ศูนย์ข่าวภูเก็ต - ทีมศัลยแพทย์ โรงพยาบาลตำรวจ ประสบความสำเร็จในการผ่าตัดไทรอยด์แบบส่องกล้องทางช่องปาก ไร้แผลเป็นที่ผิวหนังโดยสิ้นเชิง เป็นรายแรก และรายเดียวในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และเป็นรายที่ 4 ของโลก นับเป็นความสำเร็จครั้งสำคัญของวงการศัลยแพทย์ไทย และสร้างมาตรฐานใหม่ของการผ่าตัดต่อมไทรอยด์ในอนาคต
นายแพทย์อังกูร อนุวงศ์ ศัลยแพทย์หน่วยผ่าตัดผ่านกล้อง กลุ่มงานศัลยกรรม โรงพยาบาลตำรวจ เปิดเผยว่า ทางโรงพยาบาลตำรวจ มีความภาคภูมิใจเป็นอย่างยิ่งในความสำเร็จของการผ่าตัดไทรอยด์ผ่านกล้องทางช่องปาก ซึ่งเป็นการสร้างมิติใหม่ทางการแพทย์ของไทย โดยวิธีการนี้จะช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของคนไข้ซึ่งมีขั้นตอนที่ไม่ยุ่งยาก ใช้เวลาไม่นาน และสร้างความมั่นใจให้แก่คนไข้เพิ่มขึ้นกว่าร้อยเปอร์เซ็นต์ การผ่าตัดต่อมไทรอยด์ทางช่องปาก แพทย์จะเจาะรูเล็กๆ ขนาด 1 ซม.ที่บริเวณรอยต่อระหว่างริมฝีปากล่างกับเหงือกของฟันล่าง และด้านข้าง ขนาด 0.5 ซม. อีก 2 รู จากนั้นจะเลาะไปใต้ผิวหนังลงไปถึงคอบริเวณต่อมไทรอยด์ โดยใช้อุปกรณ์ที่คิดค้นขึ้นมาเป็นพิเศษผ่าตัดโดยใช้กล้อง และเครื่องมือตัดต่อมไทรอยด์ออก จากนั้นจึงเย็บแผลด้วยไหมละลาย โดยคนไข้จะสามารถกลับห้องพักฟื้นได้เลย และสามารถจะรับประทานอาหารอ่อนได้ในวันที่ 2 หลังการผ่าตัด
“การผ่าตัดแบบนี้จะไม่มีแผลเป็น (scar) เกิดขึ้นที่ผิวหนังเลย 100% เนื่องจากช่องปากมีเส้นเลือดมาเลี้ยงค่อนข้างมาก ทำให้แผลที่เกิดขึ้นหายไวมาก และไม่เกิดแผลเป็น หรือพังผืดใดๆเลย ทั้งนี้ ระยะทางระหว่างช่องปากและไทรอยด์ ถือว่าสั้นที่สุดเมื่อเทียบกับการผ่าตัดผ่านกล้องวิธีอื่นๆ ทำให้ศัลยแพทย์ผ่าตัดได้ง่ายมากขึ้น และเราสามารถผ่าตัดต่อมไทรอยด์ได้ทั้ง 2 ข้าง โดยที่ไม่ต้องลงแผลเพิ่มอีก คนไข้เจ็บน้อยมาก และเสียเลือดน้อยมาก (ไม่เกิน 10 ซีซี-20 ซีซี)จากการผ่าตัดของ รพ ตำรวจ พบว่า หลังผ่าตัดวันที่ 2-3 คนไข้ไม่รู้สึกเจ็บใดๆ เหมือนไม่เคยผ่าตัดมาก่อน โดยแพทย์จะรอดูอาการประมาณ 3-4 วัน หากไม่มีปัญหาก็จะให้กลับบ้านได้หลังผ่าตัด คนไข้ก็ไม่ต้องทำแผลใดๆ แผลที่เย็บไว้ในปากไหมจะละลายไปเองภายใน 30 วัน ในช่วงนี้คนไข้สามารถใช้ชีวิต และรับประทานอาหารได้ตามปกติสิ้นเชิง ซึ่งถือว่าโรงพยาบาลตำรวจเป็นโรงพยาบาลรายแรก และรายเดียวในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่สามารถทำได้ และเป็นรายที่ 4 ของโลก” นพ.อังกูรเผย
