สุราษฎร์ธานี - สำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ ลงพื้นที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี จัดสัมมนามุ่งเน้นให้ผู้ที่ได้รับอนุญาตครอบครองและใช้วัสดุกัมมันตรังสี 14 จังหวัดภาคใต้ ให้มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับหลักเกณฑ์การจัดการกากกัมมันตรังสีเมื่อเลิกใช้งาน
นายอวยชัย อินทร์นาค รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี เปิดเผยภายหลังเป็นประธานเปิดการสัมมนา “การให้ความรู้ในการจัดการกากกัมมันตรังสีและการกำกับดูแลความปลอดภัยทางรังสีที่ถูกต้อง” โดยสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ จัดขึ้น 2 วัน ณ โรงแรมไดมอนด์พลาซ่า อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี ในระหว่างวันที่ 8-9 ก.ค. นี้ ทั้งนี้ เพื่อให้ผู้รับอนุญาตครอบครองและใช้วัสดุกัมมันตรังสี เกิดความเข้าใจในหลักเกณฑ์ และวิธีการ รวมถึงขั้นตอนในการดำเนินการจัดการกากกัมมันตรังสี เมื่อมีความประสงค์ที่จะเลิกใช้งาน หรือสิ้นสุดการใช้งานวัสดุกัมมันตรังสี โดยมีเป้าหมายผู้รับอนุญาตครอบครอง และใช้วัสดุกัมมันตรังสีจาก 14 จังหวัดทั่วภาคใต้ ว่า
จากข้อมูลของสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติพบว่า ประเทศไทยมีการใช้ประโยชน์จากพลังงานนิวเคลียร์ และรังสีอย่างแพร่หลาย มีการผลิต นำเข้า และครอบครองวัสดุกัมมันตรังสี เพื่อใช้ในกิจการต่างๆ เช่น การแพทย์ อุตสาหกรรม ศึกษาวิจัย การเกษตร และอื่นๆ ซึ่งวัสดุกัมมันตรังสีเหล่านี้เมื่อไม่ใช้งาน หรือสิ้นสุดการใช้งานแล้วจะกลายเป็นกากกัมมันตรังสี
นอกจากนี้ กากกัมมันตรังสียังเกิดมาจากการรื้อถอนสถานประกอบการทางนิวเคลียร์และการจัดการอุบัติเหตุทางรังสี ผู้ที่ได้รับอนุญาตครอบครอง และใช้วัสดุกัมมันตรังสีจะต้องปฏิบัติตามกฎกระทรวงการกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการจัดการกากกัมมันตรังสีอย่างถูกต้อง ซึ่งสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ ได้ทำการสำรวจปริมาณวัสดุกัมมันตรังสีที่ผู้ได้รับอนุญาตครอบครองและใช้วัสดุกัมมันตรังสีที่ความประสงค์จะเลิกใช้งาน แต่ยังมีคุณสมบัติที่ยังสามารถนำกลับมาใช้งาน หรือสามารถปรับสภาพเพื่อนำกลับมาใช้งานใหม่ได้ และจัดทำเป็นทะเบียนวัสดุกัมมันตรังสีที่ไม่ใช้งานแล้ว เพื่อให้เกิดการใช้ประโยชน์จากพลังงานนิวเคลียร์ และรังสีอย่างคุ้มค่า อีกทั้งช่วยลดการเกิดปริมาณกากกัมมันตรังสีในอนาคตด้วย
