ตรัง - พบแรงงานต่างด้าวขาวเขมรถูกลอยแพกว่า 70 คน กลางเกาะมุกต์ จ.ตรัง เผยถูกนำเข้ามาทำงานสร้างรีสอร์ต แต่ภายหลังมีปัญหากับผู้ว่าจ้าง จึงไม้ได้ทำงานตามแผน จากการตรวจสอบทั้งหมดเป็นแรงงานที่เข้ามาโดยถูกต้องตามกฎหมาย ไม่พบพิรุธส่อแววค้ามนุษย์ โดยได้ประสานกับทางจังหวัดเร่งให้ความช่วยเหลือแรงงานทั้งหมดต่อไป
วันนี้ (4 ส.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายในอาคารคอซิมบี้ ห้องประชุมเทศบาลเมืองกันตัง อ.กันตัง จ.ตรัง สถานีตำรวจภูธรกันตัง ร่วมกับ สถานีตำรวจน้ำกันตัง และอำเภอกันตัง นำแรงงานต่างด้าวชาวเขมร จำนวน 76 คน แยกเป็นแรงงานชาย 54 คน หญิง 20 คน และเด็ก 6 คน เข้ามาอาศัยเป็นการชั่วคราว เนื่องจากก่อนหน้านี้ แรงงานต่างด้าวชาวเขมรกลุ่มนี้เดินทางมาเข้ามาทำงานเป็นแรงงานก่อสร้าง ผ่านนายปรานต์ รักใหม่ อายุ 43 ปี อยู่บ้านเลขที่ 92 หมู่ 6 ต.นาเมืองเพชร อ.สิเกา จ.ตรัง ซึ่งมีอาชีพเป็นผู้รับเหมาก่อสร้าง โดยรับเหมาก่อสร้างให้แก่ “กุมวาปีรีสอร์ต” บนเกาะมุกต์ อ.กันตัง จ.ตรัง แต่ภายหลังเกิดปัญหาขึ้น ทำให้แรงงานทั้ง 76 คน ประสบปัญหาไม่มีงานทำ ส่งผลให้ทางจังหวัดต้องนำแรงงานดังกล่าวเข้าพักอาศัยอยู่ภายในอาคารคอมซิมบี้ เป็นการชั่วคราว
ต่อมา พล.ต.ต.จีรวัฒน์ อุดมสุด ผบก.ภ.จว.ตรัง พ.ต.อ.ธนชาติ บุญโพธิ์ รอง ผบก.ภ.จว.ตรัง พ.ต.อ.วิรัช อ่วมอารีย์ ผกก.สภ.กันตัง พ.ต.อ.นิรัตน์ ปานดำ ผกก.สืบสวนสอบสวนตรัง นายปรีชา ถาวรประสิทธิ์ ปลัดอำเภอหัวหน้างานฝ่ายความมั่นคงที่ว่าการอำเภอกันตัง พ.ต.ต.ศยธน กระพิน สว.ตม.จ.สตูล พร้อมตัวแทนจากสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดตรัง สำนักงานแรงงานจังหวัดตรัง ร่วมประชุมเพื่อรับทราบปัญหา และหาทางแก้ไขให้ความช่วยเหลือแรงงานเขมรดังกล่าว
นายปรานต์ กล่าวว่า แรงงานชาวเขมรดังกล่าวตนเป็นผู้ประสานให้เข้ามาทำงานก่อสร้างกุมวาปีรีสอร์ต บนเกาะมุกต์ โดยจัดหาผ่านอรัญประเทศ จ.สระแก้ว แรงงานทุกคนมีพาสปอร์ตถูกต้องตามกฎหมาย หลังจากที่นำแรงงานดังกล่าวเข้าพื้นที่ ปรากฏว่า มีปัญหากับเจ้าของรีสอร์ตไม่เปิดหน้างานให้ทำ ทำให้แรงงานที่นำมาไม่มีงานทำ ซึ่งตนต้องเลี้ยงดูด้วยการให้มีอาการรับประทาน 3 มื้อ กระทั่งมีการแจ้งให้ทางจังหวัดทราบ จึงนำมีการเคลื่อนย้ายแรงงานทั้งหมดมาอยู่มีอาคารคอซิมบี้เป็นการชั่วคราว ตนยอมรับต่อปัญหาที่เกิดขึ้น และพร้อมที่จะให้การช่วยเหลือหางานให้แรงงานที่ประสงค์จะอยู่ต่อไปมีงานทำ
