“พีระศักดิ์”เร่งสางปมที่ดินอุทยานฯสิรินาถ เชื่อมี ขรก.รัฐเอี่ยวออกโฉนดไม่ชอบ แลกผลประโยชน์ตอบแทน สั่งตั้ง กก.สอบยิบ พบใครมีส่วนเล่นงานทางวินัย-อาญาเด็ดขาด เผยเริ่มนำระบบ SLA มาใช้งานที่ดิน ลดงานเอกสาร-ร่นเวลาดำเนินการ โดยเฉพาะส่วนงานรังวัด ตั้งเป้าจากเดิมใช้เวลา 45 วันเหลือ 32 วัน ปัดข่าวย้าย ขรก.ไม่เป็นธรรม ยันทำการบ้านมาก่อนรับตำแหน่ง รู้ดีในกรมมีบ่งฝักแบ่งฝ่าย-สร้างอาณาจักร ย้ำต้องรีบสบายขั้วตามนโยบายคสช.
วานนี้ (20 ก.ค.) นายพีระศักดิ์ หินเมืองเก่า อธิบดีกรมที่ดิน เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 17 ก.ค.ที่ผ่านมา ตนได้เชิญผู้บิหารระดับสูงของกรม พร้อมด้วยรองอธิบดีทั้ง 4 คน ร่วมประชุมหารือเพื่อกำหนดแนวทางในการปฏิบัติงานในส่วนแก้ไขปัญหาการรุกอุทยานแห่งชาติสิรินาถ อ.ถลาง จ.ภูเก็ต ซึ่งกรมที่ดินเกี่ยวข้องเรื่องการออกโฉนดที่ดินให้แก่ประชาชนที่นำเอกสารสิทธิ คือ ส.ค. 1 มาเป็นหลักฐานในการออกโฉนด และกรมที่ดิน ไม่สามารถออกเอกสารสิทธิได้โดยลำพัง จะต้องได้รับการรับรองแนวเขตจากผู้ปกครองท้องที่ และที่ดินข้างเคียงกับแปลงที่ขอออกโฉนดที่ดินไม่ว่าจะเป็นประชาชน หรือเอกชนผู้ครอบครอง หรือผู้มีหน้าที่ดูแลรักษาที่ดินของรัฐ
นายพีระศักดิ์ กล่าวว่า การออกโฉนดที่ดินในเขตอุทยานแห่งชาติสิรินาถ มีความเป็นไปได้ที่จะปฏิบัติงาน หรือรับรองแนวเขตจากเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายที่มีเจตนาทุจริต ช่วยเหลือผู้ขอออกเอกสารสิทธิโดยมีผลประโยชน์ตอบแทน จึงแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงการออกเอกสารสิทธิ โดยมอบหมายให้ นายธรรมศักดิ์ ชนะ รองอธิบดีกรมที่ดิน เป็นประธานตรวจสอบความถูกต้องของการออกเอกสารสิทธิ หากพบว่าการออกเอกสารสิทธิแปลงใดเชื่อได้ว่าทุจริต ให้เร่งรัดดำเนินการให้เสร็จสิ้นภายใน 60 วัน เพื่อเพิกถอนสิทธิ และดำเนินการกับเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้อง
"หากพบเจ้าหน้าที่ของกรมที่ดินคนใด ไม่ว่าจะเป็นระดับสูงหรือระดับล่าง เป็นเจ้าหน้าที่ในอดีตหรือปัจจุบัน มีส่วนเกี่ยวข้องกับการออกเอกสารสิทธิ โดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย หรือเอื้อประโยชน์ต่อนายทุน จะดำเนินการทางวินัยและทางอาญาโดยเฉียบขาดต่อไป" อธิบดีกรมที่ดินกล่าว
