ศูนย์ข่าวภูเก็ต - ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 ย้ำปราบปรามแท็กซี่มีอิทธิผลยังดำเนินการต่อ เป้าหมายต่อไปจัดการแท็กซี่ป้ายดำมีอิทธิพลในพื้นที่ป่าตอง-สนามบินภูเก็ต เผยกำลังอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐาน ขณะที่การติดตามยึดทรัพย์มั่นใจยึดได้แน่
พล.ต.ท.ปัญญา มาเม่น ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 กล่าวถึงความคืบหน้าการเดินหน้าปราบปรามแท็กซี่ป้ายดำในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต หลังมีการดำเนินการระดมกำลังเจ้าหน้าที่จากทุกภาคส่วนกว่า 1,000 นาย เข้าจับกุมดำเนินคดีกลุ่มคนขับแท็กซี่ป้ายดำที่ทำตัวผู้มีอิทธิพล จำนวน 112 หมาย เมื่อช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา ว่า สำหรับการดำเนินการปราบปรามกลุ่มคนขับรถแท็กซี่ป้ายดำที่มีอิทธิพลในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต ขณะที่ชุดทำงานยังอยู่ในพื้นที่เพื่อเก็บรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติมในการดำเนินคดีต่อกลุ่มผู้กระทำผิด เพื่อที่จะดำเนินคดีต่อไป โดยพื้นที่เป้าหมายที่จะเข้าไปดำเนินการปราบปรามต่อไปคือ พื้นที่ป่าตอง และพื้นที่ภายในท่าอากาศยานภูเก็ต ซึ่งเป็นการดำเนินคดีแท็กซี่ที่ทำตัวเป็นผู้มีอิทธิพล ข่มขู่ โดยขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐาน เชื่อว่าในเร็วๆ นี้จะสามารถออกหมายจับเพิ่มได้
ส่วนการดำเนินการหลังมีการจับกุมเพื่อให้แท็กซี่น้ำดีสามารถประกอบอาชีพต่อไปได้นั้นก็เป็นในส่วนของความรับผิดชอบของหน่วยงานในพื้นที่ ทั้งจังหวัด ขนส่ง ท้องถิ่น ที่จะต้องเข้าไปจัดระเบียบเพื่อให้แท็กซี่เหล่านี้สามารถประกอบอาชีพต่อไปได้ เพราะแท็กซี่ที่ทำตัวเป็นผู้มีอิทธิพลนั้นถือว่าเป็นคนส่วนน้อยเท่านั้น แต่เมื่อทำผิดก็ต้องว่ากันไปตามกฎหมาย ส่วนกรณีการยึดทรัพย์ของผู้ที่ถูกดำเนินคดีนั้น ขณะนี้ทาง ปปง.ก็ได้มาเอาพยานหลักฐานจากตำรวจไปแล้ว เชื่อว่าจะสามารถดำเนินการในเรื่องของการยึดทรัพย์ได้อย่างแน่นอน
ด้าน นายไมตรี อินทุสุต ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวถึงการแก้ไขปัญหาแท็กซี่ป้ายดำในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต หลังมีการจับกุมของทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ว่า การแก้ไขปัญหาต้องมองหลายมิติ ทั้งเรื่องการประกอบอาชีพ การหาอาชีพเสริมให้แก่คนในครอบครัว ซึ่งขณะนี้ได้มีการเข้าไปดำเนินการในพื้นที่กะรนเป็นพื้นที่นำร่องในการแก้ไขปัญหาเพื่อให้แท็กซี่น้ำดีได้มีที่ทำกิน โดยมีการประชุม และกำหนดแนวทางในการแก้ไขปัญหาไปแล้ว ซึ่งแท็กซี่ในส่วนนี้ถือว่ามีอยู่จำนวนมาก เพราะคนที่ถูกจับนั้นมีเพียงส่วนน้อยเท่านั้นเอง ซึ่งในเบื้องต้นจะต้องเข้าไปดูในเรื่องของการจัดระเบียบการให้บริการแท็กซี่ในพื้นที่เพื่อให้เกิดความเป็นธรรม รวมทั้งขอความร่วมมือจากผู้ประกอบการโรงแรมในการจัดคิดรถให้แก่คนเหล่านั้น นอกจากนั้น สิ่งที่จะต้องเข้าไปทำอีกอย่างคือ การส่งเสริมอาชีพให้แก่คนในครอบครัวของคนขับรถแท็กซี่เพื่อให้มีรายได้เพิ่มมากขึ้น