ศูนย์ข่าวภูเก็ต - อบจ.ภูเก็ต ร่วมผนึกกำลัง “สร้างเครือข่าย สร้างความตระหนักรู้ ปลุกจิตสำนึกในการเฝ้าระวัง ติดตาม ตรวจสอบสถานการณ์ด้านการก่อการร้าย และอาชญากรรมข้ามชาติ”
วันนี้ (4 ส.ค.) ที่โรงแรมภูเก็ตการ์เด้น จ.ภูเก็ต นายไพบูลย์ อุปัติศฤงค์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานเปิดโครงการสร้างเครือข่าย สร้างความตระหนักรู้ ปลุกจิตสำนึกในการเฝ้าระวัง ติดตาม ตรวจสอบสถานการณ์ด้านการก่อการร้าย และอาชญากรรมข้ามชาติ ประจำปี 2557 โดยมี น.อ.กฤษฎา รัตนสุภา รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดภูเก็ต นายอรุณ สิงห์อินทร์ หัวหน้ากลุ่มงานยุทธศาสตร์ความมั่นคง กอ.รมน.จังหวัดภูเก็ต นายเสรี พาณิชย์กุล ปลัดจังหวัดภูเก็ต พ.ต.อ.พีรยุทธ การะเจดีย์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต ตลอดจนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม
นายอรุณ สิงห์อินทร์ หัวหน้ากลุ่มงานยุทธศาสตร์ความมั่นคง กอ.รมน.จังหวัดภูเก็ต กล่าวถึงวัตถุประสงค์ของการจัดโครงการดังกล่าว ว่า เพื่อให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในการป้องกันการก่อการร้าย และสนับสนุนการปฏิบัติงานให้แก่เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง แก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นในพื้นที่นั้นๆ ได้อย่างถูกต้อง ตรงจุด รวดเร็ว และทันเวลา เพื่อให้ผู้นำชุมชนได้รับความรู้ และประสบการณ์ เกิดทักษะวิธีการสังเกตบุคคล พฤติกรรม ยานพาหนะ สถานที่พัก และกิจกรรมที่ต้องสงสัย เพื่อสนับสนุนการต่อต้านการก่อการร้าย และอาชญากรรมข้ามชาติ ตลอดจนเพื่อเสริมสร้างความรู้ ความเข้าใจ ถึงแนวทางในการป้องกันการก่อการร้าย และการเตรียมความพร้อมรับมือในกรณีเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉินต่างๆ ให้แก่ประชาชนและชุมชน
สำหรับผู้เข้ารับการฝึกอบรมในครั้งนี้ เป็นผู้ที่เคยผ่านการฝึกอบรมโครงการต่างๆ ของ กอ.รมน. จังหวัดภูเก็ต และหน่วยงานอื่นๆ จำนวน 120 คน โดยมีการบรรยายให้ความรู้จากผู้ทรงคุณวุฒิ การพบปะแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร และการสร้างสัมพันธ์ระหว่างหน่วยงาน และผู้เข้ารับการอบรมฯ
