ตำรวจควบคุมตัวเพื่อน “ไอ้เกม” ผู้ต้องหาข่มขืน “น้องแก้ม” บนรถไฟสอบเครียด เผยไอ้หื่นวางแผนก่อเหตุระหว่างทางบนรถไฟ เล็งน้องแก้มตั้งแต่ขึ้นรถไฟ ปัดไม่มีส่วนรู้เห็น แต่เจ้าหน้าที่ยังไม่ปักใจเชื่อ ด้านเพื่อนอีกรายโผล่มอบหลักฐาน “แท็บเล็ต” น้องแก้มให้ตำรวจ อ้างไอ้หื่นนำมาฝากไว้ แต่ไม่มีส่วนรู้เห็น ล่าสุด ตำรวจเปิดเผยภาพจากกล้องวงจรปิด ขณะ “ไอ้เกม” นำไอโฟน 5 ไปขายที่ศรีย่าน
เมื่อวันที่ (10 ก.ค.) ที่ สน.นพวงศ์ นายสุวัฒน์ แสงขาว บิดาของ นายวันชัย แสงขาว ผู้ต้องหาฆ่าข่มขืนน้องแก้มได้เดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.ประเทือง สุภารัตน์ พงส.ผนพ.สภ.สามกระทาย จ.ประขวบคีรีขันธ์ ในฐานะชุดพนักงานสอบสวน เพื่อเข้าให้ปากคำเพิ่มเติม
พ.ต.ท.ประเทือง กล่าวว่า โดยทางพ่อของ นายวันชัย ได้เล่าว่า นายวันชัย เป็นคนที่เงียบ ไม่ค่อยพูด หรือสุงสิงกับใครทั้งนี้ หลังเกิดเหตุนั้น ทางนายวันชัยได้นำโทรศัพท์ไอโฟนมาใช้ ซึ่งก็ได้ถามว่าไปได้โทรศัพท์มาได้อย่างไร ซึ่งนายวันชัย เล่าเพียงว่า เก็บได้ นอกจากนี้ นายวันชัย ยังเล่าอีกว่า ในวันนั้นมีผู้โดยสารหายไปจากรถไฟ แต่ตนไม่เอะใจอะไร ในส่วนของพยานหลักฐานอื่นๆ นั้น จำพวกผลการตรวจรอยนิ้วมือแฝง ผลเลือดดีเอ็นเอที่พบที่เกิดเหตุ รวมทั้งผลการตรวจนิติเวชจะออกมาในวันนี้ ในส่วนของแท็บเล็ตนั้นจากการสอบถามทราบว่าเป็นของน้องแก้ม และหลังเกิดเหตุนายวันชัยได้ฝากไว้ที่เพื่อนคนหนึ่ง ซึ่งวานนี้ได้นำมามอบคืนให้กับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ และได้นำตรวจเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
นอกจากนี้ ยังมีรายงานข่าวอีกว่า ทางพ่อและแม่ เล่าว่า ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมาก่อนเกิดเหตุ นายวันชัย ได้มีพาผู้หญิงเข้าบ้านกว่าสิบคน ไม่ซ้ำหน้ากัน รวมทั้งนายวันชัยมีพฤติกรรมเก็บตัวเงียบ หมกมุ่นชอบดูหนังลามก
จากนั้นเมื่อเวลา 14.00 น. เจ้าหน้าที่กองกำกับการสวัสดิภาพเด็กและสตรี ได้นำตัวนายสมชาย (นามสมมติ) อายุ 19 ปี ซึ่งเป็นหนึ่งในสี่ของพนักงานที่อยู่บนรถไฟขบวน 174 ในวันเกิดเหตุ มาทำการสอบปากคำเพิ่มเติม รวมทั้งนำหลักฐานที่ค้นได้ที่บ้านพักของนายวันชัย อาทิ รองเท้า เสื้อผ้า ของใช้ส่วนตัว มาส่งมอบให้กับทางพนักงานสอบสวน
