ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายาฯ ทอดพระเนตรการปฏิบัติงานสายการแพทย์ ของกองทัพภาคที่ 4 เพื่อการทรงงานด้านเวชศาสตร์ครอบครัว ในการช่วยเหลือกำลังพล และครอบครัว รวมถึงประชาชนใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้
วันนี้ (31 ก.ค.) เมื่อเวลา 11.57 น. พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายา ในสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ในฐานะทรงเป็นผู้อำนวยการสำนักเวชศาสตร์ครอบครัว กรมการแพทย์ทหารบก เสด็จไปยังโรงพยาบาลค่ายเสนาณรงค์ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ทอดพระเนตรการปฏิบัติงานสายการแพทย์ ของกองทัพภาคที่ 4 โดยมีหน่วยรับผิดชอบ 6 โรงพยาบาล และหน่วยแพทย์ในส่วนกำลังรบให้บริการทั้งในระดับตติยภูมิ ทุติยภูมิ และปฐมภูมิ นอกจากนี้ ยังมีศูนย์แพทย์ทหารบกจังหวัดชายแดนภาคใต้ ดูแลกำลังพลที่ปฏิบัติหน้าที่ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้
มีภารกิจอนุรักษ์กำลังรบทั้งกลุ่มกำลังพล และครอบครัว เพื่อการส่งเสริม ป้องกัน รักษาและฟื้นฟูสุขภาพบุคคล ครอบครัว และชุมชนที่มีความเชื่อมโยงกัน สอดคล้องกับปณิธานที่จะเสริมสร้างทหารไทยให้เข้มแข็ง และอบอุ่น เป็นการสร้างขวัญกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่เพื่อประเทศชาติ โดยมี นายธำรงค์ เจริญกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา แม่ทัพภาคที่ 4 ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 42 รองเจ้ากรมแพทย์ทหารบก หัวหน้าส่วนราชการ ทหาร เฝ้ารับเสด็จ
การเสด็จในครั้งนี้ จะได้ทรงศึกษา เก็บข้อมูล เพื่อวางแผน และพัฒนาการดำเนินงานด้านเวชศาสตร์ครอบครัวอย่างมีประสิทธิภาพ เบื้องต้นทรงเน้นพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ก่อนเป็นการนำร่อง ก่อนขยายผลสำเร็จไปยังพื้นที่อื่น ซึ่งที่ผ่านมา ได้นำเสนอข้อเสนอแนะ ส่งผลให้เกิดความกระตือรือร้นของการสวมอุปกรณ์ป้องกัน และฝึกปฐมพยาบาลทางยุทธวิธี ทำให้ลดความสูญเสียได้ โอกาสนี้ ทอดพระเนตรการดำเนินงานสายการแพทย์ของกองทัพภาคที่ 4 ในกลุ่มประชาชนในพื้นที่ที่น้อมนำยุทธศาสตร์รองมาประยุกต์ใช้
เพื่อให้ประชาชนมีส่วนร่วมช่วยเหลือภาครัฐในการสร้างสันติสุข รวมถึงทรงเยี่ยมกำลังพลที่ได้รับบาดเจ็บจากการปฏิบัติหน้าที่ และได้รับการรักษาฟื้นฟูจนสามารถกลับมาใช้ชีวิตกับครอบครัว คืนสู่สังคมได้ เช่น พ.ต.มานพ พันธ์สะโม ซึ่งเหยียบระเบิดแสวงเครื่อง จนสูญเสียขาทั้ง 2 ข้าง เมื่อปี 2553 พลทหารธันวา ยอดแก้ว ได้รับบาดเจ็บจากการถูกบุกโจมตีฐานปฏิบัติการเมื่อปี 2554 และทรงเยี่ยม นายรามิล มลรัตน์ ราษฎรที่ได้รับความช่วยเหลือจากการดำเนินงานด้านแพทย์ทหาร เพื่อให้ประชาชนสามารถเข้าถึงบริการทางการแพทย์ ทั้งยังได้รับพระกรุณาธิคุณ จนมีคุณภาพชีวิตที่ดีโดยทรงซักถามถึงสภาพร่างกาย ครอบครัว พร้อมประทานกำลังใจ และมีพระดำริให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าไปช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน