นครศรีธรรมราช - คณะทำงานตรวจสอบปริมาณและคุณภาพข้าวชุดที่ 99 พบความเสียหายข้าวสารในคลังสินค้านครศรีธรรมราชอย่างต่อเนื่อง หลังเข้าตรวจสอบคลัง “ยิ่งยศลอยชูศักดิ์” พบเสียหายทั้งคลัง กว่า 1.5 พันตัน แถมถูกสถาบันการเงินเข้ายึดทรัพย์ปิดป้ายขายทอดตลาด ขณะที่โกดัง “โกศลตระกูลเมฆี” เสื่อมสภาพกลายเป็นดินทั้งหมด เผยทั้ง 2 แห่ง เป็นพื้นที่น้ำท่วม เตรียมสอบหลักการเช่า เหตุปล่อยให้เช่าพื้นที่เสี่ยงน้ำท่วม
วันนี้ (10 ก.ค.) ที่ จ.นครศรีธรรมราช ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นางอรวรรณ ขุมทรัพย์ ผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี ประธานคณะทำงานตรวจสอบปริมาณและคุณภาพข้าว พร้อมด้วยคณะทำงานจากหลายฝ่ายเข้าตรวจสอบคลังสินค้า ยิ่งยศลอยชูศักดิ์ เลขที่ 25/15 หมู่ที่ 6 ตำบลบางจาก อำเภอเมือง จังหวัดนครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นหนึ่งในคลังสินค้า หรือโกดังข้าวในโครงการที่ถูกระบุว่าข้าวสารจำนวนกว่า 15,565 กระสอบ หรือกว่า 1,500 ตัน ได้รับความเสียทั้งหมด โดยเมื่อคณะทำงานเดินทางเข้าตรวจสอบพบว่า คลังสินค้าแห่งนี้ถูกสถาบันการเงินเข้ายึดทรัพย์ และปิดป้ายขายทอดตลาด
เมื่อเปิดประตูคลังสินค้าเข้าไปภายใน เจ้าหน้าที่พบว่าไม่สามารถเข้าตรวจนับได้ เนื่องจากสภาพความเสียหายกองข้าวทรุดตัว และเริ่มพังถล่ม บางจุดเริ่มเอนอาจพังได้ตลอดเวลาหากมีแรงสะเทือน ขณะที่กระสอบข้าวมีสิ่งบ่งชี้ถึงการเสื่อมสภาพทำให้เกิดความเสียหายอย่างรุนแรงต่อข้าวสาร จนไม่สามารถใช้การได้ เมื่อเก็บตัวอย่างพบว่าข้าวมีสีเข้ม และป่นเป็นฝุ่นผง ขณะที่เจ้าหน้าที่องค์การคลังสินค้า ได้อธิบายแก่ นางอรวรรณ ว่า สาเหตุที่ข้าวเสียหายเกิดขึ้นจากน้ำท่วมและไหลเข้าไปในโกดัง รวมทั้งโกดังเกิดการทรุดตัว ส่งผลให้ข้าวที่ถูกเก็บอยู่ภายในเสียหาย ซึ่งนางอรวรรณ ได้ทำการบันทึกปากคำ และรวบรวมข้อมูล เตรียมรายงานเพื่อให้คณะกรรมการชุดใหญ่พิจารณาการดำเนินการ
พบ “โกดังโกศลตระกูลเมฆี” ข้าวสารกว่า 781 ตัน เสื่อมสภาพกลายเป็นดิน สอบพิรุธเช่าโกดังเสี่ยงน้ำท่วม
คณะทำงานตรวจสอบเข้าตรวจสอบข้าวสารตามบัญชีในคลังสินค้าโกศลตระกูลเมฆี จำนวน 781 ตัน พบว่า เสื่อมสภาพจนกลายเป็นดินทั้งหมด ขณะที่ผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี ส่งให้ผู้เกี่ยวข้องเตรียมสอบหลักการเช่าโกดังสินค้า เนื่องจากพบว่าจุดเกิดเหตุเป็นพื้นที่เสี่ยงน้ำท่วมแต่กลับมีการเช่า และทำให้ข้าวสารได้รับความเสียหาย
ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าถึงการตรวจสอบโกดังข้าวต่อว่า คณะทำงานตรวจสอบปริมาณและคุณภาพข้าวชุดที่ 99 ยังคงเดินหน้าตรวจสอบข้าวที่ได้รับความเสียหายในพื้นที่นครศรีธรรมราช อย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดนั้น ได้เข้าทำการตรวจสอบคลังสินค้าโกศลตระกูลเมฆี เลขที่ 352/54 ม.1 ตำบลปากนคร อำเภอเมืองนครศรีธรรมราช ซึ่งมีข้าวสารตามบัญชีรวม 6,179 กระสอบ หรือ กว่า 781 ตัน พบว่า ประตูทางเข้าเต็มไปด้วยวัชพืช รอบโกดังเจ้าของได้ปลูกปาล์มน้ำมัน และเมื่อเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบภายในพบว่า ข้าวสารที่ถูกระบุว่ามีถึง 781 ตันนั้น อยู่ในสภาพกลายเป็นดินคล้ายกองปุ๋ยอินทรีย์ กระสอบเปื่อยยุ่ยจนหมดสภาพ ทั้งหมดกองราบอยู่กับพื้นโกดังเป็นวงกว้าง
ขณะที่ นางอรวรรณ ขุมทรัพย์ ผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะทำงานตรวจสอบปริมาณและคุณภาพข้าวชุดที่ 99 แสดงข้อสังเกตว่าข้าวสาร จำนวน 781 ตัน จะเหลือซากเพียงเท่าที่พบเห็น
ขณะที่เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้ชี้แจงว่า ข้าวสารที่เหลือจนมีสภาพอย่างที่เห็นนั้น สืบเนื่องจากน้ำท่วมเมื่อปี 2553 และได้ระบายข้าวส่วนที่ดีออกไปหมดแล้ว คงเหลือข้าวที่เสื่อมสภาพเก็บไว้ภายในตามบัญชี 6,179 กระสอบ ส่วน นางอรวรรณ ได้ให้ความสนใจ และสอบถามถึงระเบียบและหลักการในการเช่าโกดังสินค้าในพื้นที่ที่มีความเสี่ยงน้ำท่วม ซึ่งมีหลักเช่นนี้อยู่แล้ว และเหตุใดถึงยังมีการเช่าโกดังในพื้นที่เสี่ยง ซึ่งจะต้องมีการตรวจสอบกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
อย่างไรก็ตาม ในการตรวจสอบนั้นพบว่า เจ้าหน้าที่สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน เจ้าหน้าที่จากสำนักงาน ป.ป.ช. ได้ให้ความสนใจ และบันทึกภาพรวมทั้งติดตามเอกสารที่เกี่ยวข้องอย่างละเอียด ขณะที่คณะทำงานชุดที่ 99 จะเว้นระยะการตรวจในพื้นที่นครศรีธรรมราช โดยจะเข้าตรวจสอบในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ตั้งแต่วันที่ 11 จนถึงวันที่ 20 โดยกลับมายังนครศรีธรรมราช ตรวจคลังข้าวสารในโครงการที่เหลืออีกเกือบ 20 แห่งให้แล้วเสร็จภายในสิ้นเดือนนี้