xs
xsm
sm
md
lg

5 จำทน ถึงเวลาต้องก้าวข้ามที่ป่าตอง เมืองภูเก็ต / ประเสริฐ เฟื่องฟู

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


 
คอลัมน์ : แกะสะเก็ด
โดย...ประเสริฐ  เฟื่องฟู
 
คงจะยังไม่สายเกินไปที่จะเขียนถึงความกล้าหาญ และดันทุรังบุกเดี่ยวเข้าชิงเก้าอี้ นายกเทศมนตรีเมืองป่าตอง ของนักการเมืองหญิง “ย่อย เฉลิมลักษณ์ เก็บทรัพย์” ท่ามกลางอำนาจ และอิทธิพลบารมีของกลุ่มเก่าที่สั่งสมสร้างฐานไว้นานนับปี
 
อิทธิพลทั้งหลายแหล่ในพื้นที่ป่าตอง ไม่ใช่เฉพาะเกิดจากคนในท้องถิ่นเท่านั้น แต่มาจากต่างถิ่นทั้งระดับชาติ และระดับสากลที่แฝงตัวเข้ามาโดย “นอมินี”
 
ความกล้าหาญของ “ย่อย เฉลิมลักษณ์ เก็บทรัพย์” อดีต ส.ส.หญิง ภูเก็ตคนนี้น่าติดตาม มาดูกัน ....
 
การเลือกตั้งนายกเทศมนตรี เทศบาลเมืองป่าตอง จังหวัดภูเก็ต และสมาชิกบางส่วน โดยเป็นไปตามคำสั่งศาลอุทธรณ์ภาค 8 ที่ให้ใบเหลือง ทำให้ตำแหน่งนายกฯ ว่างลง เมื่อวันที่ 7 มีนาคม 2557 และต้องประกาศให้มีการเลือกตั้งใหม่วันที่ 26 มีนาคม 2557 ที่ผ่านมา
 
“ย่อย เลิมลักษณ์ เก็บทรัพย์”  (“ย่อย” ออกเสียงสำเนียงใต้)
 
ได้รับเลือกตั้งเป็น นายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองป่าตอง ภูเก็ต ตามความคาดหมายของคอการเมือง
 

 
ปูมหลัง “ย่อย เฉลิมลักษณ์” หรือที่ชาวบ้านเรียกกันว่า “จี้หยอย” เป็นคนป่าตองโดยกำเนิด เล่นการเมืองท้องถิ่นมาตั้งแต่ป่าตองเป็นสุขาภิบาล จนถึงระดับชาติ เป็นอดีต ส.ส.ภูเก็ต พรรคประชาธิปัตย์ สมัยแรก ส.ส.เลือกตั้ง สมัยต่อมา ส.ส.บัญชีรายชื่อ หรือปาร์ตี้ลิสต์ 
 
แต่... บทบาทขณะเป็น ส.ส.เขต 2 ภูเก็ต พรรคประชาธิปัตย์ในยุคนั้น รวมทั้งขณะที่เป็น ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ ไม่โดดเด่นมากนัก แม้ในพรรคประชาธิปัตย์เอง ส่วนใหญ่ตกอยู่กับ “อ่อน อัญชลี วานิช เทพบุตร” แทบทั้งสิ้น
 
ต้องทำความเข้าใจสักนิด เกี่ยวกับตำแหน่งนายกเทศมนตรีเมืองป่าตองของ “ย่อย เฉลิมลักษณ์” ที่ได้รับเลือกตั้งเข้าไปแทน“เปี่ยน กี่สิ้น” หรือกำนันเปี่ยน อดีตนายกฯ ที่โดนใบเหลืองนั้น นัดนี้เปี่ยน ยังมีสิทธิลงสมัครแก้ตัวได้อีก แต่หล่นเก้าอี้นายกฯป่าตองจึงเป็นของ “ย่อย เฉลิมลักษณ์” มีโอกาสนับหนึ่งใหม่ ได้นั่งเก้าอี้ครบเทอม 4 ปี ส่วนสมาชิกที่ได้รับเลือกกลับเข้ามาใหม่ ก็ให้นับต่อจากที่ได้นั่งมาแล้ว ก็เหลือเวลา 2 ปี โดยประมาณ
 
รู้แค่นี้พอ ถ้ามัวพลิกกฎหมายมาดู ก็ปวดหัว แต่ถ้าใครอยากรู้ลึก ให้รู้แจ้งเห็นจริง ต้องถาม กกต.กันเอง
 
