อดีตนายก อบจ.สุราษฎร์ฯ โร่แจ้งความเอาผิดขบวนการฟอกรถหรู

สุราษฎร์ธานี - อดีตนายก อบจ.สุราษฎร์ธานี โร่เข้าแจ้งความเอาผิดต่อขบวนการฟอกรถหรู หลังรถเก๋ง BMWรุ่น 520 D Sport ปี 2009 ของตนเองถูกเปลี่ยนนำรถผีมาสวมทับ แล้วนำรถที่ถูกต้องของตนเองไปอย่างลอยนวล แต่เรื่องมาแดงตอนขนส่งจังหวัดตรวจสภาพเพื่อโอนเปลี่ยนชื่อ

เมื่อเวลา 09.00 น.วันนี้ (11 มิ.ย.) นายมนตรี เพชรขุ้ม อดีตนายก อบจ.สุราษฎร์ธานี พร้อมด้วย นายวศิกร สังข์ทอง เลขาฯ ส่วนตัว ได้เข้าพบ พ.ต.ท.พิชัย สองเมือง พนักงานสอบสวน สภ.เมืองสุราษฎร์ธานี เพื่อแจ้งความลงบันทึกประจำวัน กรณีรถยนต์เก๋งยี่ห้อ BMW รุ่น 520 D Sport ปี 2009 สีดำ หมายเลขทะเบียน กค 5533 สุราษฎร์ธานี หมายเลขเครื่องยนต์ 80117138 หมายเลขตัวถัง MMFNX 37070 CK 99471 ที่ตนได้ซื้อรถป้ายแดงมาจากศูนย์บริการ Europa Motor ที่ตั้งอยู่บริเวณถนนจรัญสนิทวงศ์ 16 เขตบางพลัด เมื่อต้นปี 2552 ในราคาประมาณ 3,800,000 บาท และได้โอนย้ายมาใช้รถที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี พร้อมตรวจสภาพต่อทะเบียนทุกๆ ปี ไม่พบปัญหาอะไร

ต่อมา เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา รถคันดังกล่าวได้เข้าไปตรวจสภาพรถที่ขนส่งจังหวัดสุราษฎร์ธานี เพื่อทำการโอนเปลี่ยนมือ แต่ปรากฏว่า จากการตรวจสอบสภาพรถพบว่า ตัวเลขเครื่องยนต์มีการลบ และตีตัวเลขใหม่ หมายเลขตัวถังรถก็มีร่องรอยการตัดสับเปลี่ยนตีตัวเลขใหม่ ตัวสัญลักษณ์ของ BME ด้านท้ายตัวเลขหายไป ทางเจ้าหน้าที่ขนส่งระบุว่าตัวรถมีการสวมสับเปลี่ยนกับตัวรถเดิม โดยนำซากรถคันนี้มาสวมทับให้แก่เจ้าของเดิม

ต่อมา ตนได้นำรถคันดังกล่าวไปขายให้แก่ทางราชาเต็นท์รถมือ 2 ถนนเลี่ยงเมืองสุราษฎร์ธานี อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี เมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม 2557 ต่อมา เมื่อวันที่ 5 มิถุนายนที่ผ่านมา ทางเต็นท์รถได้ขายต่อผู้ซื้อรายหนึ่ง และนำรถไปตรวจสภาพเพื่อดำเนินการโอนเปลี่ยนชื่อ เรื่องจึงแดงขึ้นว่าตัวรถมีการสับเปลี่ยน และตีตัวเลขสวมทับ ตนจึงมาแจ้งความเป็นหลักฐานเพื่อดำเนินคดีเอาผิดต่อผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง

ในเบื้องต้น นายมนตรี ระบุว่า รถของตนได้ประสบอุบัติเหตุเมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน 2556 ตัวรถได้รับความเสียหาย จึงได้ส่งรถเข้าซ่อมที่ศูนย์บริการของ BMW ที่ตนออกรถมา โดยทำการซ่อมเป็นเวลาประมาณ 1 เดือน จึงได้รับรถกลับมา ตนก็ได้ใช้ตลอดมาไม่เคยมีอุบัติเหตุอีกเลย และไม่เคยเข้าอู่ซ่อมที่เสียเวลาเป็นวันๆ อีก และมาขายให้ทางเต็นท์รถมือ 2 ซึ่งตนสงสัยว่า ขบวนการสับเปลี่ยนรถนั้นอาจมาจากการที่รถของตนเข้าอู่ซ่อมที่ศูนย์บริการนานเกือบ 1 เดือน หรือไม่อาจจะถูกสับเปลี่ยนรถขณะรถจอดรอขายอยู่ในความรับผิดชอบของราชาเต็นท์รถก็เป็นไปได้

แต่อย่างไรก็ตาม พนักงานสอบสวนจะได้นำรถคันดังกล่าวมาให้เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน 8 สุราษฎร์ธานี ดำเนินการตรวจสอบให้แน่ชัดว่าหลักฐานที่ปรากฏอยู่นั้นว่ามีการจัดทำมาเป็นเวลานานเท่าไร จึงจะได้ดำเนินการสืบสวนสอบสวนเอาผิดต่อผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องต่อไป