xs
xsm
sm
md
lg

ปริศนา “อาณาจักรป่าตอง ภูเก็ต” พื้นที่ที่ไม่มีใครแตะ / ประเสริฐ เฟื่องฟู

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


 
คอลัมน์ : แกะสะเก็ด
โดย...ประเสริฐ  เฟื่องฟู
 
เป็นที่กังขาของผู้คนจำนวนมากว่า “อาณาจักรป่าตอง” บนเกาะภูเก็ตนั้น มีอภิสิทธิ์อะไร จึงไม่มีเจ้าหน้าที่ภาครัฐทั้งในจังหวัด หรือส่วนกลางเข้าไปจัดการอะไรต่อมิอะไรที่ไม่ชอบมาพากลให้เป็นจริงเป็นจังอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการจัดระเบียบบ้านเมือง จราจร จัดระเบียบหาด หรือแม้กระทั่งเรื่อง “ส่วย” ที่ฮือฮากันในสารพัดสื่อปัจจุบัน
 
ทุกเรื่องราวที่เห็น และเป็นมานับปี หรือกว่าสิบปี ทำกันก็ชั่วครั้งชั่วคราว เหมือนคลื่นลมพัดมาก็ผ่านไป
 
สังเกตดูถ้ามีการร้องเรียน ไม่ว่าจะเป็นของประชาชน นักท่องเที่ยว หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะยกโขยงกันไปดูแล้วก็เงียบ และแม้กระทั่งในส่วนของผู้ประกอบการในพื้นที่เอง หยิบยกมาคุยในระหว่างการประชุมสัมมนาที่พาดพิงถึง แต่ละปัญหาในหลายพื้นที่ที่เป็นแหล่งท่องเที่ยว
 
สุดท้ายก็แค่พูดคุย มองหน้ายิ้มให้กัน เหมือนมีเลศนัย ออกจากที่ประชุมแล้วก็แล้วกันไป
 

 
เคยถามผู้ประกอบการหลายคน แต่ก็ไม่มีใครอยากพูด ท่าทีเหนื่อยหน่าย รำคาญ หรือพูดไปก็สองไพเบี้ย เสียเวลาเปล่า ต่างเชื่อไม่มีใครแก้ปัญหาได้ ลักษณะคล้ายกับว่า เป็นเรื่องไร้สาระ ไม่อยากจุ้น
 
แม้เจ้าหน้าที่บ้านเมืองเองไปขอความร่วมมือ ขอรายละเอียดตื้นลึกหนาบาง ยังถูกปฏิเสธ ฟังจาก พล.ต.ต.ปวีณ พงษ์สิรินทร์ผบก.อก.ภ.8 หัวหน้าชุดเฉพาะกิจ ที่แฝงตัวเข้ามาสืบสวนเรื่องแท็กซี่อิทธิพล เข้าขอความร่วมมือกับผู้ประกอบการที่เป็นเจ้าทุกข์ยังถูกปฏิเสธ ต้องใช้เวลาเกลี้ยกล่อม สร้างความมั่นใจ
 
ทั้งยืนยันว่า คราวนี้เอาจริงแน่ เพราะที่ผ่านมามีหลายหน่วยงานทั้งเข้ามาทางลับและเข้ามาอย่างเปิดเผย มาขอข้อมูลซ้ำแล้วซ้ำเล่า แล้วก็เงียบหาย  ไม่ได้ทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน 
 
“คิวแท็กซี่ป้ายดำประมาณ 70 คิว ที่มีพฤติกรรมเป็นผู้มีอิทธิพล ในจำนวนเกือบ 300 คิว การสอบปากคำพยานผู้เสียหายพบว่า ไม่ค่อยได้รับความร่วมมือเท่าที่ควร ต้องใช้เวลาทำความเข้าใจมากพอสมควร ส่วนใหญ่ไม่เชื่อว่าทางตำรวจจะทำได้จริง ที่ผ่านมา มีผู้หลักผู้ใหญ่ลงมาเองก็ยังแก้ไม่ได้ ทำให้มีพยานยืนยันเพียงแค่ 150 ปาก ขอออกหมายจับได้เพียง 11 คิว และ 1 ชมรม”พ.ต.อ.ปวีณบอก
 
นั่นเป็นหนึ่งตัวอย่างจากปากของเจ้าหน้าที่เอง
 

 
การจัดระเบียบพื้นที่ หรือระเบียบหาด และอีกหลายระเบียบที่เห็นมา ทำได้แค่อาทิตย์สองอาทิตย์ก็กลับสภาพเดิม จัดมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน 
 
