ชาวพุนพินร้องนายทุนลอบดูดทรายกลางแม่น้ำตาปี ทำตลิ่ง-ปลาในกระชังเสียหาย

สุราษฎร์ธานี - ชาวบ้านในอำเภอพุนพิน จ.สุราษฎร์ธานี ร้องถูกนายทุนอิทธิพลลักลอบดูดทรายในพื้นที่อันตรายกลางแม่น้ำตาปี ส่งผลให้พื้นที่สาธารณะริมตลิ่ง และที่ดินชาวบ้านพังทลายได้รับความเสียหายจำนวนมาก พร้อมทั้งส่งผลกระทบผู้เลี้ยงปลาในกระชัง ชาวบ้านร้องเรียนไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหลายที่แต่เรื่องกับเงียบเฉย

จากกรณีที่ชาวบ้านหมู่ที่ 2 บ้านทับชัน ต.กรูด อ.พุนพิน จ.สุราษฎร์ธานี เข้าร้องเรียนต่อ นายวงศศิริ พรหมชนะ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี โดยระบุว่า มีเรือดูดทรายของบริษัทเอกชนรายหนึ่งในพื้นที่ อ.พุนพิน ได้ลักลอบดูดทรายในพื้นที่ห้ามดูด และเป็นพื้นที่อันตราย ส่งผลกระทบต่อการเลี้ยงปลาในกระชัง ริมตลิ่งทรุด ผลจากการดูดทรายในบริเวณดังกล่าวยังทำให้ที่ดินของชาวบ้านถูกกระแสน้ำแทงหายไปหลายเมตร ชาวบ้านได้พยายามขอร้องให้ผู้ประกอบการยุติ แต่มีผู้นำชุมชนในพื้นที่ได้เข้าไกล่เกลี่ยขอให้ผู้ประกอบการได้ดำเนินการดูดทรายต่อไปพร้อมทั้งพยายามพูดจาข่มขู่ชาวบ้านไม่ให้ชาวบ้านต่อต้าน โดยอ้างว่าได้รับสัมปทานการดำเนินการตลอดทั้งลำน้ำ

ล่าสุด วานนี้ (21 ก.ค.) นายวงศศิริ พรหมชนะ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี พร้อมด้วยนายจำลอง โพธิ์เพชร หัวหน้ากลุ่มงานวิชาการ สำนักงานที่ดิน จ.สุราษฎร์ธานี น.ส.จันทนา บัวหนุน เจ้าพนักงานขนส่งชำนาญงาน สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาค สาขา สุราษฎร์ธานี เข้าไปตรวจสอบพื้นที่ได้รับการร้องเรียน โดยที่ไม่พบเรือกำลังดูดทรายแต่อย่างใด

เจ้าหน้าที่ได้ระบุว่า บริษัท สยามวาวี ได้รับอนุญาตสัมปทานดูดทรายกลางลำแม่น้ำตาปี ในพื้นที่หมู่ที่ 2 บ้านทับชัน จำนวน 1ไร่ เป็นเวลา 1 ปี และยังไม่หมดสัญญา ซึ่งพื้นที่ได้รับอนุญาตไม่กระทบต่อระบบนิเวศแต่อย่างใด แต่การที่ไปดำเนินการดูดทรายในพื้นที่อันตรายและเป็นพื้นที่ห้ามดูดทรายจึงถือว่าเป็นการลักลอบดำเนินการ ทางเจ้าหน้าที่จะได้รวบรวมพยานหลักฐานจากชาวบ้านเพื่อดำเนินการเอาผิดต่อผู้ประกอบการต่อไป พร้อมได้กำชับเจ้าหน้าที่ตรวจตราอย่างเข้มงวด พร้อมขอความร่วมมือกับชาวบ้านช่วยเป็นหูเป็นตาแทน หากพบว่ายังมีการลักลอบดูดทรายนอกเขตอนุญาตอีกให้โทรศัพท์แจ้งมาที่ตนเอง หรือเจ้าหน้าที่จะนำกำลังเข้าจับกุมดำเนินคดีขั้นเด็ดขาดต่อกลุ่มนายทุนที่ฉวยโอกาสลักลอบดูดทรายในพื้นที่สาธารณะต่อไป