นพ.อังกูร ยังกล่าวเพิ่มเติมว่า นอกเหนือจากการผ่าตัดต่อมไทรอยด์ทางช่องปากหน่วยผ่าตัดผ่านกล้องศัลยกรรม กลุ่มงานศัลยกรรม รพ.ตำรวจ ยังสามารถทำการผ่าตัดผ่านกล้องในโรคที่ซับซ้อนอื่นๆ ได้ทุกโรค เช่น การผ่าตัดโรคอ้วนเพื่อลดน้ำหนักผ่านกล้องผ่าตัดไส้เลื่อนผ่านกล้องผ่าตัดมะเร็งตับ หรือตับอ่อน และถุงน้ำดีผ่านกล้องผ่าตัดมะเร็งลำไส้ผ่านกล้องผ่าตัดเพื่อลดภาวะเหงื่อออกมากผ่านกล้องผ่าตัดก้อนที่เต้านมผ่านกล้องผ่าตัดไตผ่านกล้อง
ล่าสุด กลุ่มงานศัลยกรรม รพ.ตำรวจ ยังได้ดำเนินการจัดตั้งศูนย์ความเป็นเลิศด้านการผ่าตัดผ่านกล้องศัลยกรรม (Minimally Invasive Surgery Excellent Center) เพื่อทำการตรวจรักษาวิจัย และผ่าตัด โดยใช้การผ่าตัดผ่านกล้องขั้นสูงให้แก่ประชาชนทั่วไป และเพื่อเป็นศูนย์กลางทางด้านวิชาการ และการผ่าตัดผ่านกล้องชั้นนำของประเทศ และนานาชาติอีกด้วย โดยผู้ป่วยสามารถติดต่อขอรับการตรวจได้ที่ห้องตรวจโรคศัลยกรรม ตึกอำนวยการชั้น 3 โรงพยาบาลตำรวจ โทร.0-2207-6000 เว็บไซต์http://www1.pgh.go.th/home.php?
นายแพทย์อังกูร อนุวงศ์ ศัลยแพทย์หน่วยผ่าตัดผ่านกล้อง กลุ่มงานศัลยกรรม โรงพยาบาลตำรวจ เปิดเผยว่า ทางโรงพยาบาลตำรวจ มีความภาคภูมิใจเป็นอย่างยิ่งในความสำเร็จของการผ่าตัดไทรอยด์ผ่านกล้องทางช่องปาก ซึ่งเป็นการสร้างมิติใหม่ทางการแพทย์ของไทย โดยวิธีการนี้จะช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของคนไข้ซึ่งมีขั้นตอนที่ไม่ยุ่งยาก ใช้เวลาไม่นาน และสร้างความมั่นใจให้แก่คนไข้เพิ่มขึ้นกว่าร้อยเปอร์เซ็นต์ การผ่าตัดต่อมไทรอยด์ทางช่องปาก แพทย์จะเจาะรูเล็กๆ ขนาด 1 ซม.ที่บริเวณรอยต่อระหว่างริมฝีปากล่างกับเหงือกของฟันล่าง และด้านข้าง ขนาด 0.5 ซม. อีก 2 รู จากนั้นจะเลาะไปใต้ผิวหนังลงไปถึงคอบริเวณต่อมไทรอยด์ โดยใช้อุปกรณ์ที่คิดค้นขึ้นมาเป็นพิเศษผ่าตัดโดยใช้กล้อง และเครื่องมือตัดต่อมไทรอยด์ออก จากนั้นจึงเย็บแผลด้วยไหมละลาย โดยคนไข้จะสามารถกลับห้องพักฟื้นได้เลย และสามารถจะรับประทานอาหารอ่อนได้ในวันที่ 2 หลังการผ่าตัด