ที่สุดก็ต้องใช้วิธีขอความร่วมมือเป็นครั้งคราว เมื่อมีแขกบ้านแขกเมือง หรือผู้ใหญ่มาเยือน มาเยี่ยมชม ช่วยกันเอาผักชีโรยหน้า พอคล้อยหลังก็เข้าอีหรอบเดิม เหมือนลิงหลอกเจ้า
 
ผู้ว่าฯ หลายคนที่มาอยู่ภูเก็ตลงพื้นที่ดูด้วยตา สัมผัสด้วยตนเอง จับเข่ากอดคอคุยกับนักลงทุน ผู้ประกอบการยันลูกจ้าง รวมทั้งอาชีพรับจ้างอิสระ รถตุ๊กตุ๊กสี่ล้อเล็ก รถแท็กซี่ แผงลอย หมอนวด เตียง ร่มชายหาด แม้กระทั่งแจ็ตสกี เรือลากร่ม เป็นต้น เรียกว่าทุกอาชีพ ชนิดถึงลูกถึงคน ทั้งลูกล่อลูกชนสารพัด ก็ยังทำไม่สำเร็จ
 
เหมือนเป่าปี่ ให้ควายฟัง!!
 
แม้กระทั่งผู้ว่าฯ “ไมตรี อินทุสุต” ที่ว่าเป็นนักบริหารจัดการ และนักพูด นักจิตวิทยาชั้นแนวหน้า ที่บรรดานักข่าว สื่อมวลชนที่เดินตามหลังทำข่าว หรือข้าราชการผู้ใกล้ชิด รวมทั้งคนภูเก็ตหลายคนชมเป็นสุดยอดผู้ว่าฯ ไปทุกทางถึงทุกที่ไม่มีถอย ก็ไปลองของมาแล้ว
 
ขนาดไปโอ๋ กระหนุงกระหนิงกับโชเฟอร์ตุ๊กตุ๊ก และแท็กซี่ กอดคอ ออดอ้อนอวดกล้องสื่อ จนทำให้ผู้ประกอบการกลุ่มนั้นหลงตัวเองเป็น “อึ่งอ่าง” กร่างเต็มที่คิดว่าเป็นผู้ยิ่งใหญ่
 
เด็กผู้ว่าฯ นะ ใครอย่าแตะ!!!
 
โพสต์จากเฟซบุ๊ก เฉลิมลักษณ์ เก็บทรัพย์ นากยกเทศมนตรีป่าตอง
 
ผู้ประกอบอาชีพอิสระ รวมทั้งโชเฟอร์แท็กซี่ในเมืองภูเก็ต ล้วนร้อยพ่อพันแม่ที่มาจากต่างถิ่น ต่างชักชวนกันมา มีทั้งดี และนักเลงหัวไม้หลั่งไหลเข้ามาขุดทองทำมาหากินในเมืองท่องเที่ยวแห่งนี้ หาเงินง่ายถ้าใจกล้าหน้าด้าน จากที่ถูกเจ้าหน้าที่เข้าควบคุมตัวตามหมายศาลในการกวาดล้างที่ผ่านมา นำไปสอบสวนพบว่า กว่า 50% เป็นคนต่างถิ่น
 
ไม่ใช่แค่ 5% หรือ 10% และไม่ใช่จับกันแบบส่งเดชชนิดเหวี่ยงแหกวาดเรียบทั้งเกาะ แต่จับตามหมายศาล ถ้าหลักฐานไม่เพียงพอ ไม่เข้าข่าย ศาลคงไม่หลับหูหลับตาออกหมายจับแน่
 
และยังมีต่างชาติขับแท็กซี่ป้ายเขียว ติดฟิล์มมืดด้วย แล้วผู้โดยสารจะมีความปลอดภัยได้ยังไง รายนี้ต้องฝากถาม พล.ต.ต.ปวีณ พงษ์สิรินทร์ หัวหน้าชุดเฉพาะกิจ มันหลงหูหลงตาได้ไง หรือนอกประเด็นแท็กซี่อิทธิพล
 
