xs
xsm
sm
md
lg

เดินไปบอกพวกเขาว่าอย่าทำให้ “โบ๋เราไม่บาย”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


 
คอลัมน์..ใต้แสงหวัน
โดย..ณขจร จันทวงศ์
 
คำว่า “โหม” หรือสำเนียงใต้บางพื้นที่ออกเสียงว่า “โบ๋” ตามพจนานุกรมภาษาถิ่นใต้ รวบรวบโดยสถาบันทักษิณคดีศึกษา จำได้ว่าตรงกับภาษาราชการกับคำว่า “หมู่” เช่น หมู่คน และน่าจะมีความหมายไม่แตกต่างกับคำว่า “ผู้คน”
 
แต่คำว่า “โหม” หรือ “โบ๋” หากอยู่ในบริบทของการแสดงออกทางอัตลักษณ์ ศักดิ์ศรี การเรียกร้องต่อสู้เพื่อความเป็นธรรม คำว่า “โหม” มักจะใช้ให้มีความหมายเพื่อสื่อสารถึงความเป็น “กลุ่มก้อนเดียวกัน” คือ “โหมเรา” หรือ “พวกเรา” บุรุษตรงข้ามก็คือ “พวกสู” โหมสู”
 
คำว่า “โหม” คำเดียวโดดๆ นี้ อาจรวบรัดมาจากคำว่า “โหมเรา” ดังที่ว่า หรืออาจจะกร่อนมาจากคำว่า “โหมเราคนใต้” ก็ใช่ว่าจะไม่เคยได้ยินกัน
 
ภาษาใต้โบราณคำนี้กร่อนมาตามยุคสมัย แต่ไม่ว่าจะออกเสียงว่า “โหม” หรือ “โบ๋” ก็มักจะมีความหมายเป็นเอกภาพหมายถึง “โหมเรา” กรณีที่จะต้องทำอะไรร่วมกันอย่างมีพลัง

 
ดังเช่นกลุ่มคนใต้ที่เรียกตัวเองว่า “โบ๋ไม่บาย” กำลังจะออกเดินไปตามยาวถนนเพชรเกษม ถนนสายยาวที่สุดในประเทศไทย โดยจะเดินกันให้ได้ระยะทางประมาณ 1,400 กิโลเมตร จากหน้าหอนาฬิกา แลนด์มาร์กของเทศบาลนครหาดใหญ่ เดินไปวันละโยชน์ (16 กิโลเมตร) เพื่อประโยชน์คนทั้งชาติ


เช้าวันที่ 19 สิงหาคมนี้ ไปเช็กอินเฟชบุ๊กกันที่หอนาฬิกา หาดใหญ่ ใกล้วงเวียนน้ำพุ แล้วออกเดินกัน
 
ก็ไม่มีอะไรมาก (Ha-Ha)

เป้าหมายคือ เดินไปเพื่อยื่นพิมพ์เขียวให้ คสช.นำไปพิจารณาปฏิรูปพลังงาน ตามแนวทางที่ประชาชนในพื้นที่ภาคใต้ต้องการ

เพราะพื้นที่แหล่งพลังงานส่วนใหญ่ในประเทศไทย อยู่ในภาคใต้ ไม่ว่าจะเป็นก๊าซธรรมชาติ หรือปิโตรเลียม

นอกจากนี้ ภาครัฐยังมองว่าภาคใต้มีทำเลที่เหมาะต่อการตั้งท่าเรือน้ำลึกเชื่อมสองฝั่งทะเล เพื่อจะมีโรงงานปิโตรเคมีแบบเดียวกับที่มาบตาพุด จ.ระยอง อยู่บนชายฝั่งทั้งอันดามัน และอ่าวไทย

ภาครัฐยังมองว่าชายฝั่งทะเลภาคใต้ของไทยทั้ง 2 ฝั่งยังเหมาะต่อการตั้งโรงไฟฟ้าถ่านหิน อีกด้วย!
 

  
ขณะเดียวกัน ก็ยอมรับมาตลอดว่าพื้นที่ทั้งหมดที่ภาครัฐจ้องตาเป็นมันนั้น เป็นพื้นที่ผลิตอาหาร พลังงาน เป็นทำเลที่ตั้งของชุมชนอารยธรรมเก่าแก่คู่คาบสมุทรภาคใต้ มาหลายยุคหลายสมัย

บรรพชนคนไทยภาคใต้ และลูกหลานที่สืบเผ่าพันธุ์มา มีแผ่นดินนี้แผ่นดินเดียว เป็นทั้งที่อยู่อาศัย ทำมาหากิน ดำรงเผ่าพันธุ์ ทั้งยังผลิต และอาหารโปรตีนส่งไปขายให้คนไทยทั้งชาติได้กินเพื่อสร้างความแข็งแรง และมีปัญญา

ประสิทธิชัย หนูนวล ผู้ประสานงานเครือข่ายโบ๋ไม่บาย (Ha-Ha) เขาบอกว่า งานใหญ่แบบนี้ โดยศักดิ์ศรีของโบ๋เราคนใต้ ต้องแสดงใจนักเลงให้เห็นด้วยการเดินไปบอกชาวบ้านสองข้างทาง และบอกผู้รับผิดชอบว่า การปฏิรูปในประเด็นเหล่านี้

โบ๋เราคนใต้ขอเป็นขาหุ้น ขอมีส่วนร่วมในการตัดสินอนาคตของภาคใต้ เพื่อบรรเทาอาการ “ไม่บาย” นี้ ให้หายไปเสียที

เพราะ “โบ๋ไม่บาย” ในที่นี้ หมายถึง “ผู้เดือดร้อนจากนโยบายรัฐ” กับปัญหาความไม่เป็นธรรมเดิมๆ ที่เป็นมาช้านานทุกยุค ทุกสมัย

ให้โบ๋เราคนใต้ได้อยู่แบบบายๆ กันเสียที แผ่นดินนี้ยังต้องหวงแหนรักษาไว้ให้แก่ลูกหลาน

ประเด็นนี้ซีเรียสถึงขนาดที่ตัวแทน “โบ๋คนไม่บาย” ต้องเดินเท้าไปบอกเป็นระยะทางกว่า 1,400 กิโลเมตร คิดดูเอาเถิด

เป็นการแสดงออกที่นักเลงที่สุดแล้ว ของโบ๋เราคนใต้ ในเวลาเช่นนี้!

(Ha-Ha)

ผมคิดว่าโบ๋คนไม่บายกลุ่มนั้น น่าจะคิดกันพรรค์นี้ หรือเปล่าครับ?
 
 

 
 

กำลังโหลดความคิดเห็น