ศูนย์ข่าวภูเก็ต - ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 พร้อมเลขาธิการ ปปง.สนธิกำลังตำรวจ ทหาร กว่า 500 นาย ลุยตรวจค้น และจับกุมมาเฟียแท็กซี่ป้ายดำหาดป่าตอง จ.ภูเก็ต 80 หมาย ทั้งอดีตนักการเมือง และลูกชาย หลังลงพื้นที่เก็บข้อมูลมานานกว่า 3 เดือน
เมื่อเวลา 06.30 น. วันนี้ (28 ส.ค.) พล.ต.ท.ปัญญา มาเม่น ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 พร้อมด้วย พ.ต.อ.สีหนาท ประยูรรัตน์ เลขาธิการสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) นายสิทธิชัย เตี๋ยอำนวยชัย ผอ.สำนักตรวจสอบภาษีกลาง กรมสรรพากร พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจจากส่วนกลาง ตำรวจภูธรภาค 8 ตำรวจภูเก็ตทุกหน่วย เจ้าหน้าที่ทหารเรือภาค 3 ทหารบก ภาค 4 กว่า 500 นาย สนธิกำลังลงพื้นที่ ต.ป่าตอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต โดยเจ้าหน้าที่ได้แบ่งกำลังออกเป็นหลายชุด เข้าจับกุม ตรวจค้นกลุ่มเป้าหมายทั้งหมด 4 กลุ่ม จำนวน 80 หมายจับ ตามโครงการดำเนินการกวาดล้างกลุ่มแท็กซี่ป้ายดำที่ทำตัวเป็นผู้มีอิทธิพล และผู้ที่อยู่เบื้องหลังทั้งหมด โดยได้เข้าตรวจค้นทั้งหมด 80 จุด
โดยหมายจับดังกล่าว มีทั้งอดีตนักการเมืองท้องถิ่นป่าตอง ลูกชายนักการเมืองท้องถิ่น และผู้ที่เกี่ยวข้องกับปัญหารถแท็กซี่ป้ายดำทำตัวเป็นมาเฟียในพื้นที่ป่าตองทั้งหมด
พล.ต.ท.ปัญญา มาเม่น ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 เปิดเผยว่า การลงพื้นครั้งนี้เพื่อต้องการกวาดล้างผู้กระทำความผิด และผู้มีอิทธิพลทั้งหมด โดยแบ่งออกเป็น 4 กลุ่ม คือ กลุ่มแท็กซี่ที่ปิดถนนป่าตอง กลุ่มยึดพื้นที่หน้าโรงแรมต่างๆ เพื่อให้นักท่องเที่ยวใช้บริการรถแท็กซี่ตัวเอง กลุ่มบริหารจัดตั้งคิวแท็กซี่ป้ายดำ ใครที่ต้องการเข้ามาอยู่ในกลุ่ม หรือในคิวจะต้องเสียเงินเข้ากลุ่ม และกลุ่มมาเฟีย ซึ่งในการออกหมายจับทั้ง 80 หมายจับในครั้งนี้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สืบสวนรวบรวมข้อมูลมานานกว่า 3 เดือน ซึ่งเป้าที่เข้าดำเนินการตรวจสอบจับกุมในครั้งนี้ มีทั้งอดีตนักการเมืองท้องถิ่น และผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ซึ่งขณะนี้เชื่อว่าหลายคนได้หลบหนีออกจากพื้นที่จังหวัดภูเก็ตไปแล้ว
ด้าน พ.ต.อ.สีหนาท ประยูรรัตน์ เลขาธิการสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.)กล่าวว่า การลงพื้นที่ครั้งนี้เพื่อตรวจสอบในเรื่องของทรัพย์สินตามที่ได้มีการออกหมายจับของบุคคลทั้ง 80 หมายจับในพื้นที่ป่าตอง จ.ภูเก็ต โดยจะมีการตรวจสอบในเรื่องของเอกสารหลักฐาน การได้มาของทรัพย์สินที่เข้าข่ายว่าจะได้มาจากการเป็นจัดตั้งคิวแท็กซี่ป้ายดำ
ในส่วนของ ปปง.ที่ผ่านมา ได้มีการดำเนินการตรวจสอบทรัพย์สินอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะพื้นที่กะรน ที่ได้มีการยึดทรัพย์ของผู้ที่กระทำความผิดไปแล้วประมาณ 3 ราย ซึ่งเป็นเครือข่ายของกลุ่มแท็กซี่ป้ายดำ ขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการดำเนินการตรวจสอบเส้นทางการเงิน เพื่อขยายผลไปยังบุคคลที่เชื่อมโยง และมีความสัมพันธ์ ซึ่งทรัพย์สินที่ยึดได้ และเกี่ยวโยงกับกลุ่มแท็กซี่ป้ายดำนั้น ในส่วนของเงินมีจำนวนไม่มากนัก แต่คนที่เข้ามาเกี่ยวข้องมีจำนวนหลายคน เพราะการดำเนินการคิวแท็กซี่ป่ายดำนั้นทำกันเป็นเครือข่าย ซึ่งจะต้องดำเนินการตรวจสอบให้ถึงทุกคน และเงินที่ตรวจยึดได้อยู่ที่รายละ 200,000-300,000 บาทเท่านั้น เพราะบางครั้งไม่ได้มีการโอนเงินผ่านระบบบัญชี
ขณะที่ นายสิทธิชัย เตี๋ยอำนวยชัย ผอ.สำนักตรวจสอบภาษีกลาง กรมสรรพากร กล่าวว่า การลงพื้นที่ภูเก็ตในครั้งนี้ เพื่อมาตรวจสอบบุคคลตามที่ตำรวจได้ออกหมายจับทั้ง 80 หมายจับ ส่วนจะเกี่ยวข้องกับเรื่องของภาษีหรือไม่นั้นจะต้องตรวจในเชิงลึกต่อไป
