xs
xsm
sm
md
lg

พิลึก! ตำรวจ-ป่าไม้ สตูล สนธิกำลังบุกจับยายวัย 73 ข้อหาขายอาหารป่า พร้อมหลักฐาน 2 ถุง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


 
สตูล - โลกสังคมออนไลน์ตั้งกระทู้วิพากษ์การทำงานที่เกินกว่าเหตุของเจ้าหน้าที่ป่าไม้ และตำรวจ สภ.ควนกาหลงจ.สตูล ที่จับยายชีพ วัย 73 ปี ขายอาหารป่า

วันนื้ (9 ก.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังตำรวจ สภ. ควนกาหลง จ.สตุล ร่วมกับหน่วยป้องกันรักษาป่าที่ สต.1 (ทุ่งนุ้ย) ต.ทุ่งนุ้ย อ.ควนกาหลง และหน่วยเขตห้ามล่าสัตว์ป่าหนองปลักพระยา และเขาพระยามังสาฯ เข้าตรวจค้น “ร้านข้าวแกงป้าชีพ” เลขที่ 152 ถนนสายสามแยกนิคม-สวนเทศ ท้องที่หมู่ 1 ต.ควนกาหลง อ.ควนกาหลง (บริเวณหน้า สภ.ควนกาหลง) พร้อมจับกุมตัว นางชีพ บัวทอง อายุ 73 ปี เจ้าของร้าน พร้อมของกลางอาหารจากสัตว์ป่าหวงห้ามที่ใช้ในการปรุงอาหาร จำนวน 2 ถุง ประกอบด้วย ถุงที่หนึ่ง ที่ปรุงจากตะกวด หรือแกงแลน น้ำหนัก 220 กรัม ถุงที่สอง เป็นกระรอก (แกงกระรอก) น้ำหนัก 240 กรัม โดยดำเนินคดีในข้อหา “มีซากสัตว์ป่าคุ้มครอง”
พ.ต.อ.ธิติ กิจรุ่งโรจน์ ผกก.สภ.ควนกาหลง เปิดเผยว่า นโยบายของ คสช. มีนโยบายให้เร่งดำเนินการรักษาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ทั้งมีมาตรการป้องกัน และปราบปราม รวมทั้งการประชาสัมพันธ์เร่งรัดจับกุมการทำผิดเรื่องเกี่ยวกับทรัพยากรป่าไม้ สัตว์ป่า และรณรงค์ให้ชาวบ้านเกิดความรักห่วงแหนผืนป่า และทรัพยากรป่าไม้ สัตว์ป่า โดยร่วมกับป่าไม้ ทหาร ร่วมกันเข้าตรวจสอบ อีกทั้งการรณรงค์ให้รักษาทรัพยากรธรรมชาติ ให้ประชาชน ชุมชนช่วยระงับยับยั้งเรื่องในสิ่งที่เขาเคยปฏิบัติกันมาในอดีตที่ไม่ถูกต้อง เช่น การหาของป่า ล่าสัตว์ป่า เป็นต้น ส่วนในพื้นที่ตรวจสอบแล้ว แต่ไม่พบว่ามีผู้กระทำความผิด

