พังงา - จังหวัดพังงา เดินหน้าจัดระเบียบชายหาด นายอำเภอตะกั่วป่า ร่วมกับเทศบาลตำบลคึกคักนำกำลัง อส.ร่วมกับเจ้าหน้าที่เทศบาลเข้ารื้อถอนร้านอาหารที่บุกรุกที่สาธารณะ ทำให้เสร็จก่อนวันที่ 15 สิงหาคมนี้
วันนี้ (11 ส.ค.) นายมานิตย์ เพียรทอง นายอำเภอตะกั่วป่า นายสวัสดิ์ ตันเก่ง นายกเทศบาลตำบลคึกคักนำกำลัง อส. และเจ้าหน้าที่เทศบาลกว่า 30 นาย เร่งเข้ารื้นถอนร้านค้า ร้านอาหารที่ปลูกสร้างบุกรุกอยู่ที่ชายหาดบ้านบางเนียง หมู่ที่ 6 ต.คึกคัก อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา เพื่อให้เป็นไปตามระเบียบของ คสช. ที่มีการจัดระเบียบตลอดแนวชายหาด ของอำเภอตะกั่วป่า จ.พังงา เป็นระยะทางยาวกว่า 35 กิโลเมตร ให้แล้วเสร็จก่อนวันที่ 15 สิงหาคมนี้ โดยพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่สาธารณะสงวนหมู่บ้าน มีชาวบ้านในพื้นที่เข้ามาจับจองเปิดร้านอาหารกว่า 10 ร้าน เพื่อบริการนักท่องเที่ยวตามชายหาด เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวอยู่ติดกับโรงแรมระดับ 5 ดาวจำนวนมาก โดยกำลัง อส.และเจ้าหน้าที่เทศบาลตำบลคึกคัก ต่างช่วยกันรื้อหลังคาของร้านอาหารที่มุงด้วยหญ้าคา ใบจาก เสาของร้านอาหารที่ทำด้วยไม้สนนำมากองรวมกันไว้ที่ด้านหลังของร้านอาหาร เพื่อจะได้เผาทำลายต่อไป โดยมีเจ้าของร้านยืนดูด้วยความเสียดาย ส่วนบางรายก็ได้เริ่มมีการรื้อถอนเองไปบางส่วนแล้ว
นางณิรชา บุญญฤทธิ์ อายุ 39 ปี เจ้าของร้านอาหารหน้าชายหาดกล่าวว่า ตนเปิดร้านอาหารที่ตรงนี้มากว่า 10 ปีแล้ว ร้านอาหารของตนก็ทำแบบง่ายๆ สร้างด้วยใบจากสาคู เสาไม้สนพื้นก็เป็นพื้นทราย ไม่ได้มีการทำลายธรรมชาติเลยแม้แต่นิดเดียว ในช่วงไฮซีซันก็พอได้ขายให้แก่นักท่องเที่ยวที่เดินเล่นตามชายหาดพอมีรายได้ไว้เลี้ยงครอบครัว ช่วงโลว์ซีซันก็ต้องปิดร้านเพราะว่ามีลมมรสุม ไม่มีนักท่องเที่ยว ตอนนี้ทางการมาให้ชาวบ้านที่หากินในพื้นที่ต้องย้ายออกไปก่อนวันที่ 15 สิงหาคมนี้ หากไม่ย้ายออกจะถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย ในขณะที่ทางการเองก็ยังไม่มีที่รองรับพวกตนให้ไปประกอบอาชีพ ยังไม่รู้เหมือนกันว่าจะทำมาหากินอะไรดี เพราะพวกตนไม่มีอาชีพเสริม มีอาชีพหลักอาชีพเดียวคือ ทำร้านอาหาร จึงอยากฝากหน่วยงานของทางราชการ รวมทั้ง คสช.ด้วยว่า ให้หาที่รองรับที่ทำกินให้เราด้วย พวกเราทุกคนยินดีให้ความร่วมมือทุกอย่าง
ด้านนายมานิตย์ เพียรทอง นายอำเภอตะกั่วป่า กล่าวว่า ที่อำเภอตะกั่วป่า มีประชาชนที่บุกรุกพื้นที่หน้าหาด มี 2 ตำบล คือ ตำบลบางม่วง กับตำบลคึกคัก จำนวนผู้บุกรุกมีทั้งสิ้น 111 ราย แยกเป็นตำบลคึกคัก 103 ราย ตำบลบางม่วง 8 ราย โดยประชาชนก็ให้ความร่วมมือในการรื้อถอนเป็นอย่างดี หลังจากนี้ ก็จะมีการสำรวจว่าประชาชนในพื้นที่ที่ได้รับความเดือดร้อนจริงๆ ไม่มีอาชีพอย่างอื่นนอกจากอาชีพเปิดร้านอาหารบริการนักท่องเที่ยว นำเสนอต่อทางจังหวัดเพื่อจะพิจารณาจัดสรรที่สาธารณะให้ประชาชนเข้าใช้พื้นที่ซึ่งยังมีอยู่หลายแปลง เพื่อที่จะได้เข้าทำมาหากินในช่วงไฮซีซันที่จะมาถึงนี้ โดยพื้นที่ดังกล่าวทางเทศบาลตำบลคึกคัก มีแผนจะนำพื้นที่ดังกล่าวจัดตั้งเป็นศูนย์ดูแลนักท่องเที่ยว มีท่าเรือตรวจการณ์เพื่อคอยให้การช่วยเหลือ ดูแลด้านความปลอดภัยให้แก่นักท่องเที่ยวซึ่งจะได้มีการนำเสนอต่อต่อทางจังหวัดต่อไป
