เกาะกระแส
00 ไม่น่าเชื่อว่าในยุคที่บ้านเมืองกำลังตื่นตัวกันในเรื่องปฏิรูปกันทุกด้าน เพื่อให้มีการขับเคลื่อนไปข้างหน้าอย่างเหมาะสม และกลมกลืนกับนิสัยและความเป็นอยู่ของคนไทย แต่จู่ๆ ดันมีคนอีกกลุ่มหนึ่งที่ออกมาขวางโลก คิดแบบทวนกระแส อ้างถึงความไม่ชัดเจนด้านกม. บางคนก็อ้างต่อกันมาว่าไม่เคยยื่นบัญชีทรัพย์สินมานานแล้ว และกระจัดกระจาย รวบรวมยาก สารพัดแล้วแต่จะอ้าง แต่ยิ่งอ้างยิ่งพูดมากเท่าใดก็ยิ่งรังแต่ทำให้ชาวบ้านเขา "รู้สึกเหยียดหยาม" และพาลพาให้องค์กรโดยรวมพาเสื่อมถอยไปด้วย ใช่แล้วกำลังกล่าวถึง กลุ่มสนช. ที่มีการระบุจำนวนออกมาว่า มีประมาณ 28 คน กำลังรวบรวมชื่อกันฟ้องต่อศาลปกครอง เพื่อขัดขวางไม่ให้ ป.ป.ช. ตรวจสอบทรัพย์สินและบัญชีหนี้สิน หรือไม่ต้องยื่นบัญชีทรัพย์สินดังกล่าว อ้างว่า "ไม่มีอำนาจ"
00 ที่จริงอยากนำรายชื่อทั้งหมดมาเปิดเผยให้ชาวบ้านได้รับรู้ทั้งหมดว่ามีใครกันบ้าง แต่เท่าที่รู้ตอนนี้ก็มี พล.อ.นพดล อินทปัญญา สนช. ที่ปรึกษา คสช. และยังเป็นถึงประธานคณะกรรมการสรรหา สปช. ด้านสื่อสารมวลชนเสียด้วยซีพี่น้อง พูดง่ายๆ ก็คือเขาคนนี้มีสวนสำคัญในการ "ปฏิรูปบ้านเมือง" เสียด้วย เรียกได้ว่ากำลังมีบทบาทสำคัญไม่น้อย แต่เมื่อมีความคิดแบบนี้ มันก็ต่องบอก "ไม่น่าเชื่อ" ที่จะมีความคิดแบบนี้ออกมาได้ เพราะเรื่องแบบนี้ ที่จริงไม่จำเป็นต้องใช้กฎระเบียบ ข้อกม.มาบังคับเสียด้วยซ้ำ แต่มันต้องมีจิตสำนึก มีสปิริตเสียสละ ต้องยื่นบัญชีทรัพย์สินให้ตรวจสอบแต่โดยดี และยิ่งมาอ้างว่า สนช.ไม่ใช่ตำแหน่งทางการเมือง มันก็ยิ่งไปกันใหญ่ เพราะตามรธน. ก็ระบุว่าทำหน้าที่ ส.ส.และส.ว. นี่มันชัดยิ่งกว่าชัด อย่างไรก็ดี มีเหตุผลเดียวที่อาจทำให้เข้าใจว่าไม่ใช่ตำแหน่งการเมือง ก็คือ "ไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง" แต่มาจากการรัฐประหารเท่านั้น
00 แต่นั่นไม่สำคัญเท่ากับ "จิตสำนึก" เป็นตัวอย่างที่ดี มันช่างต่างกับนายทหารบางคนก่อนหน้านี้ที่เป็น คสช. ที่ตอนนั้นยังมีข้อสงสัยว่าจะต้องยื่นบัญชีทรัพย์สินหรือไม่ แต่พวกเขาก็รีบประกาศทันทีว่า พร้อมให้ตรวจสอบเพราะเห็นว่าเมื่อเป็นบุคคลสาธารณะ ก็ต้องเป็นตัวอย่างที่ดี ซึ่งก็ต้องเป็นแบบนั้นอยู่แล้ว เพราะขนาด พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ก็ยื่นบัญชีทรัพย์สินฯต่อป.ป.ช. ในฐานะนายกฯ ไปเรียบร้อยแล้ว แล้ว พล.อ.นพดล เป็นใคร ถึงยังอิดออด ก็อยากเตือนสักหน่อยว่า ถ้าไม่พร้อมก็ลาออกไปเถอะ บ้านเมืองไม่เดือดร้อนไปมากกว่านี้หรอก หากต้องขาดคนแบบนี้ไปสักคนหนึ่ง เพราะถ้าเรื่องแค่นี้ยังไม่พร้อม มันก็ช่วยไม่ได้ที่จะทำให้ชาวบ้านเขาสงสัยว่า มันมีอะไรต้องปิดบังหรือเปล่า !!
00 ได้ยินคำพูดของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคสช. และนายกฯ ที่กล่าวระหว่างไปอำลาตำแหน่ง ผบ.ทบ. ที่ค่ายวชิราวุธ ที่ประกาศว่า ปัญหาชายแดนใต้ "ต้องจบภายใน1ปี" เนื่องจากมีการบูรณาการ และการแกัปัญหาอย่างเป็นเอกภาพมากที่สุด ก็อยากจะเชื่อและภาวนาอยากให้เป็นตามคำพูด แต่ปัญหาชายแดนใต้มันซับซ้อน และยากเกินกว่าจะใช้เวลาสั้นๆ แค่นี้ ภายในเวลา 1 ปี หากทำให้สถานการณ์เบาบางลงมาได้ก็ถือว่าเจ๋งแล้ว
00 อย่างไรก็ดี เมื่อพิจารณาจากตัวบุคคลที่ถูกสับเปลี่ยนลงไปแก้ปัญหา ก็ถือว่าจับงานมาอย่างต่อเนื่อง ทั้งนายกฯ คือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่เพิ่งพ้นจากเก้าอี้ ผบ.ทบ. ส่งมอบให้ พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร ผบ.ทบ. คนใหม่ แม่ทัพภาคที่ 4 คนใหม่ ที่เคยเป็นรองแม่ทัพภาคที่ 4 มาก่อน ภาณุ อุทัยรัตน์ เลขาฯ ศอ.บต. ทุกคนล้วนคุ้นเคยพื้นที่รับรู้ปัญหามาอย่างดี ก็เป็นความหวังได้ไม่น้อย แต่ในทางตรงกันข้าม หากไม่ดีขึ้น หรือยังเหมือนเดิมอีก ก็ต้องมาพิจารณากันใหม่ว่า "ปัญหามันมาจากไหน" กันแน่ !!
