นราธิวาส - การท่องเที่ยวนราธิวาส จัดกิจกรรมส่งเสริมประเพณีบุญบั้งไฟสุคริน อ.สุคิริน จ.นราธิวาส หนึ่งเดียวภาคใต้ปลายด้ามขวาน สืบสานประเพณีอีสาน ร่วมอยู่พุทธ-มุสลิมฉันพี่น้อง
วันนี้ (12 มิ.ย.) ผู้สื่อข่ารายงานว่าที่ ต.ภูเขาทอง อ.สุคิริน จ.นราธิวาส การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงาน จ.นราธิวาส ได้มีการส่งเสริมประเพณีของชาวอีสาน ซึ่งนับพันครอบครัว ส่วนใหญ่มีอพยพย้ายถิ่นฐานมาจากภาคอีสาน ออกมาร่วมงานประเพณีบุญบั้งไฟ ประจำปี 2557 ซึ่งชาวภูเขาทอง ได้มีการเฉลิมฉลองประเพณีดังกล่าวมาตั้งแต่เกือบ 30 ปี
และประเพณีบั้งไฟที่นี้ไม่แตกต่างเช่นเดียวกันในแผ่นดินอีสานที่พวกเขาจากมา ซึ่งมักนิยมจัดงานบุญบั้งไฟในช่วงเดือนหก เพื่อขอฝนจากพญานาคราช ซึ่งเชื่อว่า เป็นเทพเจ้าแห่งฝน เพียงแต่บุญบั้งไฟที่สุคิรินนั้นกลับสืบสานขึ้นมาเพื่อขอให้ฝนตกน้อย เพราะที่นี่ล้อมด้วยเขา และมีความอุดมสมบูรณ์ในพืชพันธ์ และป่าไม้นานาพันธุ์ การเริ่มประเพณีบุญบั้งไฟ ในช่วงเช้าชาวพุทธจะเลี้ยงอาหารพระในช่วงเช้า และชาวบ้านในหมู่บ้าน ทั้งผู้เฒ่า ผู้แก่ หนุ่มสาว และเด็กในแต่ละหมู่บ้าน จะร่วมกันคิดค้นเพื่อวาดลวดลายความสวยงาม จัดริ้วขบวนบั้งไฟพญานาค แห่ประกวดเข้าในบริเวณงาน สร้างบรรยากาศอย่างคักคึกอย่างสนุกสนาน จากนั้นจะมีการจุดบั้งไฟของชาวบ้านแต่ละหมู่บ้านนับร้อยลูก เพื่อหาผู้ชนะและรับรางวัล ท่ามกลางรอยยิ้มของคนในพื้นที่
นายวีรพงศ์ แก้วสุวรรณ รอง ผวจ.นราธิวาส บอกแก่เราว่า ประเพณีบุญบั้งไฟ ซึ่งจัดขึ้นเป็นแห่งเดียวในภาคใต้ เพื่อสืบสาน และอนุรักษ์วัฒนธรรมอันดีงานของชาวอีสาน หลังจากที่ได้อพยพครอบครัวมาตั้งหลักแหล่งอยู่ในพื้นที่ อ.สุคิริน เมื่อปี พ.ศ.2519 ช่วงสมัยปราบโจรจีนคอมมิวนิสต์ ซึ่งปัจจุบันมีชาวอีสานอาศัยอยู่ประมาณ 700 ครัวเรือน และสามารถอยู่ดำรงชีวิตได้อย่างมีความสุขกับชนชาวมุสลิม จนพื้นที่ 8 หมู่บ้านกลายเป็นพื้นที่สีเขียวมาโดยตลอด
จากความไว้วางใจซึ่งกันและกัน จนคนอีสาน และชาวมุสลิมที่อาศัยอยู่ดั้งเดิมอยู่ร่วมกันในสังคมแบบกลมกลืน โดยเชื่อว่าการจัดงานในครั้งนี้ยังเป็นการลบภาพลักษณ์อันเลวร้ายที่เกิดขึ้นในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ให้คนทั้งประเทศได้รู้ว่าพื้นที่ทุกหนแห่งยังมีคนดีอาศัยอยู่ได้ด้วยความปรองดอง มีเพียงเสี้ยวส่วนหนึ่งเท่านั้น ที่ต้องร่วมกันจำกัดให้ออกจากสังคม นอกจากนี้ การจัดงาน 3 วัน 3 คืน ในครั้งนี้ ระหว่างวันที่ 11 มิ.ย.57 ถึงวันที่ 13 มิถุนายน 57 เชื่อว่าจะมีเงินแพรสะพัดในพื้นที่ไม่ต่ำกว่า 5 ล้านบาท
กล่าวคือ การจัดงานประเพณีบุญบั้งไฟดังกล่าวเป็นการจัดงานประจำปีของชาว อ.สุคิริน ที่สืบสานประเพณีวัฒนธรรมอันดีของประชาชนในพื้นที่ที่ผสมผสานระหว่างวัฒนธรรมของประชาชนชาวอีสาน กับประชาชนชาวมุสลิมเข้าด้วยกัน เนื่องจาก ต.ภูเขาทอง มีชาวอีสานที่มาอาศัยตั้งรกรากอยู่ในพื้นที่แห่งนี้กว่า 40 ปี โดยประชากรร้อยละ 98 เป็นชาวไทยอีสาน หรือประมาณ 25,000 คน ส่วนอีกร้อยละ 2 เป็นชาวไทยนับถือศาสนาอิสลาม จำนวน 20 หลังคาเรือน
ที่สำคัญในงานประเพณีบั้งไฟ เมื่อถึงเวลาจุดจะมีคนให้สัญญาณนับถอยหลัง จนกระทั่งบั้งไฟสู่ขึ้นท้องฟ้า ท่ามกลางประชาชนที่เดินทางมาร่วมงานนับ 1,000 คน ซึ่งมีกลุ่มชาวบ้านในพื้นที่ และชาวมาเลเซียที่เดินทางมาร่วมงาน และเห็นการจุดบั้งไฟขึ้นท่องฟ้า ต่างพูดเป็นภาษาอีสานว่า แซ่บหลาย นี้เป็นประเพณีบั้งไฟอีสาน ในปลายด้ามขวาน และที่เป็นตัวเชื่อมบนความแตกต่างที่ไม่แตกแยก และเป็นการแสดงออกของคนในพื้นที่ ถึงการอยู่ร่วมกันอยู่อย่างสันติสุข อย่างประเพณีบั้งไฟ อ.สุคิริน จ.นราธิวาส แห่งเดียวในภาคใต้นั่นเอง