นายไพบูลย์ นายก อบจ.ภูเก็ต กล่าวว่า ปัจจุบันปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติมาในหลายรูปแบบ ซึ่งเราต้องใช้เทคโนโลยีที่จะต้องจับผู้ร้ายให้ได้ และที่สำคัญคือ ข่าวสาร เบาะแส และการเฝ้าสังเกต โดยทุกท่านที่เข้ารับการอบรมจะเป็นเครือข่ายที่ช่วยเหลือทางราชการ เพราะจังหวัดภูเก็ตมีงบประมาณจำกัดตามจำนวนประชากร 3 แสนกว่าคน ดังนั้น จึงได้งบประมาณมาเท่าจำนวนประชากร และที่มีปัญหาคือ จากจำนวนนักท่องเที่ยวที่เข้ามาจังหวัดภูเก็ตเพียง 3 ล้านคน ตอนนี้เพิ่มขึ้นเป็น 10 ล้านคนแล้ว ในขณะที่ตำรวจ ฝ่ายปกครอง ข้าราชการ ในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นนั้นมีงบประมาณเพิ่มขึ้นไม่มาก ฉะนั้น หากจะให้ราชการทำเพียงอย่างเดียวนั้นไม่พอ จึงต้องสร้างเครือข่ายแห่งความร่วมมือร่วมใจกัน นั่นจึงเป็นสาเหตุที่ กอ.รมน.จังหวัดภูเก็ต จัดเสริมสร้างความตระหนักรู้เท่าทันสถานการณ์ โดยเครือข่ายทั้งหมดจะต้องช่วยกันดูแล และเฝ้าวังด้านการก่อการร้าย และอาชญากรรมข้ามชาติ
“ในการอบรมครั้งนี้ คาดว่าทุกท่านจะได้รับประโยชน์มากมาย ขอให้ทุกท่านได้นำวิชาการ และความรู้ที่ได้รับไปปฏิบัติและทำให้จังหวัดภูเก็ตเป็นจังหวัดที่มีความปลอดภัยเกี่ยวกับอาชญากรรมข้ามชาติที่เป็นตัวอย่างของประเทศ ซึ่งการจัดอบรมในครั้งนี้ ถือเป็นความร่วมมือระหว่างองค์กรปกครองส่วนภูมิภาค ทางกองทัพภาคที่ 3 ตำรวจ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ที่ร่วมแรงร่วมใจกันเป็นกำลังสำคัญ ทั้งนี้ จึงมั่นใจว่าความพร้อมของทุกท่านจะเป็นแรงพลังสร้างเครือข่ายที่จะเกิดประโยชน์แก่ลูกหลานของเราต่อไป ขอบคุณทุกท่านที่ร่วมมือกันในการอบรมครั้งนี้” นายก อบจ.ภูเก็ต กล่าว
นายไพบูลย์ กล่าวทิ้งท้ายว่า ปัจจุบันสถานการณ์ด้านการก่อการร้าย ยังคงปรากฏให้เห็นความรุนแรงในภูมิภาคต่างๆ ของโลก โดยมีสาเหตุมาจากความขัดแย้งทางการเมืองภายในประเทศ ปัญหาทางด้านศาสนา กลุ่มชาติพันธุ์ ปัญหาทางด้านเศรษฐกิจ และปัญหาชาวมุสลิมโรฮิงญากับชาวพุทธในพม่า ถึงแม้ที่ผ่านมาไม่ปรากฏการก่อเหตุของกลุ่มก่อการร้ายในประเทศไทย แต่ไทยยังมีความเสี่ยงที่จะตกเป็นเป้าหมายการก่อการร้าย รวมทั้งสถานการณ์ความไม่สงบเรียบร้อยใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงและการรักษาความสงบเรียบร้อยภายในประเทศ สำหรับปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติ ยังคงมีแนวโน้มรุนแรงมากขึ้น โดยมีปัจจัยหลักจากสภาวะทางเศรษฐกิจที่ชะลอตัว และปัญหาการว่างงานในปัจจุบัน ส่งผลให้มีการขยายตัวของอาชญากรรมหลากหลายประเภท รวมถึงช่องว่างทางกฎหมายและการบังคับใช้กฎหมายของประเทศที่ยังขาดประสิทธิภาพ ทำให้การก่ออาชญากรรมกระทำได้สะดวก และรวดเร็วยิ่งขึ้น โดยเฉพาะการแสวงหาผลประโยชน์ทางด้านการเงิน การปลอมแปลงบัตรเครดิต หนังสือเดินทาง ซึ่งปัญหาดังกล่าวขยายตัวมากขึ้นในประเทศไทย โดยเฉพาะในพื้นที่เมืองใหญ่และแหล่งท่องเที่ยว
