ศูนย์ข่าวภูเก็ต - ขนส่งจังหวัดภูเก็ต เข้มมาตรการจัดระเบียบรถรับจ้างสาธารณะ สนองนโยบาย คสช.เตือนหากไม่ทำให้ถูกต้องตามกฏหมาย ดำเนินการจับกุม และดำเนินการฟ้องศาลทันที
วันนี้ (25 ก.ค.) ที่ห้องประชุมศาลากลางจังหวัดภูเก็ต นายธีรยุทธ์ ประเสริฐผล ขนส่งจังหวัดภูเก็ต ร่วมกับ พ.ต.วิจิตร คงนุ่น และ ร.ท.เอกสาร ชีวอนาเขต เจ้าหน้าที่ มทบ.41 แถลงข่าวการจัดระเบียบรถจักรยานยนต์ และรถยนต์รับจ้างสาธารณะ โดยมีสื่อมวลชนในจังหวัดภูเก็ต ร่วมรับฟังการแถลงข่าว
นายธีรยุทธ์ ประเสริฐผล ขนส่งจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า ตามที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้มีนโยบายให้กรมการขนส่งทางบก จัดระเบียบรถจักรยานยนต์สาธารณะทั่วประเทศ โดยจดทะเบียนให้ถูกต้องตามกฎหมาย เพื่อสร้างความเชื่อมั่นในความปลอดภัยแก่ผู้โดยสาร นั้น เพื่อบรรลุตามวัตถุประสงค์ดังกล่าว จึงขอให้เจ้าของรถจักรยานยนต์ที่มีความประสงค์จะจดทะเบียนเป็นรถจักรยานยนต์สาธารณะดำเนินการยื่นขอจดทะเบียนให้ถูกต้องตามกฎหมาย
โดยหลักฐานประกอบการยื่น ประกอบด้วย สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน สำเนาคู่มือจดทะเบียนรถ หรือสำเนาสัญญาเช่าซื้อรถยนต์ หรือเอกสารอื่นที่แสดงสิทธิครอบครองรถ และระบุหมายเลขทะเบียนรถ สำเนาใบอนุญาตขับรถจักรยานยนต์สาธารณะ หรือหนังสือรับรองผ่านการอบรมใบอนุญาตขับรถยนต์สาธารณะ รูปถ่าย 2 นิ้ว 2 รูป ทั้งนี้ หากเป็นเป็นกรรมสิทธิ์ของบุคคลอื่นให้แนบสำเนาบัตรประชาชนของเจ้าของรถด้วย โดยให้เจ้าของรถยื่นคำขอได้ที่ สถานีตำรวจภูธรในพื้นที่ที่เป็นสถานที่รอรับคนโดยสาร (คิว) ตั้งแต่บัดนี้ จนถึงวันที่ 31 กรกฎาคม 2557 ในวันและเวลาราชการ
ในกรณีของการจัดระเบียบรถยนต์รับจ้างสาธารณะนั้น จากข้อเท็จจริงปรากฏว่า ยังมีรถยนต์รับจ้างผิดกฎหมาย (แท็กซี่ป้ายดำ) จำนวนหนึ่งไม่สามารถเข้าร่วมจัดระเบียบได้โดยมีข้อจำกัดบางประการ แต่ยังมีความประสงค์จะประกอบอาชีพให้บริการรถรับจ้างสาธารณะในจังหวัดภูเก็ต ดังนั้น เพื่อเป็นการแก้ไขปัญหา และบรรเทาความเดือดร้อนแก่เจ้าของรถยนต์รับจ้างผิดกฎหมาย (แท็กซี่ป้ายดำ) จึงขอให้ยื่นขอจดทะเบียนเป็นรถยนต์รับจ้าง (TAXI METER) ให้ถูกต้อง โดยต้องอยู่ภายใต้เงื่อนไข รถที่จะนำมาจดทะเบียนต้องมีอายุรถนับจากวันที่จดทะเบียนครั้งแรกไม่เกิน 6 ปี ใช้ได้จนถึงอายุ 9 ปี อีกทั้งต้องมีความจุในกระบอกสูบรวมกันไม่ต่ำกว่า 1500 ซีซีขึ้นไป กรณีอยู่ระหว่างสัญญาเช่าซื้อต้องได้รับความยินยอมให้จดทะเบียนเป็นรถยนต์สาธารณะจากสถาบันการเงินแล้ว
รวมถึงผ่อนผันสีตัวรถโดยให้คาดแถบสติกเกอร์เหลืองแดงบนสีรถเดิมได้เป็นระยะเวลา 1 ปี โดยต้องติดเครื่องหมายศูนย์คุ้มครองผู้โดยสารรถสาธารณะ (1584) บริเวณประตูหลังทั้ง 2 ข้าง โดยหลักฐานที่จะประกอบการจดทะเบียน ประกอบด้วย สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน (ภูมิลำเนาจังหวัดภูเก็ต) สำเนาคู่มือจดทะเบียนรถ หรือสำเนาสัญญาเช่าซื้อรถยนต์ หรือเอกสารอื่นที่แสดงสิทธิการครอบครองรถ และระบุหมายเลขทะเบียนรถ และสำเนาใบอนุญาตขับรถยนต์สาธารณะหรือหนังสือรับรองผ่านการอบรมใบอนุญาตขับรถยนต์สาธารณะ โดยเจ้าของรถต้องนำไปยื่นที่ กลุ่มวิชาการขนส่ง สำนักงานขนส่งจังหวัดภูเก็ต ตั้งแต่วันที่ 1-31 สิงหาคม 2557 ในวันและเวลาราชการ
ทั้งนี้ นายธีรยุทธ์ ได้กล่าวย้ำว่า หากแท็กซี่ป้ายดำไม่ดำเนินการให้ถูกต้องตามกฎหมายต่อจากนี้ไปจะมีการดำเนินการจับแล้วดำเนินการฟ้องศาลทันที โดยมีโทษปรับ 20,000 ถึง 100,000 บาท จำคุก 2 ปี ส่วนที่จะเข้าระบบก็สามารถไปขึ้นทะเบียนเพื่อเป็นแท็กซี่มิเตอร์ต่อไป ส่วนที่ยังให้ป้ายเขียวได้เพราะรถที่ใช้ในธุรกิจท่องเที่ยว หรือขนส่งที่มีใบประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวเท่านั้น