กลับมาที่พวก “อึ่งอ่าง” เมื่อมีเจ้าหน้าที่ชั้นผู้ใหญ่เข้าไปให้ความสนิทสนม ถือเป็นโอกาสทอง เหมือนกับผู้มีอิทธิพลได้ถ่ายรูปคู่กับรัฐมนตรี นักการเมืองเรืองอำนาจ ปลัดกระทรวง อธิบดี หรือผู้บัญชาการ แล้วเอารูปไปแขวนโชว์อวดบารมีในห้องรับแขก หรือหน้าบ้านนั่นแหละ
 
พวกนี้ชอบแสดงอำนาจ ทำอะไรไม่ได้ดังใจ หรือทำผิดกฎหมาย เจ้าหน้าที่แตะต้องไม่ได้ เป็นเด็กเส้น อย่างเช่นรวมตัวกันประท้วงปิดถนน คนอื่นไม่คุยด้วย ขอพบผู้ว่าฯ ให้ย้ายตำรวจ 
 
นี่เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างที่ชุดสืบสวนของ พล.ต.ท.ปัญญา มาเม่น ผบช.ภ.8 จัดการสะสาง เก็บเอาไปดัดสันดานแล้ว ส่วนจะผิดตัว ถูกตัว หรือมีอีกกี่ตัวที่เจ้าหน้าที่มองไม่เห็น ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง
 
แท็กซี่อิทธิพลตัวการทำลายภาพลักษณ์การท่องเที่ยวของเมืองภูเก็ตบางส่วนถูกกำราบไปแล้ว ที่เหลือก็คงกบดานไม่กล้าออกเพ่นพ่านไปชั่วระยะหนึ่ง ถ้าไม่กวดขันอย่างต่อเนื่องมีสิทธิออกมาเพาะเชื้อระบาดได้อีกแน่นอน ส่วนเด็กเส้น ตุ๊กตุ๊ก “อึ่งอ่าง” ที่ท่านผู้ว่าฯ ไปตีสนิทก็คงหมดลมเบ่ง ลงรูไปจำศีล
 
นอกจากนั้น ยังมีเรื่องอื่นๆ ทั้งที่ผิดกฎหมาย เลี่ยงกฎหมาย หรือที่มีการอนุโลมโดยเจ้าหน้าที่รัฐอีกมากมายก่ายกอง ล้วนกำลังรอพระเอกขี่ม้าขาวเข้าไปจัดการเคลียร์พื้นที่เช่นเดียวกัน อย่างเช่น การจัดระเบียบขอคืนพื้นที่หาด ที่สาธารณะ ทุ่งเลี้ยงสัตว์ ที่ปล่อยปละละเลยให้อภิสิทธิ์ชนบุกรุกเอาไปเป็นส่วนตัวจนหมดสิ้น
 
ตอนนี้กำลังมีการเคลื่อนไหวเรียกร้องเอากลับคืนให้ประชาชน  ไว้ว่ากันคราวหน้า
 
แท็กซี่ติดฟิล์มมืด มีต่างชาติเป็นโชเฟอร์
 
ตัดฉากกลับไปที่ “อาณาจักรป่าตอง” พื้นที่อภิสิทธิ์ของเมืองภูเก็ตที่ไม่มีใครกล้าแตะ และเป็นที่ก่อปัญหาฮือฮาได้สารพัดเรื่องไม่ขาดระยะ ที่หนักหน่อยอาจจะเป็นเพราะสุดอั้นเลยพรุแตกก็เรื่อง....
 
“ส่วย” 
 
น่าจะเป็นเรื่องระดับชาติ เชื่อว่ามีทุกจังหวัดในเมืองไทยตั้งแต่สมัยอดีตกาล และตัวการสำคัญที่ก่อให้เกิดคงจะหนีไม่พ้นผู้รักษากฎหมาย “ตำรวจ” เป็นอันดับหนึ่ง
 
แต่ที่อาณาจักรป่าตองฉะกันซึ่งๆ หน้า แฉกันจะจะ ปีที่แล้ว วันที่ 15 ตุลาคม 2556 กระหึ่มด้วย “วีรวิชญ์ เครือสมบัติ” ประธานชมรมผู้ประกอบการสถานบันเทิงแฉสมาชิกต้องจ่ายส่วย 17 หน่วยงาน คนมีสีกว่า 10 ล้านบาทต่อเดือน มาปีนี้เมื่อต้นเดือนมิถุนายน 2557 ถึงขั้นขึ้นป้ายผ้าหน้าร้าน
 
