นครศรีธรรมราช - คนร้ายก่อเหตุโจรกรรมพระพุทธรูปโบราณในวัดลาว อ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช ส่วนชาวบ้านระบุเกรงคนร้ายนำเอาไปหลอม เนื่องจากมีโลหะสำคัญหลายอย่าง ขณะที่เจ้าหน้าที่เข้าเก็บลายนิ้วมือหาตัวคนร้าย คาดมาไม่ต่ำกว่า 2 คน
วันนี้ (12 มิ.ย.) เมื่อเวลา 07.00 น. ร.ต.ท.พิชิต เกื้อสกุล พนักงานสอบสวนเวร สภ.เกาะทวด อ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช รับแจ้งเหตุคนร้ายเข้าไปก่อเหตุโจรกรรมพระพุทธรูปโบราณ ในวัดลาว ท้องที่หมู่ 6 ต.ชะเมา อ.ปากพนัง หลังจากนั้นจึงเข้าทำการสอบสวน พร้อมด้วย พ.ต.ต.สิงหล วิโรจน์ หน.พนักงานสอบสวน
ในที่เกิดเหตุภายในวัด พบชาวบ้านมารวมตัวกันในบริเวณลานวัด ซึ่งเป็นวัดที่ชาวบ้านได้ร่วมใจกันสร้างขึ้นเมื่อเกือบ 100 ปีที่ผ่านมา ด้วยความเศร้า และความเสียดาย หลังจากที่คนร้ายได้เข้าก่อเหตุโจรกรรมพระพุทธรูปโบราณ ปางอุ้มบาตรขนาดสูงเกือบ 2 เมตร ซึ่งเป็นพระโบราณที่ประดิษฐานอยู่บนศาลาการเปรียญ ในช่วงย่ำรุ่งที่ผ่านมา ขณะที่พนักงานสอบสวน สภ.เกาะทวด และตำรวจวิทยาการ เข้าทำการสอบสวนที่เกิดเหตุพบว่า มีรอยเท้า และลายนิ้วมือ อย่างน้อย 2 คน เนื่องจากพระพุทธรูปมีขนาดใหญ่ และน้ำหนักมาก
พระครูสุทธิญาณวิมล เจ้าอาวาสวัดลาว แจ้งเจ้าหน้าที่ว่า เมื่อช่วงเวลาประมาณ 04.30 น. ได้มาเตรียมเปิดศาลาการเปรียญกลับพบว่า ประตูเหล็กด้านข้างเปิด จึงเข้าไปดูพบว่าพระพุทธรูปสำคัญประจำวัดได้ถูกคนร้ายโจรกรรมไปแล้ว ซึ่งพระพุทธรูปปางอุ้มบาตรองค์นี้ชาวบ้านต่างเคารพนับถือช่วงเทศกาลออกพรรษาจะพากันมาอัญเชิญขึ้นประดิษฐานบนเรือพนมพระออกแห่ไปตามจุดต่างๆ
นายสมัคร ผุดวัฒน์ อายุ 70 ปี ระบุว่า ชาวบ้านต่างรู้สึกเสียใจเป็นอย่างมากที่พระพุทธรูปองค์นี้ถูกโจรกรรมไป เพราะเป็นพระที่ชาวบ้านนำมาประกอบพิธีช่วงออกพรรษาของทุกปี ซึ่งยังคงเหลืออยู่อีกองค์ที่ต้องระมัดระวังไม่ให้สูญหายไปได้อีก คนร้ายจะโจรกรรมไปแล้วอาจจะนำไปขายตามใบสั่งให้แก่นักสะสมพระพุทธรูปของเก่า หรือซ้ำร้ายกว่านั้นอาจถูกไปหลอมเนื่องจากพระพุทธรูปองค์นี้ถูกหล่อขึ้นด้วยโลหะสำคัญหลายอย่าง โดยเฉพาะโลหะนาค ที่ทำให้เนื้อพระพุทธรูปมีสีเข้ม
วันนี้ (12 มิ.ย.) เมื่อเวลา 07.00 น. ร.ต.ท.พิชิต เกื้อสกุล พนักงานสอบสวนเวร สภ.เกาะทวด อ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช รับแจ้งเหตุคนร้ายเข้าไปก่อเหตุโจรกรรมพระพุทธรูปโบราณ ในวัดลาว ท้องที่หมู่ 6 ต.ชะเมา อ.ปากพนัง หลังจากนั้นจึงเข้าทำการสอบสวน พร้อมด้วย พ.ต.ต.สิงหล วิโรจน์ หน.พนักงานสอบสวน
ในที่เกิดเหตุภายในวัด พบชาวบ้านมารวมตัวกันในบริเวณลานวัด ซึ่งเป็นวัดที่ชาวบ้านได้ร่วมใจกันสร้างขึ้นเมื่อเกือบ 100 ปีที่ผ่านมา ด้วยความเศร้า และความเสียดาย หลังจากที่คนร้ายได้เข้าก่อเหตุโจรกรรมพระพุทธรูปโบราณ ปางอุ้มบาตรขนาดสูงเกือบ 2 เมตร ซึ่งเป็นพระโบราณที่ประดิษฐานอยู่บนศาลาการเปรียญ ในช่วงย่ำรุ่งที่ผ่านมา ขณะที่พนักงานสอบสวน สภ.เกาะทวด และตำรวจวิทยาการ เข้าทำการสอบสวนที่เกิดเหตุพบว่า มีรอยเท้า และลายนิ้วมือ อย่างน้อย 2 คน เนื่องจากพระพุทธรูปมีขนาดใหญ่ และน้ำหนักมาก
พระครูสุทธิญาณวิมล เจ้าอาวาสวัดลาว แจ้งเจ้าหน้าที่ว่า เมื่อช่วงเวลาประมาณ 04.30 น. ได้มาเตรียมเปิดศาลาการเปรียญกลับพบว่า ประตูเหล็กด้านข้างเปิด จึงเข้าไปดูพบว่าพระพุทธรูปสำคัญประจำวัดได้ถูกคนร้ายโจรกรรมไปแล้ว ซึ่งพระพุทธรูปปางอุ้มบาตรองค์นี้ชาวบ้านต่างเคารพนับถือช่วงเทศกาลออกพรรษาจะพากันมาอัญเชิญขึ้นประดิษฐานบนเรือพนมพระออกแห่ไปตามจุดต่างๆ
นายสมัคร ผุดวัฒน์ อายุ 70 ปี ระบุว่า ชาวบ้านต่างรู้สึกเสียใจเป็นอย่างมากที่พระพุทธรูปองค์นี้ถูกโจรกรรมไป เพราะเป็นพระที่ชาวบ้านนำมาประกอบพิธีช่วงออกพรรษาของทุกปี ซึ่งยังคงเหลืออยู่อีกองค์ที่ต้องระมัดระวังไม่ให้สูญหายไปได้อีก คนร้ายจะโจรกรรมไปแล้วอาจจะนำไปขายตามใบสั่งให้แก่นักสะสมพระพุทธรูปของเก่า หรือซ้ำร้ายกว่านั้นอาจถูกไปหลอมเนื่องจากพระพุทธรูปองค์นี้ถูกหล่อขึ้นด้วยโลหะสำคัญหลายอย่าง โดยเฉพาะโลหะนาค ที่ทำให้เนื้อพระพุทธรูปมีสีเข้ม