ระยะเวลาแค่ 4 ปี กับการแก้ปัญหาในเขตเทศบาลเมืองป่าตอง ที่สะสมมายาวนาน ที่ผู้บริหารชุดเก่า แก้แบบค้างคา และปัดสวะให้พ้นตัว หรือซุกใต้พรมนั้น ไม่ง่ายนัก สำหรับผู้ที่ได้รับเลือกตั้งเข้ามาแบบโดดเดี่ยวอย่าง “ย่อย เฉลิมลักษณ์” เฉพาะในสำนักงานเทศบาลเมืองป่าตอง ทั้งข้าราชการประจำ ลูกจ้าง เด็กของผู้บริหารชุดเก่า กลุ่มสมาชิกที่ได้รับเลือกตั้งเข้ามา ที่ไม่ใช่พวกไม่ใช่กลุ่มของตัวเอง ต้องใช้ความอดทน จิตวิทยา ความสามารถเฉพาะตัวสูง
 
กว่าจะเชื่อง เอามาใช้งานได้ และร่วมมืออย่างจริงจัง เป็นหนึ่งเดียว ด้วยความบริสุทธิ์ใจ น่าจะนานโข
 

 
แค่เดือนสองเดือนคงทำไม่สำเร็จ ไหนจะต้องถอดชนวนระเบิดเวลาที่ชุดเก่าวางไว้ เช็ดขี้เยี่ยว ปัดกวาดสิ่งปฏิกูลที่ซุกไว้ใต้พรม สะสางปัญหาใกล้ตัว ก็อ่วมแล้ว
 
“ป่าตอง” ต่างรู้กันดี เป็นแหล่งท่องเที่ยวระดับโลกของเกาะภูเก็ต ไม่ว่าจะดูอย่างฉาบฉวย หรือพินิจ ภาพลักษณ์ก็ออกมาในลักษณะเดียวกัน เต็มไปด้วยผลประโยชน์มหาศาลขององค์กรปกครองท้องถิ่น ภาครัฐ และเอกชน ทั้งถูกกฎหมาย และผิดกฎหมาย ถูกครอบด้วยกลุ่มอิทธิพล หลายกลุ่ม ที่ไม่ได้รับแก้ไข
 
หรือแก้แบบขอไปที ปากว่าตาขยิบ 
 
การเลือกตั้งนายกเทศมนตรีเมืองป่าตองครั้งนี้ “ย่อย เฉลิมลักษณ์” ชูจุดขายหาเสียงด้วยสโลแกน “5 จำทน ถึงเวลาต้องก้าวพ้น” หมายถึงปัญหาต่างๆ 5 ประการที่สร้างความรำคาญมาช้านาน ให้ชาวบ้านป่าตองเอง และผู้ที่ทำมาหากินอย่างสุจริต ถูกต้องตามกฎหมาย ตลอดจนนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเที่ยวแล้วมีปัญหาเดือดร้อน ไม่ได้รับความสะดวกนานาประการ
 
ต้องแก้ให้ได้ และก้าวให้พ้น ไปสู่ความถูกต้องเป็นธรรม มีความสะดวก ตามที่ถูกที่ควร
 

 
การหมักหมมของปัญหาจำทนมาช้านาน เมื่อมีผู้มาอาสาแก้ พาให้ก้าวพ้น ใครจะไม่ยินดี จุดขายหาเสียงจุดนี้ ทำให้ “ย่อย เฉลิมลักษณ์” ได้รับการตอบรับจากชาวป่าตองเป็นอย่างดี
 
ปัญหาทั้งหมดที่นายกเทศมนตรีหญิงคนแรกของเทศบาลเมืองป่าตอง ที่ผ่านการเลือกตั้งไปหมาดๆ ต้อง “พาก้าวพ้น” นั้น ไม่ใช่วัตถุก่อสร้าง ไม่ใช่ระเบียบปฏิบัติ หรือกฎหมายบ้านเมือง แต่การแก้ปัญหา ที่ “ย่อย เฉลิมลักษณ์” หรือ “จี้หยอย” ต้องแก้นั้น เป็นการแก้ที่ตัวบุคคล แก้นิสัยสันดาน ความเคยชิน ความเห็นแก่ตัว ไม่กลัวกฎหมาย ข้างผู้รักษากฎกติกาก็ไม่เข้ม เพราะมีผลประโยชน์ตอบแทน
 
การทำกฎหมายให้ศักดิ์สิทธิ์ มองผิวเผินดูน่าจะได้ไม่ยาก แต่จริงๆ แล้ว ต้องฝ่าด่านมหาโหด ที่เต็มไปด้วยอิทธิพล ชนิดที่อาจต้องแลกด้วยชีวิต ชนิดใจถึงใจ 
 