เบื้องต้น นายสมชาย ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุได้กินเบียร์กับพนักงานที่อยู่บนรถไฟขบวนดังกล่าวร่วมกัน โดยหนึ่งในนั้นมีนายวันชัยร่วมด้วย ซึ่งนายวันชัยได้เล่าให้ฟังว่าได้แอบชอบผู้หญิงคนหนึ่งที่อยู่บนรถไฟโบกีที่ 3 เตียงที่ 28 และได้แอบมองมาตั้งแต่ขึ้นขบวนจากจังหวัดสุราษฎร์ธานี และได้วางแผนว่าจะไปข่มขืน จากนั้นนายวันชัยก็ได้เดินไปที่โบกีที่ 3 ก่อนจะหายไป หลังจากนั้นไม่นาน นายวันชัยก็ได้เดินกลับมาหาตน ตนก็เลยถามว่าเด็กซึ่งคือน้องแก้มได้หายไปไหน นายเกม ก็ได้ตอบไปว่าได้โยนน้องแก้มทิ้งไประหว่างสถานีวังก์พง กับเขาเต่า แล้ว จากนั้นตนก็ได้สังเกตเห็นว่านายวันชัย มีโทรศัพท์ไอโฟน ก็ได้ถามว่าของใคร นายวันชัย บอกเพียงว่าเก็บมาได้ และเมื่อถึงกรุงเทพฯก็จะนำไปขายเอาเงินมาแบ่งให้ตน จนกระทั่งถึงกรุงเทพฯนายวันชัยก็ได้นำโทรศัพท์ไปขาย แต่ก็ไม่ได้นำเงินให้ตน
วันเดียวกัน ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ต.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ รอง ผบช.น. กล่าวเพิ่มเติมคดีของ “แก้ม” ว่า ขณะนี้ได้วัตถุพยานสำคัญเพิ่มเติม คือ แท็บเล็ต ของ “น้องแก้ม” โดยเมื่อวันที่ 7 มิ.ย. นายวันชัย โทรศัพท์หานายมาร์ค บอกว่าจะมาหา เช้าวันรุ่งขึ้น นายวันชัย มาหานายมาร์ค ที่บ้าน ย่านซอยระนอง และถือแท็บเล็ตกับไอโฟน 5 มาด้วย แล้วบอกว่าทะเลาะกับแฟน ไม่อยากให้แฟนรู้ว่าซื้อแท็บเล็ตใหม่ จึงขอฝากไว้ ส่วนนายวันชัยเก็บไอโฟนไว้ที่ตัว ซึ่งนายมาร์คไม่รู้เรื่องกับเหตุการณ์ที่นายวันชัย ก่อเหตุฆ่าข่มขืน “น้องแก้ม”
พล.ต.ต.ฐิติราช กล่าวว่า จากการตรวจสอบแท็บเล็ต เจ้าหน้าที่เชื่อว่าเป็นของ “น้องแก้ม” เพราะด้านหลังแท็บเล็ตมีข้อความเขียนว่า โครงการเพื่อการศึกษา ตัวย่อ น.บ. คงย่อมาจาก “สตรีนนทบุรี” ขณะนี้อยู่ระหว่างติดต่อสอบปากคำอาจารย์โรงเรียนสตรีนนทบุรี เพื่อเป็นพยานและหลักฐานมัดตัวผู้ต้องหา ว่า ทรัพย์สินของผู้ตายมาอยู่ที่ผู้ต้องหาได้อย่างไร ก่อนหน้านี้ ชุดสืบสวนติดตามไอโฟน 5 ของผู้ตายได้ หลังจาก นายวันชัย นำไปขายที่ร้านโทรศัพท์ย่านศรีย่าน โดยเจ้าของร้านมีหลักฐานสำเนาบัตรประชาชนของนายวันชัย พร้อมกับเจ้าหน้าที่มีภาพจากกล้องวงจรปิด ที่บันทึกภาพ ขณะที่ นายวันชัย เอาไอโฟนน้องแก้มไปขายห้างอาดิสัน ศรีย่าน ระบุเมื่อวันที่ 6/07/57 เวลา 10.58 น.
