. หากมีข้อมูลหรือการข่าวเกี่ยวกับความมั่นคงให้รายงาน ศปก.บก.ป.ทราบทันที

ป.สั่งเข้มสถานทูตจีน-สถานที่สำคัญในเชิงสัญลักษณ์เนื่องในวันชาติจีน หวั่นเกิดเหตุ

*** ตรึงกำลังเจ้าหน้าที่รอบสถานทูตจีน ***

รายงานข่าวแจ้งเพิ่มเติมว่า บริเวณหน้าสถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย ถนนรัชดาภิเษก วานนี้ (1 ต.ค.) กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ห้วยขวาง และกองบังคับการตำรวจนครบาล 1 เข้ามาดูแลความเรียบร้อยบริเวณด้านหน้าสถานทูต และบริเวณด้านข้างซอยรัชดาภิเษก 3 เพื่อตรวจตราความเรียบร้อยตั้งแต่คืนวันที่ 30 ก.ย.ที่ผ่านมา

*** จัดสายตรวจลงพื้นที่ป้องกันเหตุป่วน

ขณะที่ พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ รอง ผบ.ตร. ได้มีวิทยุในราชการ ศปก.ตร.ด่วนที่สุด ถึง ผบช.น.1-9, ก., ตชด., ส., สตม. ใจความว่า เนื่องจากเป็นช่วงเกษียณอายุราชการทำให้กำลังพลส่วนหนึ่งลดลง กำลังพลที่อยู่ทำงานหนักขึ้นจึงเป็นช่องว่างให้มิจฉาชีพประกอบอาชญากรรมโดยเฉพาะคดีประทุษร้ายต่อทรัพย์ ประกอบกับวันที่ 1 ตุลาคม เป็นวันชาติจีน จึงอาจมีผู้ไม่หวังดี หรือบุคคลที่ 3 ก่อเหตุร้ายในรูปแบบต่างๆ เพื่อสร้างความวุ่นวายในสังคม ลดความน่าเชื่อถือของภาครัฐ จึงกำชับให้หัวหน้า สน. สภ. และหน่วยงานรับผิดชอบพื้นที่ทุกแห่งเพิ่มความเข้ม มีมาตรการเชิงรุกในการสืบสวนและเฝ้าระวังเพื่อป้องกันอาชญากรรมและเหตุร้ายในพื้นที่เป้าหมายด้านการท่องเที่ยว หรือเศรษฐกิจ และสถานที่เชิงสัญลักษณ์ โดยเฉพาะกลุ่มบุคคลสัญชาติจีน ด้วยการจัดสายตรวจเดินเท้าและฝ่ายสืบสวนลงพื้นที่ ตั้งจุดตรวจค้นบุคคล ยานพาหนะ อาวุธปืน วัตถุระเบิด ยาเสพติด สิ่งของผิดกฎหมายทุกชนิด ถ่ายรูปทำประวัติบุคคล ยานพาหนะต้องสงสัย ให้รถยนต์สายตรวจจอดเปิดสัญญานไฟวับวาบ เพิ่มความถี่วงรอบการตรวจของจักรยายนต์สายตรวจเพื่อตัดโอกาสการกระทำผิด

นอกจากนี้ ให้ ผบช.ก. ผบช.ส. ผบช.สตม. และ ผบช.ตชด.สั่งการหน่วยสนับสนุนกำลังพล ยานพาหนะตามที่ได้ระบุการร้องขอโดยขึ้นแผนและยุทธวิธีกับ ผบก.น. /ผบก.ภ.จว. และให้ ผบช. ผบก.ทุกพื้นที่ กวดขันกำชับดูแลการปฏิบัติของทุก สน.สภ.ในสังกัด ให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย โดยให้รายงาน ศปก.ตร.ด้วย

*** ตร.เชียงใหม่ดูแลเข้มสถานกงสุลจีน

รายงานจากจังหวัดเชียงใหม่แจ้งว่า หลังจากเมื่อวันที่ 30 ก.ย.ที่ผ่านมาเกิดเหตุระเบิดโจมตีหลายจุดในเขตชุมชนเมืองของอำเภอหลิ่วเฉิง เมืองหลิ่วโจว เขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วง ทางภาคใต้ตอนกลางของจีน สร้างความเสียหายต่อสถานที่ราชการ และสถานที่สาธารณะจำนวนมาก ซึ่งเบื้องต้นระบุมีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 7 ศพได้รับบาดเจ็บมากกว่า 51 คน ช่วงสายของวานนี้ (1 ต.ค.) ซึ่งเป็นวันเฉลิมฉลองวันชาติจีน ที่บริเวณด้านหน้าสถานกงสุลใหญ่สาธารณะรัฐประชาชนจีน ณ นครเชียงใหม่ บนถนนช่างหล่อ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ ได้มีการปิดทำการเพื่อเฉลิมฉลองในวันชาติจีนเป็นเวลา 6 วัน ระหว่างวันที่ 1-6 ต.ค. 58 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองเชียงใหม่ ได้มีการจัดวางกำลังชุดเฝ้าระวังเหตุประจำจุด และสายตรวจเคลื่อนที่ดูแลโดยรอบตลอด 24 ชั่วโมง