แต่ที่นายกเทศมนตรีสาว เมืองป่าตอง หมายมั่นปั้นมือจะทำเป็นอันดับแรก ก็เรื่องพื้นๆ เก็บกวาดขยะ ที่เป็นขยะจริงๆ ของเมืองป่าตอง ที่ว่ามีมากเป็นอันดับ 2 รองจากเทศบาลนครภูเก็ต จะจัดระบบจัดระเบียบยังไงก็น่าจะทำได้ ทำให้จริง ทำให้เข้ม ถ้าเอาจริง ก็น่าจะดีขึ้น
 
บ้านใด สถานประกอบการไหน ใครทิ้งขยะไม่ลงถัง ถ่มถุยส่งเดชในที่สาธารณะ เทศกิจ ตำรวจทุกคนเห็นจับ ส่งปรับ ปรับให้จริง ปรับให้เต็มอัตรา ไม่ใช่ว่างเวรยามแล้วไม่เกี่ยว ต้องให้ถือเป็นหน้าที่
 

 
ไม่ต้องกลัว ไม่ต้องเกรงใจ ป่าตองเป็นเมืองท่องเที่ยว คุณมาเที่ยว กินปี้ขี้เยี่ยว แล้วมาทำให้บ้านเมืองเราสกปรก มันไม่ถูกอยู่แล้ว รวมทั้งผู้ที่อยู่ในป่าตอง หากินกับนักท่องเที่ยวก็อยู่ในสถานะเดียวกัน
 
บริหารจัดการให้ดี เอาค่าปรับนั่นแหละ ไปจ่ายเป็นค่าธรรมเนียมเผาขยะให้เทศบาลนครภูเก็ต ที่ว่าโดยเฉลี่ยเทศบาลป่าตองต้องจ่ายวันละ 58,968 บาท หรือเดือนละ 1,500,000-1,800,000 บาท ถ้าได้ค่าปรับนี้ไปจ่าย โดยไม่ต้องไปเบียดเบียนเอาภาษีชาวป่าตอง ที่ควรจะนำไปจัดซื้ออุปกรณ์ถังขยะมาตั้ง หารถมาจัดเก็บให้เพียงพอ
 
เดือนเดียว ป่าตองสะอาด ไม่ต้องทำ 3 R อะไรนั่น เสียเวลา เปล่าประโยชน์ ความคิด 3 R นั้น ทำเป็นเรื่องรองดีกว่า หรือให้พวกแรงงานนอกระบบ ระดับรากหญ้าที่หาเช้ากินค่ำ คุ้ยขยะแยกขยะรีไซเคิล ได้หาเลี้ยงปากเลี้ยงท้องบ้าง
 
แต่เรื่องใหญ่ของป่าตองที่ทุกคนจับตามองว่า นายกเทศมนตรีหญิงคนนี้จะแก้อย่างไร ก็คือเรื่อง “อิทธิพล” ที่ว่าผู้บริหารฯรวมทั้งเจ้าหน้าที่รัฐบอกว่า “ไม่มี”  และ “ไม่เคยมี” แต่ผู้ว่าราชการจังหวัดทุกคน ที่มาปกครองเมืองภูเก็ต กลับได้รับการร้องเรียนเกี่ยวกับปัญหาป่าตอง เรื่องเดียวกันซ้ำแล้วซ้ำเล่า ทุกคนก็ลงพื้นที่เหมือนกัน เรียกประชุมทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งองค์กรปกครองท้องถิ่นคือ เทศบาลป่าตอง ตั้งแต่เป็นเทศบาลตำบล จนปรับขึ้นเป็นเทศบาลเมือง
 
ปฏิบัติทำแบบเดียวกันหมดทุกขั้นตอน แค่เปลี่ยนตัวผู้ว่าฯ ที่นั่งหัวโต๊ะ และวันเวลาเท่านั้น
 

 
ระหว่างประชุม มีการมอบหมายหน้าที่ ต่างฝ่ายต่างรับดำเนินการ เลิกประชุม ต่างฝ่ายต่างไป ก็ไม่รู้เหมือนกันไปทำอะไรบ้าง เพราะที่เห็น และเป็นอยู่ มันก็เหมือนเดิมทุกอย่าง แค่ช่วงหลังได้บัญญัติศัพท์มาใช้ เรียก “จัดระเบียบ” เท่านั้น
 
ทุกคนรู้ การแก้ปัญหา หรือที่เรียกว่า “จัดระเบียบ” เป็นหน้าที่ของเทศบาลจะต้องรับผิดชอบ โดยมีเจ้าหน้าที่เทศกิจเป็นมือเป็นตีน ตอนนี้ก็มี อส.เข้ามาเสริม มีตำรวจเป็นกำลังหนุน โดยเฉพาะการจราจรบนท้องถนน หาบเร่แผงลอย รวมทั้งจอดรถกีดขวางการจราจร
 