ประจานความอัปรีย์จัญไรของหน่วยงานรัฐกันให้ก้องโลก
 
ล้วนแฉกันซึ่งๆ หน้า ผ่านไปหนึ่งปี มาล่าสุด ขึ้นป้ายประจานกันชัดๆ ผ่านไปเดือนเศษ ผู้ถูกแฉก็เป็นทองไม่รู้ร้อน ผู้ถูกประจานไม่แคร์ ไม่สน  ผู้หลักผู้ใหญ่จากเขต 8 ที่อุตส่าห์มานั่งมานอนเฝ้าขุมทรัพย์อยู่ภูเก็ต รวมทั้งชุด ฉก. เฉพาะกิจ หรือเฉาก๊วย ที่มาแบบลับ และสว่าง มันช่างไม่รู้ไม่เห็นเอาเลยหรือ
 
ไม่น่าเชื่อ
 
แล้วถ้าเผื่อสถานบันเทิงทั่วอาณาจักรป่าตองร่วมกันแข็งข้อ ประกาศความเป็น “ไท” ไม่จ่ายส่วยไม่ว่ากรณีใดๆ ทั้งสิ้น และปิดสถานบันเทิงตามที่กฎหมายกำหนด ปิดประกาศที่หน้าร้านให้เห็นชัดเจน แจ้งสื่อประกาศไปทั่วโลก
 
สาเหตุที่ต้องปิดร้านตามเวลาดังกล่าว เพราะรัฐบาลไทยออกกฎหมายบังคับไว้ ถ้าจะเปิดเกินเวลาต้องจ่าย “ส่วย” ซื้อเวลาจากเจ้าหน้าที่รัฐ ประกาศไปให้ชัดๆ ส่งหนังสือเวียนขอความร่วมมือร่วมกันต่อต้านไปยังแหล่งท่องเที่ยวทั่วไทย ทั้งพัทยา สมุย พะงัน เป็นต้น
 
โดยเฉพาะ “คสช.” หรือรัฐบาลใหม่ที่จะเกิดขึ้นมาต่อไป ถ้ายังหวังรายได้ หวังรวยจากการท่องเที่ยว และต้องการกวาดล้าง “ส่วย”ให้หมดไปจากเมืองไทย ที่ว่ากันว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้า คสช.เกลียดนักเกลียดหนา จะแก้ไขได้หรือไม่
 
หรือท่านจะทำเป็นทองไม่รู้ร้อน ไปกับพวกอัปรีย์
 
มันเก็บส่วยเพราะเปิดเกินเวลา ก็ขยายเวลาออกไปยันเช้า ก็อยากรู้เหมือนกันนักท่องเที่ยวหน้าไหนมันจะมานั่งซดเหล้าได้ยันรุ่งทุกวัน พวกที่ไปนั่งซดเหล้าอย่างนั้นต้องเป็นนักท่องเที่ยวเท่านั้น มีเงินจ่ายเป็นพอ จัดเป็นโซนไปเลย ให้มันเมาคลานเป็นหมาในซอยบางลานั่นแหละ คนที่มีงานมีการทำไม่มีใครประพฤติอย่างนั้นได้หรอก
 
เรื่องส่วยที่ป่าตองมีตัวตน มีคนยืนยัน อย่างน้อยที่สุด “วีรวิชญ์ เครือสมบัติ” ประธานชมรมสถานบริการป่าตองก็พอจะให้ข้อมูลได้ และนายกฯ ย่อย - เฉลิมลักษณ์ เก็บทรัพย์ นายกเทศมนตรีหญิงคนแรกของเทศบาลเมืองป่าตอง ก็คงไม่รังเกียจที่จะให้ข้อมูล และชี้เบาะแส
 
ที่น่ากังขาการกวาดล้างแท็กซี่อิทธิพล รื้อคิวที่เกะกะตามที่สาธารณะเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา สะเทือนเลือนลั่นไปทั้งเกาะพล.ต.ท.ปัญญา มาเม่น ผบช.ภ.8 สนธิกำลังจากภาค 8 รวมทหาร และฝ่ายปกครองจังหวัดภูเก็ตนับ 1,000 นาย ลุยจับตามหมายศาล มอบให้ท้องถิ่นรื้อคิวกีดขวางเฮี้ยนเตียนทุกพื้นที่ ไม่บอกกล่าวให้สื่อรู้ ปฏิบัติการแบบสายฟ้าแลบ แล้วมาเปิดแถลงข่าวด้วยตนเอง
 
