xs
xsm
sm
md
lg

“วัชรพล” จับตาผู้ร้ายข้ามชาติ เผยมีการแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างประเทศ

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

(แฟ้มภาพ) พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ รรท.ผบ.ตร.
“วัชรพล” เปิดงานโครงการรณรงค์ให้ประชาชนหันหลังให้อาชญากรรม เล็งจับตาผู้ร้ายข้ามชาติ เผยมีการแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างประเทศ 190 ประเทศ

วันนี้ (12 มิ.ย.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่ชาติ (รรท.ผบ.ตร.) กล่าวภายหลังการเปิดงานโครงการรณรงค์ให้ประชาชนหันหลังให้อาชญากรรม (Turn Back Crime Public Awareness) จัดขึ้นโดยสำนักงานกลางตำรวจสากลประเทศไทยว่า ในเรื่องของการปราบปรามปัญหาการอาชญากรรมเป็นเรื่องที่จะต้องมีการพูดคุยและร่วมรณรงค์กับภาคเอกชน และภาคธุรกิจการเงินต่างๆ เป็นเรื่องที่ทางสำนักงานตำรวจสากลพยายามที่จะสนับสนุนประเทศสมาชิกทั้งหมด 190 ประเทศ เพื่อจัดโครงการรณรงค์เหล่านี้ เพราะตำรวจกับเจ้าหน้าที่กระทรวงยุติธรรมจะมีประสิทธิภาพในการป้องกันไม่มาก ซึ่งไม่สามารถป้องกันได้ทันท่วงที หากมีการรณรงค์ให้ทุกคนใส่ใจปัญหาอาชญากรรม และลุกขึ้นมาป้องกันตัวเอง รวมไปถึงการช่วยเหลือในเรื่องการชี้แจงเบาะแส ก็จะทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทำงานได้ง่ายขึ้น ซึ่งตนอยากให้มีโครงการรณรงค์เช่นนี้จัดขึ้นไปเรื่อยๆ

พล.ต.อ.วัชรพลกล่าวว่า ส่วนการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาตินั้น ขณะนี้เราได้ร่วมมือกับต่างประเทศ และมีการแลกเปลี่ยนข้อมูลกันอยู่ตลอด และผลัดกันเป็นตัวแทนในการจัดอบรมเพื่อเพิ่มศักยภาพในการทำงาน ทั้งนี้ หากประเทศในอาเซียนที่เก่งในอาชญากรรมเรื่องไหนก็จะเป็นตัวแทนในการจัดอบรมเรื่องนั้นๆ ประเทศไทยนั้นจะเก่งในเรื่องของการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดมากกว่าประเทศในอาเซียน ทางประเทศไทยก็จะรับเป็นเจ้าภาพในการจัดการฝึกอบรม ส่วนประเทศฟิลิปปินส์จะรับเป็นตัวแทนในการจัดอบรมเรื่องการค้ามนุษย์ และประเทศสิงคโปร์ก็จะเป็นเจ้าภาพในการจัดอบรมเรื่องอาชญากรรมทางด้านคอมพิวเตอร์ เป็นต้น เห็นได้ว่าเรามีการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารระหว่างประเทศเพื่อพัฒนาศักยภาพ นอกจากนี้ยังมีศูนย์รวบรวมข้อมูล และฐานข้อมูลอาชญากรสำคัญที่หนีข้ามประเทศอีกด้วย

รรท.ผบ.ตร.กล่าวต่อว่า สำหรับประเทศไทยปัญหาอาชญากรรมที่สร้างความเสียหายให้กับประเทศจะมีอยู่ 3 เรื่อง คือ ปัญหายาเสพติด, การปลอมแปลงสินค้า และอาชญากรรมสิ่งแวดล้อม สิ่งเหล่านี้จะทำให้ประเทศถูกกล่าวหาว่าเป็นแหล่งแพร่ระบาดของปัญหาต่างๆ เนื่องจากภูมิศาสตร์ของประเทศมีความเจริญ และประเทศไทยเป็นประเทศที่ส่งเสริมการท่องเที่ยวจึงทำให้มีอาชญากรเข้ามาก่อเหตุในประเทศง่ายขึ้น ทั้งนี้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะมีการตั้งศูนย์ในพื้นที่เสี่ยง โดยจะส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปดูแลเพื่อประสานงานกับหน่วยต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง

นอกจากนี้ หากมีการเปิดอาเซียนแล้วเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ต้องมีการพัฒนาด้านความรู้ ความสามารถ และรูปแบบพฤติกรรมของคนร้ายให้เจ้าหน้าที่รับทราบ โดยจะมีการนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้เพื่อให้การติดตามปฏิบัติงานเร็วขึ้น และนำเอาวิทยาการเข้ามาเพื่อให้การดำเนินการความยุติธรรมเป็นวิทยาศาสตร์มากยิ่งขึ้น ทุกอย่างจะต้องมีการบูรณาการอย่างมีมิติ โดยมิติสำคัญนั้นต้องมีภาคเอกชนเข้ามาร่วมด้วย โดยภาคเอกชนที่จะเข้ามาร่วม ได้แก่ สมาคมธนาคาร หอการค้า และสภาอุตสาหกรรม เพราะองค์กรเหล่านี้เป็นองค์กรที่เข้มแข็ง และมีระบบการต่อต้านซึ่งจะสามารถแนะนำเจ้าหน้าที่ตำรวจได้อีกด้วย
กำลังโหลดความคิดเห็น