พังงา - จังหวัดพังงาเร่งหาแนวทางแก้ไขปัญหาคลื่นขนาดใหญ่กัดเซาะชายฝั่งให้กับผู้ประกอบการโรงแรม ร้านอาหารริมทะเล พร้อมเตรียมดำเนินคดีกับนายทุนที่บุกรุกชายหาดสาธารณะในการสร้างเขื่อนรุกล้ำชายหาด
วันนี้ ( 20 มิ.ย.) นายมานิต เพียรทอง นายอำเภอตะกั่วป่า จ.พังงา กล่าวถึงการแก้ปัญหาน้ำทะเลกัดเซาะชายฝั่ง ว่า ขณะนี้ได้เชิญผู้ประกอบการโรงแรม กรมเจ้าท่า สนง.ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย มาประชุมร่วมกันเพื่อหาแนวทางการแก้ปัญหา โดยประเด็นแรกหลังจากได้รับการร้องเรียนว่ามีผู้ประกอบการบางรายได้สร้างสิ่งปลูกสร้าง เช่น การสร้างเขื่อนรุกล้ำชายหาด เพื่อป้องกันน้ำกัดเซาะตลิ่งเข้าไปในที่สาธารณะ เพื่อให้ทางผู้ประกอบการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ตรวจสอบแนวเขตกัน โดยให้ทางสำนักงานที่ดินได้มาทำการรางวัดตรวจสอบแนวเขต พร้อมทั้งให้ผู้ประกอบการโรงแรมที่ถือเอกสารสิทธิ์ได้นำเอกสารมาตรวจสอบกับพื้นที่จริง หากเป็นที่ดินในกรรมสิทธิ์ก็สามารถดำเนินการได้ แต่ถ้าเกิดว่ามีการก่อสร้างรุกล้ำเข้าไปในที่สาธารณะหรือที่ชายหาด จะมีกฎหมาย พรบ.เดินเรือไทยของทางเจ้าท่าดูแลอยู่ ซึ่งหากมีการรุกล้ำจริงก็ถือว่าผิดกฎหมายก็ต้องดำเนินการให้เป็นไปตามกฎหมายกำหนด และหลังจากดำเนินการทางกฎหมายเรียบร้อยแล้วสามารถนำมายื่นแบบ เพื่อจะได้รับอนุญาตจากเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้อง
สำหรับเรื่องของภัยพิบัติที่เกิดขึ้นในพื้นที่เขาหลัก ซึ่งถือว่าเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญของจังหวัดพังงา ซึ่งทางผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา ได้ประกาศให้พื้นที่ 5 อำเภอ ซึ่งประกอบด้วย อำเภอตะกั่วป่า ตะกั่วทุ่ง ทับปุด ท้ายเหมือง และคุระบุรี เป็นเขตพื้นที่ให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยธรรมชาติ ที่เกิดจากคลื่นขนาดใหญ่พัดถล่ม โดยเฉพาะอำเภอตะกั่วป่า มีพื้นที่ได้รับความเสียหายเป็นระยะทางยาวตั้งแต่ หาดเขาหลัก ไปจนถึงเกาะคอเขา ซึ่งยังไม่สามารถประเมินความเสียหายได้ จึงจำเป็นที่หน่วยงานราชการต้องเร่งแก้ไข และบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน ทั้งในระยะสั้นเป็นการเฉพาะหน้า
ในระยะยาวซึ่งอาจต้องใช้งบประมาณจำนวนมาก เบื้องต้นอาจจะนำยางรถยนต์เก่ามาเป็นแนวลดแรงกระแทกของคลื่นบริเวณชายฝั่ง หรืออาจเป็นถุงบิ๊กแบ็กบรรจุทรายทำเป็นแนวกันคลื่นไปพลางก่อน โดยจะมีการนำเสนองบประมาณจากทางจังหวัดพร้อมทั้งได้เสนอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องหรือผู้เชี่ยวชาญอาจจะเป็นกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งได้ส่งผู้เชี่ยวชาญทางด้านสิ่งแวดล้อมลงมาดูพื้นที่ เพื่อทำโครงการการสร้างเขื่อนป้องกันแรงกระแทกของคลื่น หรืออาจจะดูดทรายจากนอกทะเลมาเติมในพื้นที่ ซึ่งโครงการนี้ก็ต้องให้ผู้เชี่ยวชาญมาดำเนินการตรวจสอบเพื่อแก้ปัญหาในระยะยาวต่อไป