นายพีระศักดิ์ กล่าวอีกว่า เมื่อวันที่ 18 ก.ค.ที่ผ่านมา กรมที่ดินได้นำระบบการทำข้อตกลงระดับการให้บริการ (Service Level Agreement : SLA) ซึ่งกรมที่ดินเป็น 1 ใน 40 หน่วยราชการ ที่ร่วมลงนามกับคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (ก.พ.ร.) และได้เริ่มนำมาใช้กับงานในกรม ทั้งการรังวัดที่ดิน การแบ่งแยก และการรวมโฉนดที่ดิน ซึ่งที่ผ่านมาถือเป็น 3 ส่วนงานที่ใช้ระยะเวลาในการดำเนินการค่อนข้างมาก แต่เมื่อนำระบบ SLA เข้ามา ก็สามารถทำให้ร่นเวลาในส่วนของงานเอกสารได้มาก จากเดิมจะใช้ระยะเวลา 45 วัน ก็สามารถร่นให้เหลือเพียง 32 วันทำการ โดยเริ่มในส่วนของกรุงเทพมหานครก่อนจะพัฒนาไปยังสำนักงานที่ดินทั่วประเทศต่อไป
นอกจากนี้ ยังมีแนวคิดที่จะใช้เลขบัตรประจำตัวประชาชน มาตรวจสอบกรรมสิทธิ์ที่ดินด้วย เนื่องจากต้องยอมรับว่า บุคคลที่ชื่อนามสกุลซ้ำกันมากพอสมควร
"ขณะนี้กำลังจะปรับปรุงระบบต่างๆ ของกรมที่ดิน โดยนำเลขประจำตัวประชาชน 13 หลักมาระบุในโฉนดที่ดิน เพื่อไม่ให้เกิดความสับสนในขั้นตอนตรวจสอบกรรมสิทธิ์ และยังจะให้มีการปรับปรุงเรื่องของระยะเวลาในการทำงานของส่วนงานต่างๆด้วย โดยเฉพาะงานรังวัดที่ดินที่เกี่ยวข้องกับหลายฝ่าย และมีความละเอียดในการทำงานมาก" นายพีระศักดิ์ ระบุ
ส่วนกระแสข่าวที่มีการปรับย้ายข้าราชการภายในกรมที่ดินอย่างไม่เป็นธรรมนั้น นายพีระศักดิ์ กล่าวว่า ก่อนที่ตนเข้ามารับตำแหน่งอธิบดีกรมที่ดิน ได้ศึกษาและทำการบ้านมาก่อน ทำให้ทราบว่าที่ผ่านมาภายในกรมที่ดินมีหลายกลุ่ม แบ่งฝักแบ่งฝ่าย มีการสร้างเครือข่ายอาณาจักรต่างๆ ชึ่งหากจะทำให้เกิดความปรองดองสมานฉันท์ภายในหน่วยงาน ก็ต้องเร่งสลายขั้วต่างๆ เสียก่อน ซึ่งก็เป็นไปตามนโยบายของ คสช. จึงยืนยันว่า การโยกย้ายข้าราชการเป็นไปด้วยความเหมาะสม และให้ความเป็นธรรมกับผู้ใต้บังคับบัญชาทุกคน
วานนี้ (20 ก.ค.) นายพีระศักดิ์ หินเมืองเก่า อธิบดีกรมที่ดิน เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 17 ก.ค.ที่ผ่านมา ตนได้เชิญผู้บิหารระดับสูงของกรม พร้อมด้วยรองอธิบดีทั้ง 4 คน ร่วมประชุมหารือเพื่อกำหนดแนวทางในการปฏิบัติงานในส่วนแก้ไขปัญหาการรุกอุทยานแห่งชาติสิรินาถ อ.ถลาง จ.ภูเก็ต ซึ่งกรมที่ดินเกี่ยวข้องเรื่องการออกโฉนดที่ดินให้แก่ประชาชนที่นำเอกสารสิทธิ คือ ส.ค. 1 มาเป็นหลักฐานในการออกโฉนด และกรมที่ดิน ไม่สามารถออกเอกสารสิทธิได้โดยลำพัง จะต้องได้รับการรับรองแนวเขตจากผู้ปกครองท้องที่ และที่ดินข้างเคียงกับแปลงที่ขอออกโฉนดที่ดินไม่ว่าจะเป็นประชาชน หรือเอกชนผู้ครอบครอง หรือผู้มีหน้าที่ดูแลรักษาที่ดินของรัฐ
