พังงา - จังหวัดพังงา ร่วมกับหอการค้าจังหวัดพังงา สนับสนุนเกษตรกรบ้านนาเก่า ต.ตากแดด ทำโครงการหนึ่งไร่ หนึ่งแสน ชวนทุกภาคส่วนร่วมลงแขกดำนา พร้อมเดินหน้าดำเนินการต่อ หลังทำแล้วประสบความสำเร็จ
วันนี้ (25 ก.ค.) ที่บ้านนาเก่า ม.2 ต.ตากแดด อ.เมืองพังงา นายสุทีป สุธาประดิษฐ์ เกษตรและสหกรณ์จังหวัดพังงา พร้อมด้วย นายสุทธิโชค ทองชุมนุม ประธานหอการค้าจังหวัดพังงา นายประพันธ์ พรหมสมบูรณ์ พัฒนาการจังหวัดพังงา นายบัญชา ธนูอินทร์ ปลัดอำเภอเมืองพังงา เข้าร่วมลงแขกดำนาข้าว ตามกิจกรรมโครงการ “หนึ่งไร่ หนึ่งแสน” ซึ่งจังหวัดพังงา ได้ร่วมกับหอการค้าจังหวัดพังงา จัดทำแปลงสาธิตเพิ่มอีก 4 อำเภอ โดยมีผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้นำชุมชน กลุ่มเกษตรกร และนักเรียน นักศึกษาเข้าร่วม
นายสุทีป สุธาประดิษฐ์ กล่าวว่า หลักคิดในการทำ โครงการหนึ่งไร่หนึ่งแสน นั้น ได้น้อมนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มาประยุกต์ให้เข้ากับพื้นที่ โดยแปลงสาธิตนั้นจะแบ่งพื้นที่ใช้ในกิจกรรมต่างๆ โดยสร้างวัฏจักรภายในแปลงให้เกิดการใช้ประโยชน์ซึ่งกันและกันสูงสุด เพื่อเป็นการประหยัดต้นทุนค่าใช้จ่าย และปลอดจากสารเคมี โดยมีพื้นที่หลักคือ การทำนา รอบนาข้าวจะเป็นพื้นที่น้ำเพื่อเลี้ยงปลา ส่วนคันดินด้านข้างจะเป็นพื้นที่ปลูกผัก และเลี้ยงสัตว์ โดยแปลงนี้มี นายวิจา ส้มจันทร์ ผู้นำอาสาพัฒนาชุมชนดีเด่น ประจำปี 2556 เป็นผู้ดำเนินโครงการ โดยได้รับการสนับสนุนพันธุ์ข้าวจากสำนักงานเกษตรจังหวัดพังงา
นายสุทธิโชค ทองชุมนุม กล่าวเพิ่มเติมว่า หอการค้าไทยได้วางยุทธศาสตร์ในการยกระดับชีวิตเกษตรกรขึ้นภายใต้โครงการทำนา 1 ไร่ได้เงิน 1 แสน โดยที่ผ่านมา ประสบความสำเร็จเป็นอย่างดีในหลายจังหวัด และมีเกษตรกรสนใจเข้าร่วมโครงการเป็นอย่างมาก โดยในปี 2556 หอการค้าจังหวัดพังงา ได้ขับเคลื่อนแปลงสาธิตโครงการ 1 ไร่ 1 แสน ที่บ้านบางใหญ่ ต.บางนายสี อ.ตะกั่วป่า ซึ่งได้ประสบผลสำเร็จเป็นอย่างดี จึงได้นำโครงการนี้บูรณาการร่วมกับจังหวัดพังงา ซึ่งในปี 2557 จังหวัดพังงา ได้อนุมัติงบประมาณสนับสนุนให้ดำเนินการต่ออีก 4 อำเภอ รวม 4 แปลง ประกอบด้วย บ้านตากแดด อ.เมืองพังงา บ้านบ่อแสน อ.ทับปุด บ้านลำภี อ.ท้ายเหมือง และบ้านบางวัน อ.คุระบุรี โดยมีเป้าหมายให้มีแปลงสาธิตโครงการ หนึ่งไร่หนึ่งแสน ให้ครบทุกอำเภอ