ศูนย์ข่าวภูเก็ต - ศูนย์ดำรงธรรมภูเก็ต ลงพื้นที่ตรวจสอบการสร้างกำแพงในที่สาธารณะใน ต.เชิงทะเล จ.ภูเก็ต หลังมีการร้องเรียน เบื้องต้นเจ้าหน้าที่จากสำนักงานที่ดินยืนยันที่ดินด้านหลังกำแพงไปยังทะเลไม่มีเอกสารสิทธิ ขณะที่ตัวแทนเจ้าของที่อ้างมีสิทธิครอบครอง เนื่องจากศาลตัดสินแล้วเมื่อปี 39 แต่สรุป อบต.ต้องทุบกำแพงดังกล่าวภายใน 7 วัน
เมื่อเวลา 14.00 น. วันนี้ (4 ก.ย.) นายสมเกียรติ สังข์ขาวสุทธิรักษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต พร้อมด้วย นายประเจียด อักษรธรรมกุล หัวหน้าสำนักงานจังหวัดภูเก็ต นายประพันธ์ ขันพระแสง หัวหน้าศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดภูเก็ต พร้อมด้วย นายมาแอน สำราญ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลเชิงทะเล และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งที่ดิน เจ้าท่าฯ ทหารบก ทหารเรือ และตัวแทนผู้ร้อง เข้าตรวจสอบกรณีมีการร้องเรียนว่ามีการสร้างกำแพงคอนกรีต สูงประมาณ 3 เมตร ยาวประมาณ 50 เมตร ในที่สาธารณะ หมู่ 3 ต.เชิงทะเล อ.ถลาง จ.ภูเก็ต หลังได้รับการร้องเรียนจากนายกวินทุ์
ซึ่งจากการลงพื้นที่ตรวจสอบในครั้งนี้ นายสมเกียรติ สังข์ขาวสุทธิรักษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า ปัญหาการสร้างกำแพงบริเวณพื้นที่ดังกล่าว ทางศูนย์ดำรงธรรมได้รับการร้องเรียนมาหลายครั้งแล้ว ซึ่งที่ผ่านมา ยังไม่สามารถดำเนินการอะไรได้เนื่องจากยังไม่มีความชัดเจนเรื่องของที่ดิน ว่า ที่ดินฝั่งนอกกำแพงที่ติดชายทะเลนั้นเป็นที่ดินที่มีเจ้าของ หรือมีเอกสารสิทธิหรือไม่ จึงได้เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาร่วมกันตรวจสอบ ซึ่งในเบื้องต้นที่เจ้าหน้าที่จากสำนักงานที่ดินอำเภอถลาง บอกว่า ที่ดินดังกล่าวเป็นที่ดินสาธารณะ ทำให้การสร้างกำแพงดังกล่าวเข้าข่ายเป็นการสร้างอาคารในที่สาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต
แต่อย่างไรก็ตาม ระหว่างนั้นตัวแทนเจ้าของที่ด้านนอกฝั่งกำแพง ได้ชี้แจงต่อทางคณะที่ลงไปตรวจสอบการสร้างกำแพงดังกล่าว ว่า ที่ดินนั้นมีผู้ครอบครองแต่ไม่มีเอกสารสิทธิ ซึ่งเมื่อปี 2539 ศาลได้ตัดสินให้ผู้ครอบครองเดิมพ้นผิดจากคดีบุกรุก เนื่องจากผู้ครอบครองนั้นได้เข้าครอบครองพื้นที่มาก่อนวันที่ 4 มี.ค.2515 ก่อนที่จะมีการประกาศของคณะปฏิวัติฉบับที่ 96 ทางเจ้าของผู้ครอบครองจึงครอบครองที่ดินดังกล่าว และข่ายสิทธิให้แก่บุคคลอื่น จนมาถึงผู้ครอบครองคนปัจจุบัน
อย่างไรก็ตามห ลังหลังจากการตรวจสอบ ทางคณะที่ลงไปตรวจพื้นที่ได้กลับไปประชุมที่ อบต.เชิงทะเลอีกครั้ง เพื่อลงมติ และทำบันทึกในการรื้อถอนกำแพงดังกล่าว ซึ่งในเบื้องต้นจะต้องรื้อให้เสร็จภายใน 7 วัน แต่อย่างไรก็ตาม ในระหว่างที่เข้าตรวจสอบทางผู้ครอบครองที่ดินแจ้งว่าจะทำการรื้อถอนกำแพงออกเอง
นายกวินทุ์ วรานุศุภากุล ผู้รับมอบอำนาจจากเจ้าของที่ดินซึ่งถูกสร้างกำแพงกั้นไว้ดังกล่าว กล่าวว่า ที่ดินแปลงด้านหน้านั้นเจ้าของอยู่กรุงเทพฯ ซึ่งตนเป็นผู้รับมอบอำนาจจะเดินทางลงมาดูพื้นที่ปีละครั้ง และเมื่อปี 2551 พบว่า มีการก่อสร้างกำแพงบริเวณด้านที่จะลงไปทะเล ทั้งๆ ที่ที่ดินบริเวณส่วนนั้นมองว่าเป็นที่ดินสาธารณะ จึงได้ร้องเรียนไปยัง อบต.เชิงทะเล และศูนย์ดำรงธรรมเพื่อให้ตรวจสอบ ซึ่งร้องเรียนไปหลายครั้งแต่เรื่องกลับเงียบ จนกระทั่งวันนี้พบว่า หน่วยงานต่างๆได้ลงพื้นที่ตรวจสอบอีกครั้งเพื่อแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น