มาที่อาณาจักรป่าตอง ดูจากข่าวเมื่อวันเสาร์ที่ 7 มิถุนายน 2557 ที่ผ่านมา พระเอกงานนี้กลับเป็น จำเริญ ทิพญพงศ์ธาดา รองผู้ว่าฯ ฝ่ายบู๊ ร่วมกับ พ.ต.ท.คุณเดช ณ หนองคาย รอง ผกก.สส.สภ.กะทู้ และนายกฯ ย่อย - เฉลิมลักษณ์ เก็บทรัพย์ นายกเทศมนตรีเมืองป่าตองคนใหม่ นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.กะทู้ อส.รด. และเจ้าหน้าที่เทศกิจเทศบาลเมืองป่าตองกว่า 150 นาย เข้ารื้อถอนคิวรถแท็กซี่ในเขตเทศบาลเมืองป่าตองทั้งหมด
 
ล้วนเป็นคนกันเองทั้งนั้น ไม่มีตำรวจจากภาค 8 และกำลังนอกพื้นที่เข้าร่วมกิจกรรม รวมทั้งยังไม่มีการจับกุมผู้ใดเป็นผู้ต้องหา
 
พล.ต.ต.ปัญญา มาเม่น หัวเรือใหญ่งานช้างนัดนี้กล่าวถึงกรณีกลุ่มแท็กซี่ในพื้นที่ป่าตองที่ยังไม่ถูกจับกุมว่า ในส่วนของป่าตองถือว่าเป็นพื้นที่ที่มีชื่อเสียง และเช่นเดียวกับที่อื่น ขณะนี้ก็มีการร้องเรียนจากผู้ประกอบการเข้ามาเช่นเดียวกัน แต่กำลังอยู่ในขั้นตอนของการรวบรวมพยานหลักฐาน ถ้ามีหลักฐานเพียงพอ และผู้ประกอบการที่ได้รับความเดือดร้อนให้ความร่วมมือ ก็พร้อมที่จะดำเนินการเช่นเดียวกัน 
 
ป่าตอง เป็นพื้นที่ที่สำคัญ มีชื่อเสียงอย่างที่ ผบช.ภ.8 พูดจริงๆ ด้วย นักท่องเที่ยว หรือเจ้าใหญ่นายโตถ้าไปภูเก็ตหรือเข้าภูเก็ตจะต้องไปเยือนป่าตอง และทุกครั้งจะต้องขอความร่วมมือให้ช่วยจัดกิจกรรม “ผักชีโรยหน้า” ต้อนรับ
 
นอกจากนั้น ทุกเทศกาลไม่ว่าจะเป็นวันคริสต์มาต หรือวันปีใหม่ วันสงกรานต์ ลอยกระทง รวมทั้งวันรำลึกคิดถึง “สึนามิ” ตำรวจจะต้องมีการปล่อยแถวกันตรงสามแยกปากซอยบางลานั่นแหละ หรือถ้ามีโครงการสร้างภาพอะไรพิเศษๆ อย่างที่ผ่านมา ก็จัดกันตรงนั้น อวดสายตานักท่องเที่ยวกันตรงนั้น
 
ล่าสุด “ย่อย - เฉลิมลักษณ์ เก็บทรัพย์” ได้โพสต์ในเฟซบุ๊กส่วนตัว เมื่อวันที่ 11 มิถุนายน 2557 ว่า
 
“อยากจะบอกกับทุกๆ คนว่า ประเทศไทยกำลังอยู่ในช่วงปฏิรูปโครงสร้างของประเทศใหม่ สิ่งหนึ่งที่เกาะกินสังคมไทยมานานคือ การทุจริตคอร์รัปชัน ซึ่งทำให้เกิดเป็นปัญหาต่างๆ ตามมามากมาย ถึงเวลาแล้วหรือยังที่ป่าตองซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของประเทศไทยจะได้เริ่มแก้ปัญหานี้ เรามาร่วมมือกันนะคะ ดิฉันรอทุกท่านอยู่ค่ะ”
 
เหมือนเสียงเพรียกหาแว่วมาจากแดนสนธยา ที่ไม่มีใครจะก้าวเข้าไปถึง อนิจจา!!
 
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้า คสช.ท่านอยู่ไหน ได้ยินเสียงเพรียกหาจากแดนสนธยาป่าตองบ้างมั้ย น่ารักน่าเอ็นดูออก ลองชายตาชำเลืองดูบ้าง และไขปมปริศนาในอาณาจักรป่าตองให้ที.
 
 

กำลังโหลดความคิดเห็น