การจัดระเบียบเมืองป่าตองไม่เคยประสบความสำเร็จ ดีได้แค่ชั่วประเดี๋ยวเดียว ตั้งแต่การจอดรถทุกเส้นทาง ต่างจอดเหมือนถนนเป็นของข้าฯ คนเดียว ถนนหน้าหาด และอีกหลายสาย ถูกกลุ่มรถเช่า ทั้งรถจักรยานยนต์ รถยนต์ รวมทั้งรถตุ๊กตุ๊กป้ายเหลือง 30 และรถแท็กซี่ทั้งป้ายเขียว ป้ายดำยึดครองหมดทั้งสองฟากถนน ที่ห้ามจอดก็ยังจอด 
 
ผู้มีกิจธุระไปป่าตอง หรือนักท่องเที่ยว วนแล้ววนอีกเพื่อหาที่จอด พอมีที่ว่างจะเข้าไปจอด ก็ถูกขัดขวาง หรือถ้าดื้อจอด รับรองรถจะต้องมีอันเป็นไป ไม่ถูกขีดข่วนด้วยของแข็ง ยางรถก็ต้องแฟบ เจอกันบ่อย และเจอแน่ๆ
 
สอบถามกันได้ ทุกคนที่เคยไปป่าตอง และแม้ตำรวจจราจรเองต่างทราบดี แต่ไม่รู้จะจับมือใครดม หรือดมมือใคร ถึงจะรู้ก็ไม่มีใครกล้าแตะ ชี้ให้ตำรวจจับ พอคล้อยหลังก็ต้องปล่อย
 
ไม่ใช่เรื่องเก่า มาเล่าใหม่ แต่เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นไม่เว้นแต่ละวัน แม้แต่ผู้ประกอบการ หรือเจ้าของอาคารในย่านนั้นก็ยังไม่กล้าจอดรถหน้าอาคารของตัวเองนานๆ เพราะเกรงสายตาของบรรดาตุ๊กตุ๊ก แท็กซี่นักเลงเหล่านั้น ตำรวจยังแหยง
 
ใครสั่งจับ นัดปิดถนนประท้วง ให้ย้ายออกนอกพื้นที่
 
แล้วถ้าจะถามว่า กลุ่มรถเช่าทุกประเภท รถตุ๊กตุ๊ก รถแท็กซี่ เหล่านั้นเป็นของใครมาจากไหน รวมทั้งขยะร่ม ขยะเตียงผ้าใบที่มีอยู่เต็มหาด เป็นของใคร ทำไมไม่มีการเก็บกวาด ป่าตองทั้งบาง เขารู้กัน หากจะเค้นเอาคำตอบ ก็คงได้แค่รอยยิ้มอย่างระอา แบบเบื่อที่จะตอบ
 
ดังนั้น การอาสาเข้ามาแก้ไข พาป่าตองให้ก้าวพ้น “อิทธิพล” เวลา 4 ปี อย่างโดดเดี่ยว ไม่มีใครช่วยลากช่วยดัน จะตะกายข้ามไปได้หรือ เพราะทุกธุรกิจ ไม่ว่าแท็กซี่ ตุ๊กตุ๊กป้ายเหลือง 30 หรือรถเช่าทุกชนิดที่จอดเกลื่อนป่าตอง จนไม่มีที่ให้บุคคลภายนอกจอด หาที่ขี้เยี่ยวชั่วครู่ชั่วยาม ล้วนอยู่ในอาณัติของนักการเมืองท้องถิ่น หรือไม่ก็ลูกหลาน รวมทั้งเจ้าหน้าที่รัฐที่มีมงกุฎครอบดาวเอี่ยวด้วยทั้งสิ้น
 
ทั้งหมดที่ว่ามานั้น ใช่ว่า “จี้หยอย” หรือ “ย่อย เฉลิมลักษณ์” ที่บ้านอยู่ป่าตอง เกิดที่ป่าตอง โตที่ป่าตอง ปัจจุบันก็อยู่ป่าตอง ต้องรู้ดี
 
และที่กล้าท้าทาย ชิงเก้าอี้นายกเทศมนตรีเมืองป่าตองเอามาได้ อย่างไม่ยากเย็น ก็น่าจะต้องมีดี มีกุนซือที่มีอิทธิพลพอตัว และน่าจะทำการบ้านมาแล้วเป็นอย่างดี จากนี้ไปต้องจับตาดู ว่าที่นายกเทศมนตรีสาว เมืองป่าตอง “ย่อย เฉลิมลักษณ์ เก็บทรัพย์” จะได้นั่งเก้าอี้ที่ได้มาหรือไม่ และจะพาป่าตองก้าวพ้นอิทธิพลได้อย่างไร ขณะที่นั่งจิ้มต้นฉบับอยู่นี้ กกต.ยังไม่ได้ประกาศเป็นทางการ.
 
 

กำลังโหลดความคิดเห็น