xs
xsm
sm
md
lg

ผบ.ทร.ลงภูเก็ตยืนยันถอนเอกสารสิทธิที่ดินรุกอุทยานได้ทันที 89 แปลง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ศูนย์ข่าวภูเก็ต - ผบ.ทร.ลงพื้นที่ภูเก็ตติดตามความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาการบุกรุกที่อุทยาน รวมทั้งปัญหาแท็กซี่ป้ายดำผิดกฎหมาย พร้อมบินสำรวจรุกพื้นที่อุทยานฯ สิรินาถ เผยสามารถเพิกถอนเอกสารสิทธิได้ทันที 89 แปลง ขณะที่การแก้ปัญหาแท็กซี่ทำผิดกฎหมาย ภูธรภาค 8 หารือแนวทางนำแท็กซี่ป้ายดำกลับมาวิ่งรับส่งผู้โดยสาร เพื่อรองรับการเข้ามาของนักท่องเที่ยวช่วงไฮซีซัน

เมื่อเวลา 15.00 น. วันนี้ (13 ก.ค.) ที่กองการบินทัพเรือ ต.ไม้ขาว อ.ถลาง จ.ภูเก็ต พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒน์ศัย ผู้บัญชาการทหารเรือ หัวหน้าฝ่ายสังคมจิตวิทยา และคณะร่วมขึ้นเฮลิคอปเตอร์ของทัพเรือ เพื่อสำรวจสภาพพื้นที่โดยรวมทั้งหมดที่อยู่ภายใต้ความรับผิดชอบของอุทยานแห่งชาติสิรินาถ ซึ่งมีปัญหาการบุกรุกก่อสร้างโรงแรม รีสอร์ต ฯลฯ กินเนื้อที่หลายพันไร่ ในเขตอุทยานฯ โดยก่อนขึ้นเฮลิคอปเตอร์บินสำรวจการบุกรุกที่อุทยานฯ ทางอากาศ พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒน์ศัย ผู้บัญชาการทหารเรือ หัวหน้าฝ่ายสังคมจิตวิทยา และคณะร่วมประชุมรับฟังบรรยายสรุปความคืบหน้าปฏิบัติการโครงการทวงคืนผืนป่าอุทยานแห่งชาติสิรินาถ จังหวัดภูเก็ต พร้อมรับทราบถึงผลการปฏิบัติการแก้ไขปัญหากลุ่มผู้ประกอบการรถแท็กซี่ทำผิดกฎหมายในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต โดยมี นายสมัคร ดอนนาปี ผู้อำนวยการสำนักอุทยานแห่งชาติ นายกิตติพัฒน์ ธาราภิบาล หัวหน้าอุทยานแห่งชาติสิรินาถจังหวัดภูเก็ต พล.ต.ต.ปวีณ พงศ์สิรินทร์ ผู้บังคับการกองอำนวยการตำรวจภูธรภาค 8 รวมถึงเจ้าหน้าที่ของทั้ง 2 ฝ่าย ร่วมให้ข้อมูลในส่วนที่เกี่ยวข้อง

อย่างไรก็ตาม ภายหลังเสร็จสิ้นภารกิจทั้ง 2 ส่วนแล้ว ทางทัพเรือ ได้มอบหมายให้ น.อ.เพชรรัตน เทียนจันทร์ รองผู้อำนวยการกองพลทหารเรือ กองบัญชาการ ทัพเรือภาคที่ 3 ให้ข้อมูลแก่สื่อมวลชนที่มารอทำข่าว ว่า การเดินทางลงพื้นที่จังหวัดภูเก็ตในครั้งนี้ของ พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒน์ศัย ผู้บัญชาการทหารเรือ เพื่อมารับฟังปัญหาที่ทางอุทยานฯ ที่ได้ดำเนินการไปในเรื่องการบุกรุกที่ดินป่าอุทยานแห่งชาติสิรินาถ โดยทางอุทยานฯ ได้ชี้แจ้งในพื้นที่ที่มีการบุกรุก จำนวนหลายแปลง ยกตัวอย่างเช่น ในพื้นที่ 43 แปลง เนื้อที่ประมาณ 700 กว่าไร่ ทางอุทยานฯ แจ้งว่า จากการตรวจสอบ ส.ค.1 ในอดีตที่ผ่านมา พื้นที่เหล่านี้มีควรมีเอกสาร ส.ค.1 แล้ว ทางเจ้าหน้าที่อุทยานก็ได้ดำเนินการในเรื่อง ส.ค.1 ซึ่งมีผู้ถือกรรมสิทธิ์อยู่ จำนวน 2 ราย ออกไปจนหมดสิ้นแล้ว เอกสารสิทธิที่ออกมาสามารถที่จะดำเนินการเพิกถอนได้เลย ซึ่งทางอุทยานฯ จะดำเนินการเพิกถอนต่อไป