ส่วนเพื่อนอีก 3 คน ที่นั่งกินเบียร์ด้วยกัน เจ้าหน้าที่ได้นำตัวทั้งหมดมาสอบสวน แต่ยังไม่พบว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับคดี รวมถึงนายมาร์ค ที่นำแท็บเล็ตมาคืน ได้มีการสอบปากคำเพิ่มเติม โดยอ้างว่า ทราบข่าวจึงเกิดความกลัว แล้วไปปรึกษาลุงที่รู้จักกับตำรวจ และนำแท็บเล็ตไปคืนตำรวจรถไฟนพวงศ์
นายวันชัย ให้การว่า เคยก่อคดีข่มขืนผู้เสียหายพนักงานรถไฟในห้องน้ำบนรถไฟมาแล้ว 2 ราย พล.ต.ต.ฐิติราช กล่าวว่า อยู่ระหว่างติดตามผู้เสียหายอยู่ขณะนี้ยังไม่พบและไม่มีการแจ้งความ
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจนำตัวนายวันชัยไปฝากขังผลัดแรกที่เรือนจำ จ.ประจวบคีรีขันธ์ เมื่อวันที่ 10 ก.ค. ที่ผ่านมา โดยเรือนจำได้วางมาตรการคุมเข้มเพื่อป้องกันไม่ให้ถูกนักโทษคนอื่นรุมทำร้าย เนื่องจากผู้ต้องขังส่วนใหญ่รังเกียจผู้ต้องหาก่อคดีข่มขืนเด็กอย่างรุนแรง
ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้า เมื่อวันที่ 11 ก.ค.ที่ สภ.ปราณบุรี พ.ต.อ.ปรีชา กลัดสวัสดิ์ รองผบก.ภ.จ.ประจวบครีขันธ์ ในฐานะหัวหน้าพนักงานสอบสวนคดีฆ่าข่มขืนเด็กหญิงวัย 13 ปี บนรถไฟ เปิดเผยว่า ได้เชิญตัวนายณัฐกร หรือหนึ่ง ชำนาญ อายุ 19 ปี พนักงานทำความสะอาดบนโบกี้รถไฟตู้นอนที่ 2-3-4 ขบวนที่ 174 นครศรีธรมราช-กรุงเทพฯ มาสอบสวนที่ สภ.ปราณบุรี โดยมี พล.ต.ต.ธเนษฐ สุนทรสุข ผบก.ภ.จว.ประจวบคีรีขันธ์ ร่วมสอบปากคำ ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง ต่อมาผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าในคืนเกิดเหตุเป็นคนดูต้นทางเพื่อให้นายวันชัย แสงขาว หรือเกม อายุ 22 ปี ลงมือข่มขืน ด.ญ.วัย 13 ปี ในโบกี้รถไฟ เนื่องจากเป็นเพื่อนสนิทที่ตั้งวงดื่มเบียร์ก่อนลงมือก่อเหตุ
พนักงานสอบสวนจึงแจ้งข้อหาสนับสนุนให้ผู้อื่นกระทำชำเราเด็กหญิงอายุต่ำกว่า 15 ปี ให้การเท็จต่อเจ้าพนักงานสอบสวนทางคดีอาญา และช่วยให้ผู้อื่นได้กระทำผิดโดยไม่ต้องได้รับโทษกับนายหนึ่ง ก่อนนำตัวไปขออำนาจศาลจังหวัดหัวหินฝากขังผลัดแรกเป็นเวลา 12 วัน และนำตัวส่งเข้าคุมขังที่เรือนจำจังหวัดประจวบคีรีขันธ์
ส่วนการสอบปากคำนายณัฐวัฒน์ จุลขุนทด อายุ 22 ปี พนักงานบริการบนขบวนรถไฟที่คุมตู้ที่ 3 ซึ่งร่วมวงดื่มเบียร์ด้วยกัน ยังให้การปฏิเสธว่าไม่มีส่วนรู้เห็นกับการกระทำผิด หลังสอบปากคำแล้วเจ้าหน้าที่จึงปล่อยตัวนายณัฐวัฒน์
พ.ต.อ.ปรีชา เปิดเผยว่าขณะนี้ สำนวนการสอบสวนคืบหน้าแล้วกว่า 90% คาดว่าจะสรุปสำนวนได้ในวันที่ 15 ก.ค.นี้ หลังจากสถาบันนิติเวช โรงพยาบาลตำรวจ ส่งหลักฐานนิติวิทยาศาสตร์ ซึ่งมีหลักฐานแน่นหนา ก็สามารถส่งฟ้องได้ทันที