ศูนย์ข่าวภูเก็ต - สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยกองบังคับการกองการต่างประเทศ ร่วมกับองค์การตำรวจสากล จัดการประชุม Chemical and Explosive Terrorism Prevention Conference เพื่อหารือแนวทางป้องกันการก่อการร้าย โดยใช้เคมีภัณฑ์ และวัตถุระเบิด ระหว่างวันที่ 17-20 มิ.ย.นี้ ที่จังหวัดภูเก็ต
เมื่อเวลา 10.00 น. วันนี้ (17 มิ.ย.) ที่ห้องประชุม โรงแรมฮอลิเดย์ อินน์ รีสอร์ท ภูเก็ต ต.ป่าตอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต พล.ต.ท.ปัญญา มาเม่น ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 เป็นประธานในพิธีเปิดการประชุม Chemical and Explosive Terrorism Prevention Conference เพื่อป้องกันการนำเคมีและวัตถุระเบิดมาใช้ในการก่อการร้าย ซึ่งเป็นภัยคุกคามในสถานการณ์ปัจจุบัน ซึ่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยกองบังคับการกองการต่างประเทศ ร่วมกับองค์การตำรวจสากล จัดขึ้น โดยมี พล.ต.ต.กระจ่างสุวรรณรัตน์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 รักษาราชการผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต นายเอียน รอสซี่ หัวหน้าฝ่ายเคมีภัณฑ์ที่เป็นวัตถุอันตราย องค์การตำรวจสากล หรือ CBRNE และ พ.ต.อ.จตุรภัทร ภิรมย์แก้ว ผู้กำกับการตำรวจสากลภูมิภาค 2 เจ้าหน้าที่ศุลกากร และหน่วยงานการควบคุมสารเคมีจาก 8 ประเทศ ได้แก่ ไทย ลาว กัมพูชา มาเลเซีย อินโดนีเซีย พม่า ฟิลิปปินส์ และเวียดนาม จำนวน 50 คน เข้าร่วม
พล.ต.ท.ปัญญา มาเม่น ผบช.ภ.8 กล่าวถึงการประชุมในครั้งนี้ว่า มีวัตถุประสงค์เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร และแสวงหาความร่วมมือระหว่างกันของหน่วยงาน รวมถึงการบังคับใช้กฎหมายในประเทศภูมิภาคอาเซียนในการป้องกันการก่อการร้ายโดยใช้เคมีภัณฑ์และวัตถุระเบิด
ด้าน นายเอียน รอสซี่ หัวหน้าฝ่ายเคมีภัณฑ์ที่เป็นวัตถุอันตราย องค์การตำรวจสากล กล่าวว่า ปัจจุบันกลุ่มผู้ไม่หวังดีได้หันมาใช้เคมีภัณฑ์ และวัตถุระเบิดมาใช้ในการก่อความไม่สงบมากขึ้น ส่งผลให้เกิดความเสียหายต่อชีวิตของมวลมนุษยชาติที่รุนแรง และกินพื้นที่เป็นบริเวณกว้าง อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันยังไม่มีกลุ่มใดที่ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ ซึ่งการประชุมในครั้งนี้ เป็นการหารือกันเพื่อช่วยกันหาแนวทางป้องกันการก่อการร้าย และลดอัตราการเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวให้น้อยที่สุด
สำหรับการประชุมในครั้งนี้ จัดขึ้นระหว่างวันที่ 17-20 มิถุนายน 2557 โดยมีผู้แทนจากหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายจากประเทศสมาชิกอาเซียน 8 ประเทศ เข้าร่วมการประชุมในครั้งนี้ โดยมีเนื้อหาเกี่ยวกับการสร้างความรู้ บทบาทความร่วมมือในภูมิภาค และช่องทางในการปฏิบัติงานร่วมกัน ผลจากการประชุมครั้งนี้ มุ่งหวังที่จะสร้างความร่วมมือในระดับภูมิภาคระหว่างประเทศในด้านต่างๆ เช่น นโยบาย ระเบียบกฎหมาย และแนวทางในการปฏิบัติที่ดีที่สุด รวมถึงสร้างความเป็นหุ้นส่วนตามหลัก 3P Concept คือ Public Private Partnership จากทั้งภาครัฐและเอกชน