นครศรีธรรมราช - "พงศพัศ พงษ์เจริญ" สอบปากคำ นางจินดา พันธรักษ์ ผู้ขายยาบ้าให้ “ไอ้หื่น” ผู้ต้องหาฆ่าข่มขืน “น้องแก้ม” อึ้ง! สารภาพเกลี้ยงยังมีลูกค้าเป็นพนักงานรถไฟอีกหลายราย พร้อมสั่งปราบยาบ้าชุมชนสลัมหลังสถานีรถไฟนครศรีฯอย่างเฉียบขาด
วันนี้ (11 พ.ค.) ที่กองบังคับการตำรวจภูธรนครศรีธรรมราช พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมด้วยผู้บังคับบัญชาตำรวจระดับสูง เดินทางลงพื้นที่นครศรีธรรมราช เข้าทำการสอบสวน นางจินดา พันธรักษ์ อายุ 52 ปี ซึ่งตกเป็นผู้ต้องหาในคดีครอบครองอาวุธปืน และจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ให้แก่นายวันชัย แสงขาว พนักงานรถนอน การรถไฟแห่งประเทศไทย โดยมี พล.ต.นพวงศ์ สุรวิชัย รองแม่ทัพภาคที่ 4 และคณะนายทหารเสนาธิการเข้าร่วมในการติดตามข้อมูล ซึ่งขณะจับกุมวานนี้ นางจินดา ได้ยอมรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา และซัดทอดถึงผู้ที่นำยาเสพติดมาส่งให้ตนก่อนที่จะขายให้แก่นายวันชัย แสงขาว พนักงานรถไฟจนกระทั่งไปก่อเหตุสลดขึ้น
ภายหลัง พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ รอง ผบ.ตร.ได้ทำการเรียกตัวนางจินดา มาสอบปากคำด้วยตัวเองต่อหน้าผู้สื่อข่าว นางจินดา ยอมรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา และซัดทอดว่ารับยาบ้ามาจากนายวิชัย รัตนอุบล และเปิดเผยว่า นอกจากนายวันชัย แล้ว ยังมีพนักงานรถไฟอีกหลายรายที่เป็นลูกค้ายาเสพติด ขณะที่ พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ระบุว่า ตำรวจ และเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องกำลังขยายผล และเตรียมประสานแผนปฏิบัติการครั้งใหญ่ในเร็วๆ นี้ โดยมีเป้าหมายที่กำหนดไว้แล้ว และจะประสานกับการรถไฟแห่งประเทศไทย เพื่อร่วมกันตรวจสอบพนักงานที่เกี่ยวข้อง และถูกระบุว่าเป็นผู้ซื้อยาเสพติดจากชุมชนที่นางจินดา และนายวิชัย
ต่อมา พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ รอง ผบ.ตร.ได้ติดตามการคุมตัว นางจินดา ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพทุกขั้นตอนด้วยความสมัครใจ ตั้งแต่จุดแรกที่นายวันชัย มารับประทานอาหารก่อนที่จะซื้อยาเสพติด ตลอดจนนำชี้ที่เกิดเหตุที่นายวิชัย รัตนอุบล เอเยนต์ยาเสพติดนั่งรอผู้ซื้อจนครบทุกขั้นตอน
หลังจากนั้น เจ้าหน้าที่ได้คุมตัวนางจินดา ไปนำชี้บ้านของนายวิชัย รัตนอุบล ซึ่งพบว่าหลังจากที่นางจินดา ถูกจับกุมนายวิชัย ได้หลบหนีไปจากบ้านแล้ว พล.ต.อ.พงศพัศ ได้เข้าตรวจสอบพบว่า มีเพียงลูกชายของนายวิชัย อยู่ที่บ้าน โดยระบุว่า นายวิชัย ได้เดินทางไปยังจังหวัดชุมพร และไม่สามารถติดต่อได้ และไม่รู้มาก่อนว่าพ่อของตนจะเป็นผู้จำหน่ายยาเสพติด หลังจากนั้น ได้เข้าพบปะผู้โดยสารที่มารอใช้บริการเข้าพบกับ นายสไลเดช แสงพยัคฆ์ นายสถานีรถไฟนครศรีธรรมราช เพื่อชี้แจงถึงกระบวนการดำเนินการต่อชุมชนซึ่งทั้งหมดนั้นอยู่ในเขตที่ดินของการรถไฟแห่งประเทศไทย ที่ให้ชาวบ้านเช่าพักอาศัย และแจ้งถึงข้อมูลของขบวนการค้ายาเสพติดที่เชื่อมโยงกับพนักงานการรถไฟที่เป็นลูกค้า
อย่างไรก็ตาม ได้มีหญิงสาวรายหนึ่งซึ่งทราบชื่อต่อมาคือ น.ส.บุญอร พรหมเกิด อายุ 29 ปี ชาวจังหวัดพัทลุง ที่มารอโดยสารขบวนรถไฟกลับบ้าน ได้เข้าเรียกร้องต่อ รอง ผบ.ตร.ให้ดำเนินคดีอย่างเฉียบขาดต่อผู้ต้องหาคดีข่มขืน และเรียกร้องให้ทางการเร่งแก้กฎหมายให้มีบทลงโทษต่อผู้กระทำความผิดในคดีแบบนี้มีโทษที่รุนแรงมากขึ้น
พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ รอง ผบ.ตร.เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ได้เชื่อมโยงข้อมูลทุกด้าน และเตรียมที่จะเริ่มต้นการปราบปรามยาเสพติดระลอกใหม่ที่หนักหน่วงเข้มข้นมากขึ้น โดยเริ่มจากจังหวัดนครศรีธรรมราช โดยเฉพาะชุมชนที่อยู่หลังสถานีรถไฟนครศรีธรรมราช จะต้องปราศจากยาเสพติดอย่างสิ้นเชิง ต้องมีการจัดระเบียบทางสังคมทุกด้าน
“ในส่วนของการค้ายาเสพติดในชุมชนแห่งนี้ต้องยอมรับความจริงว่าลูกค้าที่ซื้อนั้นมีอยู่ด้วยกัน 3 กลุ่มคือ 1.กลุ่มพนักงานรถไฟ 2.กลุ่มผู้โดยสาร และ 3.กลุ่มทั่วไป ซึ่งทางกองบัญชาการปราบปรามยาเสพติด ป.ป.ส.และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกหน่วย โดยเฉพาะการรถไฟนั้นได้รับความร่วมมืออย่างดีมากซึ่งทุกฝ่ายจะร่วมกันจัดการแก้ไขปัญหา” รอง ผบ.ตร.กล่าว