ดึง ปปง.สอบทรัพย์สินแท็กซี่ป้ายดำ เหิมเกริมข่มขู่ลูกพยาน

ศูนย์ข่าวภูเก็ต - ตำรวจภูธรภาค 8 ดึงสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) เข้าตรวจสอบแท็กซี่ป้ายดำที่ถูกจับกุมเกี่ยวกับการฟอกเงินแล้ว เผยมีหลายรายทำอาชีพแท็กซี่ แต่มีทรัพย์สินหลักร้อยล้าน คาดใช้เวลาไม่นานยึดทรัพย์ได้แน่นอน ส่วนผู้ที่ถูกจับกุมขณะนี้ได้รับการประกันตัวทั้งหมดแล้ว พร้อมสั่งกำชับดูแลความปลอดภัยของพยานอย่างดีที่สุด เพราะขณะนี้บุคคลใกล้ชิดพยานถูกข่มขู่แล้ว

จากกรณีที่ตำรวจภูธรภาค 8 ได้บูรณาการสนธิกำลังร่วมกับฝ่ายปกครองจังหวัดภูเก็ต และมณฑลทหารบกที่ 41 เข้าดำเนินการจับกุมผู้ต้องหา ซึ่งเป็นกลุ่มแท็กซี่ที่มีพฤติกรรมกระทำความผิดต่อผู้อื่นในเรื่องเสรีภาพ กรรโชกทรัพย์ และซ่องโจร ตามที่ศาลจังหวัดภูเก็ต ได้อนุมัติหมายจับไว้แล้ว จำนวน 111 หมาย ผู้ต้องหา จำนวน 108 คนนั้น ผลการปฏิบัติตั้งแต่วันที่ 4 มิถุนายน 2557 จนถึงปัจจุบัน สามารถจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับได้แล้ว จำนวน 98 หมาย ผู้ต้องหา จำนวน 95 คน อยู่ระหว่างการสอบสวนดำเนินคดีตามกระบวนการของกฎหมาย โดยจะได้พยายามติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหาที่ยังคงเหลืออยู่ จำนวน 13 หมาย ผู้ต้องหา 13 คน เข้าสู่กระบวนการยุติธรรมให้ครบถ้วนต่อไป และมีการรื้อเต็นท์ หรือซุ้มของแท็กซี่ดังกล่าวในพื้นที่ ต.กะรน จำนวน 10แห่ง ต.เชิงทะเล จำนวน 4 แห่ง และ ต.กมลา จำนวน 2 แห่ง รวม 16 แห่ง ในหลายพื้นที่ ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อเวลา 14.30 น.วันนี้ (6 มิ.ย.) พล.ต.ท.ปัญญา มาแม่น ผบช.ภ.8 พร้อมด้วย พล.ต.ต.กระจ่าง สุวรรณรัตน์ รองผบช.ภ.8 รักษาราชการแทนผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต พล.ต.ต.สมชาย อ่วมถนอม รอง ผบช.ภ.8 พล.ต.ต.ปวีณ พงศ์สิรินทร์ ผบก.อก.ภ.8 ร่วมกันแถลงข่าวความคืบหน้าการดำเนินการแก้ไขปัญหากลุ่มแท็กซี่ที่กระทำผิดกฎหมายในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต โดยมีรองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต ผู้กำกับทุกสถานีตำรวจในจังหวัดภูเก็ต เข้าร่วม

พล.ต.ท.ปัญญา มาแม่น ผบช.ภ.8 กล่าวว่า จากการดำเนินการกวาดล้างกลุ่มแท็กซี่ที่ทำตัวข่มขู่ ข่มเหงนักท่องเที่ยว สร้างความเดือดร้อนไปทั่ว ซึ่งมีการออกหมายจับ จำนวน 111 หมายจับ สามารถตามจับกุมตัวได้แล้ว 98 หมาย ผู้ต้องหา 95 คน และอยู่ระหว่างติดตามจับกุมตัวอีก 13 คน นอกจากนั้น ยังมีการรื้อถอนคิวแท็กซี่ในตำบลกะรน 10 แห่ง ต.เชิงทะเล 4 แห่ง ต.กมลา 2 แห่ง และตำบลราไวย์ อีกจำนวนหนึ่ง ซึ่งขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่กำลังเร่งดำเนินการรื้อถอนคิวต่างๆ ที่ใช้พื้นที่สาธารณะทำประโยชน์ให้หมดสิ้นต่อไป