“การผ่าตัดแบบนี้จะไม่มีแผลเป็น (scar) เกิดขึ้นที่ผิวหนังเลย 100% เนื่องจากช่องปากมีเส้นเลือดมาเลี้ยงค่อนข้างมาก ทำให้แผลที่เกิดขึ้นหายไวมาก และไม่เกิดแผลเป็น หรือพังผืดใดๆเลย ทั้งนี้ ระยะทางระหว่างช่องปากและไทรอยด์ ถือว่าสั้นที่สุดเมื่อเทียบกับการผ่าตัดผ่านกล้องวิธีอื่นๆ ทำให้ศัลยแพทย์ผ่าตัดได้ง่ายมากขึ้น และเราสามารถผ่าตัดต่อมไทรอยด์ได้ทั้ง 2 ข้าง โดยที่ไม่ต้องลงแผลเพิ่มอีก คนไข้เจ็บน้อยมาก และเสียเลือดน้อยมาก (ไม่เกิน 10 ซีซี-20 ซีซี)จากการผ่าตัดของ รพ ตำรวจ พบว่า หลังผ่าตัดวันที่ 2-3 คนไข้ไม่รู้สึกเจ็บใดๆ เหมือนไม่เคยผ่าตัดมาก่อน โดยแพทย์จะรอดูอาการประมาณ 3-4 วัน หากไม่มีปัญหาก็จะให้กลับบ้านได้หลังผ่าตัด คนไข้ก็ไม่ต้องทำแผลใดๆ แผลที่เย็บไว้ในปากไหมจะละลายไปเองภายใน 30 วัน ในช่วงนี้คนไข้สามารถใช้ชีวิต และรับประทานอาหารได้ตามปกติสิ้นเชิง ซึ่งถือว่าโรงพยาบาลตำรวจเป็นโรงพยาบาลรายแรก และรายเดียวในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่สามารถทำได้ และเป็นรายที่ 4 ของโลก” นพ.อังกูรเผย
นพ.อังกูร ยังกล่าวเพิ่มเติมว่า นอกเหนือจากการผ่าตัดต่อมไทรอยด์ทางช่องปากหน่วยผ่าตัดผ่านกล้องศัลยกรรม กลุ่มงานศัลยกรรม รพ.ตำรวจ ยังสามารถทำการผ่าตัดผ่านกล้องในโรคที่ซับซ้อนอื่นๆ ได้ทุกโรค เช่น การผ่าตัดโรคอ้วนเพื่อลดน้ำหนักผ่านกล้องผ่าตัดไส้เลื่อนผ่านกล้องผ่าตัดมะเร็งตับ หรือตับอ่อน และถุงน้ำดีผ่านกล้องผ่าตัดมะเร็งลำไส้ผ่านกล้องผ่าตัดเพื่อลดภาวะเหงื่อออกมากผ่านกล้องผ่าตัดก้อนที่เต้านมผ่านกล้องผ่าตัดไตผ่านกล้อง
ล่าสุด กลุ่มงานศัลยกรรม รพ.ตำรวจ ยังได้ดำเนินการจัดตั้งศูนย์ความเป็นเลิศด้านการผ่าตัดผ่านกล้องศัลยกรรม (Minimally Invasive Surgery Excellent Center) เพื่อทำการตรวจรักษาวิจัย และผ่าตัด โดยใช้การผ่าตัดผ่านกล้องขั้นสูงให้แก่ประชาชนทั่วไป และเพื่อเป็นศูนย์กลางทางด้านวิชาการ และการผ่าตัดผ่านกล้องชั้นนำของประเทศ และนานาชาติอีกด้วย โดยผู้ป่วยสามารถติดต่อขอรับการตรวจได้ที่ห้องตรวจโรคศัลยกรรม ตึกอำนวยการชั้น 3 โรงพยาบาลตำรวจ โทร.0-2207-6000 เว็บไซต์http://www1.pgh.go.th/home.php?