ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - สถานี Thai pbs ถ่ายทอดสดสัมภาษณ์ตัวแทนขาหุ้นปฏิรูปพลังงาน โดยมี “ม.ล.กรกสิวัฒน์” เข้าร่วม ด้านเครือข่ายยืนยันเดินหน้าเดินณรงค์ปฏิรูปพลังงานให้ความรู้ประชาชนต่อแม้ทหารขวาง พร้อมจี้ คสช.ปล่อย 11 แกนนำโดยไม่มีเงื่อนไข ย้ำชัดผิด รธน.ชั่วครวม ม.4 ชัดเจน หวั่นเปิดสัมปทานพลังงานรอบ 21 เข้าทางกลุ่มทุนทำประเทศเสียผลประโยชน์
จากกรณีที่ 11 แกนนำเครือข่ายขาหุ้นปฏิรูปพลังงาน ถูกทหารจาก มทบ. 42 อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เข้าทำการจับกุมตัวขณะทำการเดินขบวนจากพื้นที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา มุ่งหน้าสู่กรุงเทพฯ ในกิจกรรม “เดินวันละโยชน์ เพื่อประโยชน์คนทั้งชาติ” เมื่อวันที่ 20 ส.ค. นั้น เนื่องจากถูกกล่าวอ้างว่าเป็นการชุมนุมทางการเมืองเกินกว่า 5 คน เป็นการกระทำที่ฝ่าฝืนกฎอัยการศึก
ล่าสุด วันนี้ (23 ส.ค.) เมื่อเวลาประมาณ 13.30 น. สถานีโทรทัศน์ Thai PBS ได้สัมภาษณ์สดกลุ่มแกนนำเครือข่ายขาหุ้นที่ยังมิได้โดนทหารจับกุมตัว โดยถ่ายทอดสดจากวัดพิกุลทอง อ.ควนขนุน จ.พัทลุง ซึ่งมีผู้เข้าร่วมคือ นายเอกชัย อิสระทะ ตัวแทนเครือข่ายขาหุ้นปฏิรูปพลังงาน จ.สงขลา นายสมบูรณ์ คำแหง ตัวแทนเครือข่ายจังหวัดสตูล เป็นต้น อีกทั้งยังมี ม.ล.กรกสิวัฒน์ เกษมศรี ตัวแทนปฏิรูปพลังงานจากภาคประชาชนเข้าร่วมการสัมภาษณ์ในครั้งนี้
สำหรับประเด็นการพูดคุย ทางกลุ่มเครือข่ายขาหุ้นปฏิรูปพลังงาน ยืนยันว่า ยังมีกิจกรรมเดินรณรงค์เรียกร้องให้มีการปฏิรูปพลังงานต่อไป ถึงแม้ว่าจะอยู่ในสถานการณ์ประกาศกฎอัยการศึก แต่อย่างไรก็ตาม จะต้องปรับรูปแบบการเคลื่อนไหวให้มีความเหมาะสมต่อสถานการณ์ ซึ่งวัตถุประสงค์ของการเคลื่อนไหวดังกล่าว ทางกลุ่มต้องการให้ภาคประชาชนเกิดการเรียนรู้ในเรื่องพลังงาน อันนำไปสู่การปฏิรูปด้านพลังงานในประเทศไทยอย่างแท้จริง
อีกทั้งทางเครือข่ายขาหุ้นยังเรียกร้องให้ทางคณะ คสช. ปล่อยตัวแกนนำเครือข่ายทั้ง 11 คน ที่ถูกควบคุมตัวอยู่ในขณะนี้โดยไม่มีเงื่อนไข เนื่องจากการจับกุมทั้ง 11 แกนนำดังกล่าวเป็นการกระทำที่ไม่สอดคล้องต่อกระแสการปฏิรูปประเทศในขณะนี้ อีกทั้งการควบคุมตัวแกนนำเครือข่ายทั้ง 11 คน เป็นการกระทำที่ขัดต่อบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว พ.ศ.2557 มาตรา 4 ซึ่งบัญญัติรองรับสิทธิของประชาชนในการเคลื่อนไหวไว้อย่างชัดเจน
โดยตัวแทนเครือข่ายขาหุ้นยังได้กล่าวเสริมอีกว่า ในขณะนี้สิ่งที่น่าเป็นกังวลมากที่สุดสำหรับการปฏิรูปพลังงานในประเทศไทยมีอยู่ 2 ประเด็นคือ ประเด็นที่ 1 ในขณะนี้กำลังมีความพยายามเปิดสัมปทานรอบที่ 21 ซึ่งอาจมีความไม่ชอบมาพากล นำมาซึ่งการยกผลประโยชน์ให้กลุ่มทุนจากต่างชาติจนอาจทำให้ประเทศชาติเสียผลประโยชน์ด้านพลังงาน และประเด็นที่ 2 โครงการก่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินในหลายพื้นที่ชายฝั่งทะเลภาคใต้ อันอาจนำมาซึ่งผลกระทบอย่างมหาศาลต่อระบบนิเวศ และแหล่งผลิตอาหารทางทะเล จึงเป็นสิ่งที่ภาคประชาชนจะต้องติดตามความเคลื่อนไหวอย่างใกล้ชิด