พล.ต.ท.ปัญญา กล่าวอีกว่า ขณะนี้ได้มีการประสานกับ นายชาญชัย พงศ์ภัสสร ผู้อำนวยการกองคดี 3 สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) เพื่อให้เข้ามาตรวจสอบแท็กซี่ที่เกี่ยวข้องกับกฎหมายฟอกเงินด้วย และในวันนี้ทาง ปปง.ก็ได้ลงพื้นที่ภูเก็ตเพื่อเก็บข้อมูลของกลุ่มแท็กซี่แล้ว มีอยู่หลายรายที่ต้องให้ ปปง.เข้าไปตรวจสอบ บางรายทำแค่อาชีพแท็กซี่ แต่มีทรัพย์สินหลักร้อยล้านบาท ซึ่งจะใช้เวลาไม่นานเพื่อดำเนินการยึดทรัพย์ต่อไป

ในส่วนของผู้ต้องหาที่ถูกจับกุม และมามอบตัวทั้งหมด ขณะนี้ได้รับการประกันตัวไปหมดทุกคนแล้ว ซึ่งเมื่อวานนี้ (5 มิ.ย.) ตนได้ให้นโยบายต่อหัวหน้าสถานีให้คุ้มครองพยานให้ดีที่สุด ห้ามให้แท็กซี่ที่ได้รับการประกันตัว หรือเครือญาติเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับพยาน ห้ามข่มขู่ข่มเหงพยาน หากพบว่ามีการเข้าข่มขู่พยานก็จะมีการพิจารณาขอร้องศาลเพื่อถอนประกันทันที และขณะนี้พบแล้วว่า มีการข่มขู่บุคคลที่ใกล้ชิดพยาน คือ ลูกของพยานในพื้นที่ สภ.ฉลอง เรื่องนี้จะเร่งเข้าไปตรวจสอบโดยด่วน

พล.ต.ท.ปัญญา กล่าวทิ้งท้ายว่า ในการดำเนินการครั้งนี้ไม่ได้ดำเนินการในเรื่องของแท็กซี่ ที่เกี่ยวกับ พ.ร.บ.จราจร แต่ดำเนินการต่อแท็กซี่ ที่ตั้งกลุ่มเป็นอังยี่ซ่องโจร ตั้งตัวเป็นกลุ่มแก๊งแล้วข่มขู่ ข่มเหง กรรโชกทรัพย์นักท่องเที่ยว ซึ่งกลุ่มนี้เป็นกลุ่มที่เป็นเป้าหมายของตำรวจ และขอทำความเข้าใจกับแท็กซี่ว่า แท็กซี่ส่วนใหญ่นั้นเป็นคนดี ก็ให้ทำดีต่อไป โดยหลังจากนี้จะเร่งทำหนังสือถึงกงสุลประเทศต่างๆ เพื่อทำความเข้าใจแก่นักท่องเที่ยว ที่ก่อนหน้านี้อาจะมีแท็กซี่ข่มขู่ แต่หลังจากการดำเนินขั้นเด็ดขาดเชื่อว่านักท่องเที่ยวทุกคนเข้าใจ มีการเสนอข่าวไปยังต่างประเทศ จะสร้างความเชื่อมั่นให้นักท่องเที่ยวกลับมาท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ตเพิ่มขึ้นแน่นอน

แต่อย่างไรก็ตาม ในพื้นที่ป่าตอง อ.กะทู้ นั้น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ได้นิ่งนอนใจ จะลงพื้นที่จับกุมเช่นกัน แต่ต้องรอให้ดำเนินคดีต่อผู้ที่ถูกจับกุมทั้งหมดก่อน แล้วจากนั้นจะลงพื้นที่ป่าตอง เพื่อทำการจับกุมทันที