ขณะที่ พล.ต.ต.จีรวัฒน์ อุดมสุด ผบก.ภ.จว.ตรัง กล่าวว่า เรื่องที่เกิดขึ้นโดยทางผู้ประกอบการชื่อ กุมวาปีรีสอร์ต ที่เกาะมุกต์ มีโครงการก่อสร้างรีสอร์ตขึ้นมา และมีการว่าจ้างให้ผู้รับเหมาไปจัดงานแรงงานต่างด้าวซึ่งเป็นสัญชาติกัมพูชามาเป็นแรงงาน โดยแรงงานทั้งหมดที่เข้ามาได้รับอนุญาตจากอำเภอสระแก้ว เข้ามาถูกต้อง จำนวน 105 คน หลังจากที่ได้รับอนุญาตแรงงานก็เดินทางไปยังเกาะมุกต์ ในระหว่างที่อยู่บนเกาะมุกต์ คนงานไม่มีงานทำ เนื่องจากมีปัญหาระหว่างผู้รับเหมากับเจ้าของรีสอร์ตเกี่ยวกับราคา โดยผู้รับจ้างต้องการค่าแรงงาน และค่าของ ขณะที่เจ้าของรีสอร์ต ต้องการให้เป็นเพียงค่าแรงงานอย่างเดียว เป็นเหตุผลที่ไม่สามารถก่อสร้างได้ คนงานที่มาจึงไม่มีงานทำ
พล.ต.ต.จีรวัฒน์ กล่าวอีกว่า ในระหว่างที่รองานนั้นคนงานได้ใช้โทรศัพท์มือถือติดต่อแจ้งผ่านหน่วยราชการ เพื่อขอความช่วยเหลือโดยให้เหตุผลว่า จะขอกลับบ้าน ต่อมา ทางตำรวจน้ำกันตังได้รายงานให้ตนทราบ ตนได้สั่งการให้ทางตำรวจ สภ.กันตัง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าทำการตรวจสอบพบว่า มีแรงงานชาวเขมรอยู่บนเกาะมุกต์ 73 คน รวมทั้งมีเด็กๆ รวมอยู่ด้วย จากนั้นได้ประสาน นายปรานต์ รักใหม่ ผู้รับเหมามาสอบปากคำ เบื้องต้นให้การว่าเป็นผู้นำแรงงานต่างด้าวมา และมีใบอนุญาตถูกต้อง จากนั้นได้ประสานเจ้าหน้าที่แรงงานจังหวัด มาตรวจสอบเอกสารต่างๆ ปรากฏว่าถูกต้อง เนื่องจากผู้ประกอบการได้ขออนุญาตนำแรงงานต่างด้าวเข้ามาใช้งานจริง
อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า แรงงานที่มาทั้งหมดยังไม่ได้มีการนำไปขึ้นทะเบียน อยู่ในระหว่างการผ่อนผัน เบื้องต้นสรุปว่า ยังไม่ตรวจพบว่าเป็นการค้ามนุษย์ แต่น่าจะมีความผิดเกี่ยวกับเรื่องเงื่อนไขต่างๆ เช่น เรื่องการแจ้งงานไม่ตรงกับที่ตกลงกันไว้ อีกทั้งผู้รับเหมาเป็นผู้รับผิดชอบเงินค่าเดินทางการกินอยู่ให้แก่คนงานทั้งหมด ซึ่งมีเจตนาบริสุทธิ์ในการจ้างแรงงาน โดยขณะนี้อยู่ในระหว่างการคัดแยก โดยให้ พม. แรงงาน ตำรวจ สภ.กันตัง ตำรวจน้ำทำการคัดแยก สอบสวนแรงงานทั้งหมดอีกครั้ง ถ้าถูกบังคับขู่เข็ญ ฉ้อโกงแรงาน เข้ากับการค้ามนุษย์ ก็จะดำเนินคดี รวมถึงการตรวจสอบเอกสารสิทธิของ กุมวาปีรีสอร์ต ว่า ได้เอกสารสิทธิมาโดยถูกต้องหรือไม่ หากพบว่ามีการบุกรุกที่สาธารณระจะดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
พล.ต.ต.จีรวัฒน์ กล่าวอีกว่า สำหรับการใช้ความช่วยเหลือแรงงานนั้นได้มีการประสานกับทางจังหวัด เทศบาลเมืองกันตัง ให้ความช่วยเหลือเบื้องต้น ส่วนการขนถ่ายขนย้ายให้แรงงานกลับบ้าน ส่วนหนึ่งผู้ประกอบการจะต้องรับผิดชอบ หากเกินกำลังทางราชการจะจัดหางบประมาณมาให้ และให้อาศัยอยู่ภายในอาคารคอซิมบี้นี้ไปก่อน