นายพีระศักดิ์ กล่าวว่า การออกโฉนดที่ดินในเขตอุทยานแห่งชาติสิรินาถ มีความเป็นไปได้ที่จะปฏิบัติงาน หรือรับรองแนวเขตจากเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายที่มีเจตนาทุจริต ช่วยเหลือผู้ขอออกเอกสารสิทธิโดยมีผลประโยชน์ตอบแทน จึงแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงการออกเอกสารสิทธิ โดยมอบหมายให้ นายธรรมศักดิ์ ชนะ รองอธิบดีกรมที่ดิน เป็นประธานตรวจสอบความถูกต้องของการออกเอกสารสิทธิ หากพบว่าการออกเอกสารสิทธิแปลงใดเชื่อได้ว่าทุจริต ให้เร่งรัดดำเนินการให้เสร็จสิ้นภายใน 60 วัน เพื่อเพิกถอนสิทธิ และดำเนินการกับเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้อง
"หากพบเจ้าหน้าที่ของกรมที่ดินคนใด ไม่ว่าจะเป็นระดับสูงหรือระดับล่าง เป็นเจ้าหน้าที่ในอดีตหรือปัจจุบัน มีส่วนเกี่ยวข้องกับการออกเอกสารสิทธิ โดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย หรือเอื้อประโยชน์ต่อนายทุน จะดำเนินการทางวินัยและทางอาญาโดยเฉียบขาดต่อไป" อธิบดีกรมที่ดินกล่าว
นายพีระศักดิ์ กล่าวอีกว่า เมื่อวันที่ 18 ก.ค.ที่ผ่านมา กรมที่ดินได้นำระบบการทำข้อตกลงระดับการให้บริการ (Service Level Agreement : SLA) ซึ่งกรมที่ดินเป็น 1 ใน 40 หน่วยราชการ ที่ร่วมลงนามกับคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (ก.พ.ร.) และได้เริ่มนำมาใช้กับงานในกรม ทั้งการรังวัดที่ดิน การแบ่งแยก และการรวมโฉนดที่ดิน ซึ่งที่ผ่านมาถือเป็น 3 ส่วนงานที่ใช้ระยะเวลาในการดำเนินการค่อนข้างมาก แต่เมื่อนำระบบ SLA เข้ามา ก็สามารถทำให้ร่นเวลาในส่วนของงานเอกสารได้มาก จากเดิมจะใช้ระยะเวลา 45 วัน ก็สามารถร่นให้เหลือเพียง 32 วันทำการ โดยเริ่มในส่วนของกรุงเทพมหานครก่อนจะพัฒนาไปยังสำนักงานที่ดินทั่วประเทศต่อไป
นอกจากนี้ ยังมีแนวคิดที่จะใช้เลขบัตรประจำตัวประชาชน มาตรวจสอบกรรมสิทธิ์ที่ดินด้วย เนื่องจากต้องยอมรับว่า บุคคลที่ชื่อนามสกุลซ้ำกันมากพอสมควร
"ขณะนี้กำลังจะปรับปรุงระบบต่างๆ ของกรมที่ดิน โดยนำเลขประจำตัวประชาชน 13 หลักมาระบุในโฉนดที่ดิน เพื่อไม่ให้เกิดความสับสนในขั้นตอนตรวจสอบกรรมสิทธิ์ และยังจะให้มีการปรับปรุงเรื่องของระยะเวลาในการทำงานของส่วนงานต่างๆด้วย โดยเฉพาะงานรังวัดที่ดินที่เกี่ยวข้องกับหลายฝ่าย และมีความละเอียดในการทำงานมาก" นายพีระศักดิ์ ระบุ
ส่วนกระแสข่าวที่มีการปรับย้ายข้าราชการภายในกรมที่ดินอย่างไม่เป็นธรรมนั้น นายพีระศักดิ์ กล่าวว่า ก่อนที่ตนเข้ามารับตำแหน่งอธิบดีกรมที่ดิน ได้ศึกษาและทำการบ้านมาก่อน ทำให้ทราบว่าที่ผ่านมาภายในกรมที่ดินมีหลายกลุ่ม แบ่งฝักแบ่งฝ่าย มีการสร้างเครือข่ายอาณาจักรต่างๆ ชึ่งหากจะทำให้เกิดความปรองดองสมานฉันท์ภายในหน่วยงาน ก็ต้องเร่งสลายขั้วต่างๆ เสียก่อน ซึ่งก็เป็นไปตามนโยบายของ คสช. จึงยืนยันว่า การโยกย้ายข้าราชการเป็นไปด้วยความเหมาะสม และให้ความเป็นธรรมกับผู้ใต้บังคับบัญชาทุกคน