ทั้งนี้ จากการสอบถามเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองเชียงใหม่ ที่ดูแลตรวจตราความปลอดภัยบริเวณสถานกงสุลใหญ่สาธารณะรัฐประชาชนจีน ณ นครเชียงใหม่ ระบุว่าได้รับคำสั่งจากผู้บังคับบัญชาให้ออกตั้งจุดเฝ้าระวัง หลังจากเกิดเหตุระเบิดที่เมืองจีน สำหรับจุดเฝ้าระวังนี้จะมีไปอีกอย่างน้อยประมาณ 3-4 วัน ใช้กำลังไม่มากนัก และไม่มีการตั้งด่านตรวจค้น เพื่อไม่ให้นักท่องเที่ยวชาติอื่นตื่นตกใจ จนเสียภาพลักษณ์เมืองท่องเที่ยว แต่จะมีการตรวจตราสอดส่องอย่างเข้มงวดทั่วถึงเพื่อเฝ้าระวัง

**เชียงรายดูแลแหล่งท่องเที่ยวดัง

ส่วนบรรยากาศการท่องเที่ยวในพื้นที่ จ.เชียงรายว่า ในวันชาติจีนนี้ยังคงมีชาวจีนเดินทางไปท่องเที่ยวตามสถานที่ต่างๆ ใน จ.เชียงราย อย่างคึกคัก โดยเฉพาะที่วัดร่องขุ่น ต.ป่าอ้อดอนชัย อ.เมืองเชียงราย ที่รังสรรค์ผลงานโดยอาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ศิลปินแห่งชาติชื่อดัง และบ้านดำ ต.นางแล อ.เมืองเชียงราย ของอาจารย์ถวัลย์ ดัชนี ศิลปินแห่งชาติผู้เลื่องชื่อที่ล่วงลับไปแล้ว

มัคคุเทศก์หรือไกด์นำเที่ยวระบุว่า ช่วงนี้คนจีนยังคงมาท่องเที่ยวอย่างต่อเนื่องเพราะถือเป็นวันหยุดยาวตั้งแต่วันที่ 1-7 ต.ค. หรือกว่า 1 สัปดาห์เต็มๆ

อาจารย์เฉลิมชัยกล่าวว่า วัดได้มีเจ้าหน้าที่ดูแลบริเวณวัดกว่า 100 คน และยังมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองเชียงราย และตำรวจท่องเที่ยวอีกวันละ 5 นาย คอยสอดส่องดูแลทั่วบริเวณ โดยทั้งหมดจะช่วยกันดูแลความปลอดภัย เฝ้าระวังสิ่งผิดสังเกต วัตถุต้องสงสัย สัมภาระที่คนอาจนำไปทิ้งเอาไว้ ฯลฯ ซึ่งที่ผ่านมายังไม่พบสิ่งผิดสังเกต แต่ก็ได้มีการกำชับให้เจ้าหน้าที่และไกด์นำเที่ยวดูแลลูกทัวร์อย่างใกล้ชิด เพื่อสร้างความมั่นใจในความปลอดภัยให้ทุกคนที่ไปเยือน

ด้านนายนพดล เขื่อนเพชร ผู้จัดการบ้านดำ กล่าวว่า ทางบ้านดำก็จัดเจ้าหน้าที่ดูแลทั้งประตูหน้าและหลังบ้านดำ รวมทั้งตระเวนสอดส่องดูแลตามจุดสำคัญทั่วบริเวณอีก 8 คนและยังมีเจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยมาดูแลตลอดทั้งวัน ทำให้บรรยากาศการท่องเที่ยวยังคงคึกคักและนักท่องเที่ยวมีความมั่นใจ ทั้งนี้ ทางบ้านดำยังได้มีมาตรการไม่ให้นักท่องเที่ยวนำสิ่งของประเภทอาหาร เครื่องดื่ม หรือวัตถุอันตรายเข้า และให้ไกด์ทุกคนลงรายชื่อแจ้งยอดนักท่องเที่ยวด้วย

สำหรับนักท่องเที่ยวชาวจีนที่เข้ามาท่องเที่ยวในเชียงรายนั้น มีทั้งกลุ่มนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาจาก จ.เชียงใหม่ และกรุงเทพฯ รวมทั้งกลุ่มที่เข้ามาทางถนนอาร์สามเอไทย-สปป.ลาว-มณฑลยูนนาน จีนตอนใต้ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ ตม.ได้มีการจัดเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกและดูแลความปลอดภัยด้านต่างๆ อย่างเต็มที่
กำลังโหลดความคิดเห็น