xs
xsm
sm
md
lg

“เปี่ยน กี่สิ้น” อดีตนายกเล็กเมืองป่าตอง มอบตัวสู้คดีอั้งยี่ ตร.ส่งเข้าห้องขังรอสอบปากคำ (ชมคลิป)

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


 
ศูนย์ข่าวภูเก็ต - อดีตนายกเล็กเมืองป่าตอง “เปี่ยน กี่สิ้น” ควงลูกชายคนโต “ปัทวี กี่สิ้น” พร้อมพวกอีก 5 คน เข้ามอบตัวสู้คดีความผิดฐานเป็นอั้งยี่แล้ววันนี้ ตำรวจส่งเข้าห้องขังรอนำตัวมาสอบปากคำ ขณะที่ พล.ต.ต.ปวีณ เผยพบเอกสารน่าสงสัยหลายรายการ ทั้งบัญชีเรียกเก็บเงินจากกลุ่มอาชีพ และอื่นๆ และเงินสดจำนวนมาก

เมื่อเวลา 11.45 น. นายเปี่ยน กี่สิ้น พร้อมด้วย นายปัทวี กี่สิ้น ผู้ต้องหาตามหมายจับศาล ของจังหวัดภูเก็ต ในข้อหา “เป็นอั้งยี่” โดยเป็นหัวหน้าผู้จัดการ หรือผู้มีมีตำแหน่งหน้าที่ในสมาชิกคณะบุคคลนั้นและร่วมกันประกอบการขนส่งโดยไม่ได้รับอนุญาต พร้อมด้วยพวกอีก 5 คน ในข้อหาเดียวกัน ซึ่งอยู่ในกลุ่มบริษัทพิโซน่า จำกัด พร้อมด้วยทีมทนายความ ได้เดินทางเข้ามอบตัวต่อทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่สถานีตำรวจภูธรเมืองภูเก็ต ซึ่งการเดินทางมาในครั้งนี้มีทหารจากทัพเรือภาคที่ 3 ร่วมเดินทางมาพร้อมกับ นายเปี่ยน และผู้ต้องหาอื่น ๆด้วย โดยมี พล.ต.ต.ปวีณ พงศ์สิรินทร์ ผู้บังคับการอำนวยการตำรวจภูธรภาค 8 พร้อมด้วย พ.ต.อ. สมาน ชันณรงค์ รองผู้บังคับการอำนวยการตำรวจภูธรภาค 8 และพนักงานสอบสวนเป็นผู้รับมอบตัว ซึ่งในการเดินทางมาครั้งนี้ มีนายทหารจากทัพเรือภาคที่ 3 นำโดย น.อ.นันทพล มาลารัตน์ รองเสนาธิการทัพเรือภาค ที่ 3 และทหารบก นำโดย พ.อ.สมชาย โปณะทอง ผบ.รส.ภูเก็ต ผู้แทนผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 41 รวมสังเกตการณ์ด้วย เนื่องจากก่อนที่ผู้ต้องหาทั้งหมดจะเดินทางมามอบตัวต่อทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้เดินทางไปรายงานตัวต่อทางทัพเรือภาคที่ 3 แล้ว

อย่างไรก็ตาม เมื่อนายเปี่ยน กี่สิ้น และผู้ต้องหาทั้งหมด เดินทางมาถึงสถานีตำรวจภูธรเมืองภูเก็ต โดยรถตู้สีขาว ก็ได้มีชาวบ้านจากพื้นที่ป่าตอง ซึ่งเดินทางมารวมตัวกันตั้งแต่เวลา 09.00 น. หลังจากทราบว่า นายเปี่ยน และคณะจะมอบตัวสู้คดีในวันนี้ (1 ก.ย.) เมื่อนายเปี่ยน มาถึงชาวบ้านต่างก็ตะโกนว่า “สู้ๆ” พร้อมกับเข้าไปมอบดอกไม้เพื่อเป็นกำลังใจให้แก่ นายเปี่ยน นายปัทวี รวมทั้งผู้ต้องอื่นๆ หลังจากนั้น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองภูเก็ต ได้นำตัวผู้ต้องหาทั้งหมดขึ้นไปยังห้องประชุมชั้น 4 ซึ่งเป็นห้องสอบสวน โดยภายในห้องดังกล่าวมีเอกสารต่างๆ จำนวนมาก รวมทั้งเงินสด ตู้เซฟ รถยนต์ ซึ่งตรวจยึดมาจากบ้านพักของนายเปี่ยน บริษัทพิโซน่า โรงแรมป่าตองเบย์ รีโซเทล โรงแรมป่าตองเบย์ การ์เด้น บ้านเลขที่ 7 ซอยบางลา ชื่อฮอลิวู๊ดผับ ซึ่งทั้งหมดถูกเก็บไว้เป็นอย่างดี เพื่อรอเปิดต่อหน้าผู้ต้องหา