อีกส่วนหนึ่งในพื้นที่ที่คาบเกี่ยวกับพื้นที่ของอุทยานฯ กับพื้นที่ของป่าสงวนแห่งชาติ กรมป่าไม้ จำนวน 46 แปลง เนื้อที่ประมาณ 500 ไร่เศษ สามารถให้กรมที่ดินเพิกถอนเอกสารสิทธิตรงนี้ได้เลยเช่นเดียวกัน เพราะว่าเป็นลักษณะเช่นเดียวกับพื้นที่ 43 แปลง เนื้อที่ 700 กว่าไร่ โดยที่ ส.ค.1 ที่ออกมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ในพื้นที่ภูเก็ตประมาณ 3,000 ฉบับ ตรงจุดนี้ ทางผู้บัญชาการทหารเรือ ก็พยายามที่จะเอาเอกสารออกมาพิจารณาดูว่าทางกรมที่ดินมีข้อมูลอะไรบ้างให้เปิดเผยออกมา เพื่อทางอุทยาน และกรมป่าไม้จะได้นำเอกสารต่างๆ เหล่านี้มาพิสูจน์ดูว่า เอกสารที่เป็น ส.ค.1 ได้ดำเนินการออกเอกสารสิทธิไปแล้วจำนวนเท่าไหร่ เหลืออีกจำนวนเท่าไหร่ อย่างน้อยๆ เราก็ได้ควบคุมได้ว่าในพื้นที่ทั้งหมดในเกาะภูเก็ต ยังคงเหลือ ส.ค.1 จำนวนเท่าไหร่ เพื่อจะได้มาพิสูจน์ถึงที่มาที่ไปของ ส.ค.1 เพราะประเด็นการบุกรุกปัญหาโดยส่วนรวมทางอุทยานบอกว่า เริ่มต้นมาจาก ส.ค.1 การมี ส.ค.1 ครอบครอง และการมี ส.ค.1 ไม่ได้ระบุชัดเจนมาเป็นพิกัด ตำบลที่ รับรองเท่าไหร่ในพิกัดนั้น เป็นการบอกลอยๆ ว่าเป็นแค่หมู่ที่เท่าไหร่ เนื้อที่เท่าไหร่ ฉะนั้นจึงเกิดปัญหา ส.ค.1 บิน หรือบวมมาจากที่อื่น ซึ่งในภูเก็ตมีค่อนข้างมาก

ขณะที่ในส่วนของการแก้ไขปัญหาแท็กซี่ทำผิดกฎหมายในพื้นที่ จังหวัดภูเก็ต น.อ.เพชรรัตน กล่าวว่า ในส่วนของตำรวจภูธรภาค 8 มาชี้แจงเกี่ยวกับแท็กซี่ ซึ่งมีเกือบ 300 คิว มีประมาณ 4,000 คัน ตรงส่วนนี้ได้มีการจัดระเบียบต่างๆ เพื่อให้ผู้ประกอบการแท็กซี่เหล่านี้ได้ประกอบการอย่างถูกต้องตามกฎหมาย คนที่ทำถูกต้อง สุจริตต่อวิชาชีพของตนเองจะมีสิทธิในการที่จะให้บริการรับส่งนักท่องเที่ยว ส่วนผู้ที่ทำไม่ถูกต้องก็ต้องเป็นมาตรการจะต้องดำเนินการต่อไปว่าจะทำอย่างไร จะให้ความช่วยเหลือพวกเขาอย่างไร เพื่อให้กลับมาสู่ระบบให้ถูกต้อง ก็เป็นเรื่องที่ต้องดำเนินการต่อไป

อย่างไรก็ตาม ในเบื้องต้นได้มีการกำหนดไว้แล้ว อย่างที่ทางตำรวจเคยชี้แจงไปเมื่อวันที่ 1 ก.ค.เป็นต้นมา ที่ไม่ให้รถแท็กซี่ป้ายดำวิ่งให้บริการรับส่งนักท่องเที่ยวโดยเด็ดขาด ทั้งนี้เพื่อให้สิทธิแก่ผู้ที่ทำถูกต้องตามกฎหมายไปก่อน ดังนั้น ตรงนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ระหว่างหาทางออกว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อแท็กซี่ที่เหลืออยู่ที่ไม่ถูกกฎหมาย เพราะว่าเตรียมที่จะรับเข้าสู่ช่วงไฮซีซัน ซึ่งนักท่องเที่ยวจะเดินทางเข้ามาในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตเป็นจำนวนมาก โดยทางตำรวจภูธรภาค 8 ได้ฝากไปทางผู้บัญชาการทหารเรือ ถึงแนวทางในการที่จะดำเนินการแก้ปัญหาตรงนี้อย่างไร น.อ.เพชรรัตน กล่าวในที่สุด

กำลังโหลดความคิดเห็น