สำหรับการจับกุมตัว นางชีพ ทาง สภ.ควนกาหลง ได้ดำเนินการจับกุม ร่วมกับเจ้าหน้าที่ป่าไม้ซึ่งต่อไปนี้ร้านป้าชีพ จะได้หยุดจำหน่ายอาหารจากสัตว์ป่า ซึ่งต้องช่วยกันประชาสัมพันธ์ และช่วยส่งเสริมให้ประชาชนอนุรักษ์ทรัพยากรสัตว์ป่ามากยิ่งขึ้น ส่วนคดีซากสัตว์ป่า มีอัตราโทษ แต่ก็เป็นอำนาจศาลจังหวัดสตูล ซึ่งขณะนี้ นางชีพ ภายหลังถูกจับก็ขายอาหารข้าวแกงธรรมดา ซึ่งทาง สภ.ควนกาหลง จะเร่งประชาสัมพันธ์ในเรื่องการช่วยอนุรักษ์สัตว์ป่า และทรัพยากรป่าไม้กันต่อไป ส่วนการมองว่า การจับกุมคดีประเภทนี้น่าจะเป็นผลลบภาพลักษณ์ต่อองค์กรโดยเฉพาะเสียมวลชนหรือไม่นั้น ผกก.ควนกาหลง กล่าวว่า คงไม่ เพราะก่อนการเข้าตรวจค้นจับกุมร้านป้าชีพ ทาง สภ.ควนกาหลง ได้อธิบายประชาสัมพันธ์ไปล่วงหน้าแล้วให้ชาวบ้าน และทุกฝ่ายในพื้นที่เข้าใจในนโยบายกันแล้ว

ด้าน นางชีพ เปิดเผย ว่า สำหรับร้านข้าวแกงป้าชีพ เปิดมาประมาณรวมกว่า 50 ปี แล้ว โดยสมัยในสมัยอำเภอควนกาหลง มีพวกคอมมิวนิตส์เคลื่อนไหวอยู่มากจนมาถึงปัจจุบัน โดยลูกค้ามีทั้งชาวบ้านทั่วไป และมีพวกข้าราชการ รวมทั้งทุกสาขาอาชีพมารับประทานกัน สำหรับอาหารที่ขายส่วนใหญ่เป็นประเภทแกงไก่บ้าน แกงปลา และแกงอื่นๆ เหมือนกับร้านค้าทั่วๆ ไป

นางชีพ กล่าวว่า ในวันเกิดเหตุที่มีเจ้าหน้าทีเข้ามาตรวจค้น พบหม้อแกงแลน (ตะกวด) และ แกงกระรอก เจ้าหน้าที่ได้เข้ามาขอตรวจค้น โดยจะยกไปปทั้งหม้อแต่ตนไม่ให้ ตำรวจเลยเอาของกลางแกงแลน (แกงตะกวด) ไป 1 ถุง แกงกระรอก 1 รวม 2 ถุง ปกติแล้วตนขายข้าวแกงธรรมดาๆ ทุกวัน

โดยอาหารสัตว์ป่าจะมีขายนานๆ ครั้ง เนื่องจากหายาก ในบางเดือนไม่มีอาหารป่าขายเลย เนื่องจากสัตว์ป่าหายาก สำหรับอาหารสัตว์ป่าที่ถูกเจ้าหน้าที่จับกุมในครั้งนี้ตนซื้อจากพ่อค้าอาหารป่าซึ่งเป็นชาว จ.ยะลา ทำเป็นแพกถุงนำมาส่งให้ที่ร้าน ขอยืนยันว่าคนในพื้นที่ไม่เคยมีใครนำอาหารสัตว์ป่ามาขายให้เลย เนื่องจากกลัวกัน และหายากด้วย โดยเปิดร้านขายข้าวแกงมา 50 ปี เพิ่งมาถูกเจ้าหน้าที่จับกุมครั้งนี้เป็นครั้งแรก ซึ่งไม่รู้จะว่าอย่างไร ตนถือว่าเป็นคราวซวย

อย่างไรก็ตาม ตนเปิดร้านขายข้าวแกงเพราะต้องการเงินเลี้ยงหลาน 3 คน ที่มีอยู่ จริงๆ แล้ว ลูกๆ ต้องการที่จะให้เลิกขายอาหารดังกล่าว แต่เนื่องจากยังมีหลานกำลังเรียนหนังสืออยู่ 3 คน แม่ กับ พ่อ เขาแยกทางกัน และมีหลานชายมาช่วยขายอยู่ด้วย การถูกเจ้าหน้าที่จับกุมในครั้งนี้ต้องประกันตัวออกมาชั่วคราว ด้วยวงเงิน จำนวน 100,000 บาท นางชีพ กล่าว
 
 

กำลังโหลดความคิดเห็น