สำหรับผู้ต้องหาที่มามอบตัวในครั้งนี้มีทั้งหมด 7 คน ประกอบด้วย 1.นายเปี่ยน กี่สิ้น อดีตนายกเทศมนตรีเมืองป่าตอง 2.นายปัทวี กี่สิ้น 3.นายชานนท์ ฟองละแอ 4.นายเศรษฐศักดิ์ บัวซ้อน 5.นายชุมพล แซ่ตัน 6.นายนฐภูมิ ทองขาว และ 7.น.ส.ยอดลักษณ์ เกื้อหนุน ในเบื้องต้นได้มีการแกะซองใส่เอกสารบางอย่างที่ตรวจยึดมาจากบ้านนายเปี่ยน กี่สิ้น และเงินสด จำนวน 300,000 กว่าบาท ต่อหน้าผู้ต้องหา และสื่อมวลชน เพื่อให้ชี้แจงถึงที่มาที่ไปของเอกสาร และเงินสดว่ามีความเป็นมาอย่างไร

หลังจากนั้น ทาง พล.ต.ต.ปวีณ พงส์สิรินทร์ ผู้บังคับการอำนวยการตำรวจภูธรภาค 8 ได้แจ้งต่อผู้ต้องหา และสื่อมวลชน ว่า ในการเข้ามอบตัวครั้งนี้ ทางพนักงานสอบสวนไม่ได้รับการประสานมาล่วงหน้าทำให้การต้อนรับ และสอบปากคำมีปัญหาติดขัดบ้าง และอาจจะสอบปากคำล่าช้า ซึ่งในเบื้องต้นจะต้องนำตัวผู้ต้องหาเข้าห้องขังก่อนเพราะเป็นช่วงพักกลางวัน ซึ่งทางตำรวจจะจัดหาอาหารให้ผู้ต้องขังรับประทาน และจะนำตัวมาสอบปากคำทีละคนจนเสร็จสิ้น ส่วนประกันตัวในส่วนของผู้ต้องมีสิทธิที่ยืนขอประกันตัวตามกฎหมาย แต่ก็ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของพนักงานสอบสวนว่าจะให้ประกันตัวได้หรือไม่ เพราะต้องสอบปากคำให้เสร็จก่อน

พล.ต.ต.ปวีณ กล่าวต่อไปว่า จากการตรวจสอบเอกสารบางอย่าง พบว่า มีมีเอกสารหลายอย่างที่ทางผู้ต้องหาจะต้องชี้แจง เช่น เอกสารเกี่ยวกับการเรียกเก็บเงินจากกลุ่มอาชีพต่างๆ เช่น แผงริมฟุตปาธหน้าพาราไดส์ 40 แผง เทศกิจ เทศบาลเรียกเก็บเป็นรายเดือน รถสามล้อพวงในซอยบางลา เรียกเก็บคันละ 3,000-4,000 บาทต่อเดือน ตะกร้าบุหรี่-ตะกร้าของเล่น เดินขายในซอยบางลา เรียกเก็บรายละ 500-1,000 บาท และอื่นๆ อีกหลายรายการ นอกจากนั้น ยังมีรถยนต์ที่มีการสวมป้ายทะเบียนอีก 1 คัน ซึ่งเอกสารทุกชิ้นทางผู้ต้องหาจะต้องตอบคำถามต่อทางพนักงานสอบสวนต่อไป

อย่างไรก็ตาม ในการเข้ามอบตัวในครั้งนี้ นายเปี่ยน เดินทางเข้ามามอบตัวด้วยสีหน้าปกติ ไม่ได้วิตกกังวล แต่ยังไม่ให้สัมภาษณ์ต่อผู้สื่อข่าวแต่อย่างใด ขณะที่ในส่วนของนายปรีชาวุฒิ หรือนายปราบ กี่สิ้น ซึ่งเป็นลูกชายของนายเปี่ยน อีกคน ได้เข้ามอบตัวต่อทางเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้วเช่นกัน โดยเข้ามอบตัวต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ สน.บึงกุม กรุงเทพฯ เมื่อเวลา 10.30 น. วันนี้ (1 ก.ย.)



 
 

กำลังโหลดความคิดเห็น